"ความฝัน" ไม่มีวันพิการ สร้างโอกาสที่เท่าเทียมให้สังคม
ข้อมูลจากกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการระบุว่า ประเทศไทยมีคนพิการที่ลงทะเบียนทั้งหมด 1.7 ล้านคน คิดเป็น 3% ของจำนวนประชากรทั้งหมด โดย 48% เป็นผู้บกพร่องทางร่างกายและการเคลื่อนไหว 16% เป็นผู้พิการทางการได้ยิน และ 11% เป็นผู้พิการทางการมองเห็น รวมถึงยังมีผู้พิการด้านอื่นๆ อีกกว่า 14%
หากตัดเรื่องความพิการออกไป คนกลุ่มนี้เหมือนกับคนปกติทั่วไปที่มีสิทธิด้านต่าง ๆ ในการดำเนินชีวิต รวมถึง "โอกาส" การเข้าถึงเรื่องต่างๆ มูลนิธิเวชดุสิต ซึ่งก่อตั้งและดำเนินการโดยเครือโรงพยาบาลกรุงเทพดุสิตเวชการ ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมคนไทยให้มีสุขภาพดี "รศ.อัจจิมา เศรษฐบุตร" กรรมการและเลขานุการมูลนิธิเวชดุสิต บอกว่า การดำเนินงานของมูลนิธิสอดคล้องกับปณิธานของโรงพยาบาลที่มีความแน่วแน่ในการเป็นสถานพยาบาล ซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ และความเมตตาปรานีมาบรรจบกัน โดยที่ผ่านมาเข้าไปช่วยเหลือด้านการเจ็บป่วย และการรักษาพยาบาลผู้ป่วยยากไร้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้าไปสนับสนุนให้ฟรี
ทั้งนี้มีโครงการ Green Health Care & Share เป็นการแบ่งปันน้ำใจ และเป็นศูนย์รวมรับบริจาคอุปกรณ์ทางการพยาบาลมือสอง หรือของใหม่ เพื่อมอบให้กับผู้ป่วยผู้สูงอายุ และผู้พิการที่ขัดสนหรือยากไร้ เพราะบางครอบครัวมีรถเข็น หรือเตียงนอนที่ไม่ได้ใช้ หลังจากผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว และไม่ทราบว่าจะนำไปทำประโยชน์อะไรต่อ อย่างไรก็ดี หากพบว่าบางอุปกรณ์ไม่มีผู้บริจาค แต่ผู้ป่วยมีความจำเป็นต้องใช้ อย่างเช่น เครื่องช่วยหายใจ ทางมูลนิธิจะให้การสนับสนุนโดยตรง
"เมื่อมาทำงานตรงนี้พบว่าประเทศไทยมีเด็กพิการจำนวนมาก เราเลยลงเข้าไปช่วยเหลือเขาด้วย ทำให้รู้ว่าเด็กพิการต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป เพราะแต่ละคนมีความพิการที่แตกต่างกัน เลยคิดว่าต่อไปจะโฟกัสเรื่องเด็กพิการ ซึ่งจากการสัมผัสกับเด็กพิการ พบว่าพวกเขามีความฉลาด และมีความสามารถมากอย่างที่เราคิดไม่ถึง เราจึงอยากพัฒนาเด็กพิการ สร้างแรงบันดาลใจให้เขาเป็นคนดีและเก่ง ทำตามความฝันของตัวเองให้สำเร็จ และสังคมเกิดการยอมรับ อีกทั้งเราอยากเป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้สังคม หรือองค์กรอื่นเข้ามาสนับสนุนพวกเขาด้วย"
แม้คนพิการจะมีศักยภาพมากเพียงใด แต่ยังขาดโอกาสในสังคม ซึ่งถูกจำกัดทางด้านอาชีพ และการใช้ชีวิต มูลนิธิเวชดุสิตจึงอยากเติมเต็มช่องว่างดังกล่าว ด้วยการจัดโครงการ "ความฝันไม่มีวันพิการ" หรือ "Unlimited Dreams" เพื่อเปิดประตูโอกาส และสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนผู้พิการสร้างความฝันที่ไม่มีข้อจำกัดด้วยเพราะเห็นว่าไม่ว่าใครก็ตามล้วนมีความฝันของตนเอง
"เราศึกษาข้อมูลคนพิการจากทั้งในไทยและต่างประเทศทราบว่าคนตาบอดสามารถเป็นเชฟได้ คนพิการแขนสามารถต่อยมวยและเป็นแชมป์ แม้แต่คนพิการขาขาดก็เล่นวินด์เซิร์ฟได้ จึงคิดว่าอยากให้เด็ก ๆ ได้ทราบว่า วิธีที่จะประสบความสำเร็จมีหลายแนวทาง โดยเราจะเอาตัวอย่างจากในประเทศและต่างประเทศมาให้ดู รวมถึงช่วยส่งเสริมและผลักดันให้เขากล้าเดินตามความฝันที่วางไว้"
