กอ.รมน.ประจวบฯร่วมครูอาสา ลงพื้นที่ช่วย'น้องก้าน'เด็กตาบอดยากจน
เมื่อเร็ว ๆ นี้ พ.อ.กรกานต์ นาเวชวนิชกุล รอง ผอ.รักษาความมั่นคงภายใน( รมน. ) จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย ส.อ.กันตินันท์ ชูชื่น เจ้าหน้าที่ส่วนประสานงาน กอ.รมน.ประจำ อ.บางสะพาน และ น.ส.เกวลิน เกียรติประเสริฐ หรือครูเก๋ คุณครูจิตอาสาและนักสังคมสงเคราะห์จิตอาสา อ.บางสะพาน ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนบ้าน พร้อมมอบข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องอุปโภคบริโภคและเงินจำนวนหนึ่งให้กำลังใจ กับ ครอบครัวของ นางวาสนา พรมาก อายุ 37 ปี และนายสุวรรณ ยศใหญ่ อายุ 36 ปี สองสามีภรรยา ที่ต้องเลี้ยงดูบุตรที่พิการทางสายตาถึง 2 คน คือ ด.ช.ณัฐวุฒิ ยศใหญ่ หรือน้องก้าน บุตรชายวัย 14 ปี ที่มีปัญหาพิการทางสายตา และมีภาวะโรคลมชักแทรกซ้อนอยู่ตลอดเวลา และอีกคนคือ น.ส.สุวนันทน์ พรมาก อายุ 19 ปี มีภาวะพิการทางสายตาตั้งแต่กำเนิด เนื่องจากคลอดก่อนกำหนด โดยมีน้ำหนักแรกคลอดเพียง 1,000 กรัม ซึ่งปัจจุบันทางผู้ใหญ่บ้านได้ทำเรื่องประสานกับทางด้าน อบต.ร่อนทอง เพื่อให้ลูกสาวคนโตที่ตาบอด ได้ไปเรียนอักษรเบลล์ ที่โรงเรียนธรรมมิกวิทยา จ.เพชรบุรี
โดยครอบครัวของนางวาสนา และนายสุวรรณ มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่ง ด.ช.ณัฐวุฒิ ยศใหญ่ หรือน้องก้าน วัย 14 ปี เป็นเนื้องอกในสมองหลังจากคลอดได้ไม่นาน ซึ่งแพทย์ได้วินิจฉัยว่ามีอาการป่วยเป็นเนื้องอกในแกนสมอง ต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็นการด่วนมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2558 ที่ผ่านมา แต่ภายหลังจากการผ่าตัดเนื้องอกในแกนสมองออกแล้ว ส่งผลให้ดวงตาทั้งสองข้างของน้องบอดสนิท และมีโรคแทรกซ้อนตามมาคือ โรคต่อมไร้ท่อ โรคไทรอยด์ ต้องฉีดฮอร์โมนทุกเดือน มีภาวะอาการชักอยู่ตลอด โดยต้องเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางไปพบแพทย์และรับยาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีเป็นประจำทุกเดือนๆละ 1-2 ครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้งต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่าครั้งละ 4,000 บาท ปัจจุบันตาของน้องบอดสนิท เพราะผ่าตัดสมองบ่อยครั้งมาก หลงๆลืมๆ เหม่อลอยอยู่ตลอด
ด้าน นางวาสนา แม่น้องก้าน เปิดเผยว่า อยู่กินกับสามีมาเกือบ 20 ปี มีบุตรด้วยกัน 2 คน ซึ่งปัจจุบัน ตนและสามีต้องสลับกันอยู่ดูแลน้องก้าน โดยสามีออกไปทำงานรับจ้างทั่วไปในพื้นที่ เพื่อหาเงินมาซื้ออาหารประทังชีวิต ส่วนตนก็รับจ้างขายกล้วยทอดอยู่ในปั้มน้ำมันแถวๆบ้าน ซึ่งวันไหนที่สามีต้องออกไปทำงาน ตนก็ต้องนำน้องก้านไปดูแลที่ปั้มน้ำมันเวลาขายกล้วยทอดด้วย เนื่องจากว่าเกรงว่าอาการลมชักของน้องจะกำเริบ จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชม. โดยความเป็นอยู่ทั่วไป ทางครอบครัวสามารถประคองตัวให้พออยู่ได้ แต่จะประสบปัญหาในเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางพาน้องก้านเข้าไปพบแพทย์ที่กรุงเทพฯเป็นประจำทุกๆเดือน เดือนละ 1-2 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งที่ไปค่าใช้จ่ายต่างๆในการเดินทางไม่ต่ำกว่าครั้งละ 3,000-5,000 บาท โดยต้องอาศัยหยิบยืมจากเพื่อนบ้านหรือต้องไปกู้หนี้ยืมสิน เพื่อนำมาเป็นค่าเดินทางในการพาน้องไปรักษาตัวที่กรุงเทพฯ ซึ่งหมอบอกว่าในเคสของน้องก้านไม่มีทางรักษาให้หาย แต่ต้องคอยควบคุมด้วยยา หากลืมหรือขาดไปน้องอาจชักหรือหยุดหายใจได้
ขณะที่ น.ส.เกวลิน หรือครูเก๋ กล่าวว่า ครอบครัวของน้องก้านน่าสงสารมาก พ่อแม่ต้องทำงานรับจ้างเพื่อนำเงินที่ได้ พาน้องก้านเดินทางไปหาหมอ ที่ รพ.รามาธิบดี ทุกๆเดือน ภายหลังแพทย์นัดดูอาการหลังจากผ่าตัดเอาเนื้องอกในแกนสมองออก อีกทั้งต่อมาน้องก้านเกิดตาบอด เกิดจากผลการผ่าตัด และต้องขึ้นไปรับยาที่ กทม.ทุกเดือน ตนเองจึงทำหน้าที่ประสานงานให้กับครอบครัวของน้องก้านในการประสานกับหน่วยงานราชการในพื้นที่ และประชาชนผู้มีจิตอาสาช่วยเหลือ จึงอยากฝากถึงผู้มีจิตเมตตา ใจบุญ ถ้าอยากร่วมบริจาคเงินเป็นค่าเดินทางให้กับครอบครัวน้องก้านไปรักษาในแต่ละเดือน ให้ติดต่อมาได้ที่เบอร์ 061-2586015 นางวาสนา พรมาก (แม่น้องก้าน).
บุญมา ลิบลับ ผู้สื่อข่าวเว็บไซต์เดลินิวส์ประจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์