ปิดฉากเมล์-รถไฟฟรี ลดครึ่งราคาเฉพาะคนแก่-พิการ-เด็กต่ำกว่า 12
ปิดฉากเมล์-รถไฟฟรี ลดภาระรัฐบาล ปรับเกณฑ์ลดหย่อน 50% เฉพาะผู้สูงอายุ คนพิการ ทหารผ่านศึก และเด็กอายุไม่เกิน 12 ส่วนนักเรียนม.3 ลงไป จ่าย 1ใน 3 ระดับม.ปลายขึ้นไป จ่าย 2 ใน 3 คาดเริ่ม 1 พ.ย.ปีนี้...
นายพงษ์ไชย เกษมทวีศักดิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หลัง ครม. 27 ม.ค.2558 มีมติ เห็นชอบขยายระยะเวลามาตรการรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี ออกไปอีก 6 เดือน ตั้งแต่ 1 ก.พ.-31 ก.ค. 2558 โดยมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม ร่วมกับกระทรวงการคลัง และกระทรวงพลังงาน เร่งพิจารณาหามาตรการใหม่เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายจริงๆ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลต้องสนับสนุน โดยขณะนี้ได้ข้อสรุปมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนผู้มีรายได้น้อยแล้ว โดยจากเดิมที่ให้ฟรีทุกกลุ่มสามารถใช้บริการรถเมล์จำนวน 800 คันใน 73 เส้นทาง และรถไฟฟรี ชั้น 3 จำนวน 164 ขบวน เป็นรถเมล์ 1,519 คัน ในทุกเส้นทางของ ขสมก. และรถไฟชั้น3จำนวน172ขบวน
ทั้งนี้ แบ่งเป็นกลุ่มผู้ได้รับบริการฟรี 2 ส่วน เป็นกลุ่มผู้ที่ได้รับการยกเว้นเดิมตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก คือ เจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบ เช่น ตำรวจ, ผู้ถือบัตรอนุญาตในส่วนของผู้ประกอบการเอง, พระภิกษุ สามเณร และส่วนของผู้ได้รับลดหย่อนครึ่งราคา 50% คือ ผู้สูงอายุ คนพิการ ทหารผ่านศึก, กลุ่มนักเรียนตั้งแต่มัธยมศึกษาปีที่ 3 ลงไป ลดหย่อนโดยจ่าย 1 ใน 3 และนักเรียนตั้งแต่มัธยมศึกษาปีที่ 3 ขึ้นไป รวมถึงนักศึกษา ลดหย่อนโดยจ่าย 2 ใน 3 ซึ่งรัฐบาลไม่ต้องรับภาระการลดหย่อนนี้ตามข้อกำหนดทางกฎหมาย โดย ขสมก.จะรับภาระตามเดิม ส่วนภาครัฐจะรับภาระในส่วนของผู้มีรายได้น้อยกว่า 3,632 บาทต่อเดือน เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี หรือตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาลงไป ซึ่งจะได้รับลดหย่อน 50% โดยพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้อนุมัติแนวทางดังกล่าวแล้ว เนื่องจากมาตรการรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี จะหมดอายุในวันที่ 31 ก.ค.2558
“มาตรการที่ปรับใหม่นี้ ลดภาระการอุดหนุนงบประมาณจากภาครัฐ สามารถประหยัดงบ 64% หรือ 2,400 ล้านบาทต่อปี หรือ 200 ล้านบาทต่อเดือน โดยคำนวณจากมาตรการฟรีเดิมที่รัฐต้องอุดหนุน 309 ล้านบาทต่อเดือนหรือ 3,700 ล้านบาทต่อปี โดยจะเหลือการอุดหนุนที่ 1,308 ล้านบาทต่อปี หรือ 109 ล้านบาทต่อเดือน”
อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานตามมาตรการใหม่ จะมีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลกับประชาชน และมีการลงทะเบียนบัตรแสดงตนผู้มีรายได้น้อย พร้อมรายละเอียดอื่นๆ จึงจำเป็นต้องขอครม.ขยายอายุมาตรการรถเมล์ฟรี รถไฟฟรีเดิมออกไปอีก 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.-31 ต.ค. 2558 โดยมั่นใจว่าจะสามารถขึ้นทะเบียนผู้มีรายได้น้อยได้ครบถ้วน และเริ่มใช้มาตรการใหม่ได้ตั้งแต่ วันที่ 1 พ.ย. 2558 นี้เป็นต้นไป.
ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/514113 (ขนาดไฟล์: 167)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
รถเมล์ฟรี-รถไฟฟรี ปิดฉากเมล์-รถไฟฟรี ลดภาระรัฐบาล ปรับเกณฑ์ลดหย่อน 50% เฉพาะผู้สูงอายุ คนพิการ ทหารผ่านศึก และเด็กอายุไม่เกิน 12 ส่วนนักเรียนม.3 ลงไป จ่าย 1ใน 3 ระดับม.ปลายขึ้นไป จ่าย 2 ใน 3 คาดเริ่ม 1 พ.ย.ปีนี้... นายพงษ์ไชย เกษมทวีศักดิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หลัง ครม. 27 ม.ค.2558 มีมติ เห็นชอบขยายระยะเวลามาตรการรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี ออกไปอีก 6 เดือน ตั้งแต่ 1 ก.พ.-31 ก.ค. 2558 โดยมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม ร่วมกับกระทรวงการคลัง และกระทรวงพลังงาน เร่งพิจารณาหามาตรการใหม่เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายจริงๆ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลต้องสนับสนุน โดยขณะนี้ได้ข้อสรุปมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนผู้มีรายได้น้อยแล้ว โดยจากเดิมที่ให้ฟรีทุกกลุ่มสามารถใช้บริการรถเมล์จำนวน 800 คันใน 73 เส้นทาง และรถไฟฟรี ชั้น 3 จำนวน 164 ขบวน เป็นรถเมล์ 1,519 คัน ในทุกเส้นทางของ ขสมก. และรถไฟชั้น3จำนวน172ขบวน ทั้งนี้ แบ่งเป็นกลุ่มผู้ได้รับบริการฟรี 2 ส่วน เป็นกลุ่มผู้ที่ได้รับการยกเว้นเดิมตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก คือ เจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบ เช่น ตำรวจ, ผู้ถือบัตรอนุญาตในส่วนของผู้ประกอบการเอง, พระภิกษุ สามเณร และส่วนของผู้ได้รับลดหย่อนครึ่งราคา 50% คือ ผู้สูงอายุ คนพิการ ทหารผ่านศึก, กลุ่มนักเรียนตั้งแต่มัธยมศึกษาปีที่ 3 ลงไป ลดหย่อนโดยจ่าย 1 ใน 3 และนักเรียนตั้งแต่มัธยมศึกษาปีที่ 3 ขึ้นไป รวมถึงนักศึกษา ลดหย่อนโดยจ่าย 2 ใน 3 ซึ่งรัฐบาลไม่ต้องรับภาระการลดหย่อนนี้ตามข้อกำหนดทางกฎหมาย โดย ขสมก.จะรับภาระตามเดิม ส่วนภาครัฐจะรับภาระในส่วนของผู้มีรายได้น้อยกว่า 3,632 บาทต่อเดือน เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี หรือตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาลงไป ซึ่งจะได้รับลดหย่อน 50% โดยพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้อนุมัติแนวทางดังกล่าวแล้ว เนื่องจากมาตรการรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี จะหมดอายุในวันที่ 31 ก.ค.2558 “มาตรการที่ปรับใหม่นี้ ลดภาระการอุดหนุนงบประมาณจากภาครัฐ สามารถประหยัดงบ 64% หรือ 2,400 ล้านบาทต่อปี หรือ 200 ล้านบาทต่อเดือน โดยคำนวณจากมาตรการฟรีเดิมที่รัฐต้องอุดหนุน 309 ล้านบาทต่อเดือนหรือ 3,700 ล้านบาทต่อปี โดยจะเหลือการอุดหนุนที่ 1,308 ล้านบาทต่อปี หรือ 109 ล้านบาทต่อเดือน” อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานตามมาตรการใหม่ จะมีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลกับประชาชน และมีการลงทะเบียนบัตรแสดงตนผู้มีรายได้น้อย พร้อมรายละเอียดอื่นๆ จึงจำเป็นต้องขอครม.ขยายอายุมาตรการรถเมล์ฟรี รถไฟฟรีเดิมออกไปอีก 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.-31 ต.ค. 2558 โดยมั่นใจว่าจะสามารถขึ้นทะเบียนผู้มีรายได้น้อยได้ครบถ้วน และเริ่มใช้มาตรการใหม่ได้ตั้งแต่ วันที่ 1 พ.ย. 2558 นี้เป็นต้นไป. ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/514113
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)