โครงการความฝันไม่มีวันพิการประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนและเสริมสร้างศักยภาพให้กับเยาวชนผู้พิการ กิจกรรมของโครงการระยะแรกเริ่มต้นด้วย การมุ่งสร้างความตระหนักรู้ในสังคมผ่านภาพยนตร์สั้น ความฝันไม่มีวันพิการ ทางเฟซบุ๊กและยูทูบมูลนิธิเวชดุสิต (Vejdusit Foundation) เพื่อให้คนไทยร่วมชมและส่งต่อให้ผู้อื่น โดยทุก ๆ การรับชม 1 ครั้ง มูลนิธิจะบริจาคเงิน 1 บาท ซึ่งมูลนิธิเวชดุสิต และโรงพยาบาลกรุงเทพดุสิตเวชการตั้งงบประมาณสนับสนุนโครงการสูงสุดถึง2ล้านบาท
เงินจากโครงการดังกล่าวจะถูกต่อยอดสำหรับจัดกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจ และส่งเสริมศักยภาพแก่เยาวชนผู้พิการด้านต่าง ๆ ได้แก่ กิจกรรมส่งเสริมด้านกายภาพบำบัด กิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจและความรู้ความเข้าใจระหว่างเยาวชนผู้พิการและคนรอบข้าง รวมถึงการสนับสนุนสมาคมหรือองค์กรด้านการส่งเสริมศักยภาพเยาวชนผู้พิการ เช่น การสนับสนุนการจัดกิจกรรมด้านศิลปะ และสนับสนุนกองทุนสนับสนุนงานการศึกษาคนพิการ เป็นต้น
"เราต้องการเป็นอีกแรงหนึ่งในการเสริมสร้างศักยภาพและโอกาสให้กับเด็กพิการ เพื่อให้พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ และประสบความสำเร็จตามความฝันที่ต้องการ แต่เราตระหนักดีว่าการส่งเสริมเยาวชนผู้พิการให้มีโอกาสทางสังคม กล้าที่จะฝัน และสามารถทำตามความฝันของตนเองนั้น ไม่สามารถทำให้เกิดผลในระยะสั้นได้ เราจึงวางแผนสร้างแรงบันดาลใจ และศักยภาพเยาวชนผู้พิการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พวกเขามีช่องทางประกอบอาชีพตามความฝันได้ในอนาคต"
เพราะทุกคนมีความฝัน และความฝันก็ต้องการโอกาส ซึ่งโอกาสครั้งนี้จะช่วยปิดช่องว่าง และยกระดับความเท่าเทียมทางสังคมได้
ขอบคุณ... http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1445329928#
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
รศ.อัจจิมา เศรษฐบุตร กรรมการและเลขานุการมูลนิธิเวชดุสิต ข้อมูลจากกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการระบุว่า ประเทศไทยมีคนพิการที่ลงทะเบียนทั้งหมด 1.7 ล้านคน คิดเป็น 3% ของจำนวนประชากรทั้งหมด โดย 48% เป็นผู้บกพร่องทางร่างกายและการเคลื่อนไหว 16% เป็นผู้พิการทางการได้ยิน และ 11% เป็นผู้พิการทางการมองเห็น รวมถึงยังมีผู้พิการด้านอื่นๆ อีกกว่า 14% หากตัดเรื่องความพิการออกไป คนกลุ่มนี้เหมือนกับคนปกติทั่วไปที่มีสิทธิด้านต่าง ๆ ในการดำเนินชีวิต รวมถึง "โอกาส" การเข้าถึงเรื่องต่างๆ มูลนิธิเวชดุสิต ซึ่งก่อตั้งและดำเนินการโดยเครือโรงพยาบาลกรุงเทพดุสิตเวชการ ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมคนไทยให้มีสุขภาพดี "รศ.อัจจิมา เศรษฐบุตร" กรรมการและเลขานุการมูลนิธิเวชดุสิต บอกว่า การดำเนินงานของมูลนิธิสอดคล้องกับปณิธานของโรงพยาบาลที่มีความแน่วแน่ในการเป็นสถานพยาบาล ซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ และความเมตตาปรานีมาบรรจบกัน โดยที่ผ่านมาเข้าไปช่วยเหลือด้านการเจ็บป่วย และการรักษาพยาบาลผู้ป่วยยากไร้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้าไปสนับสนุนให้ฟรี ทั้งนี้มีโครงการ Green Health Care & Share เป็นการแบ่งปันน้ำใจ และเป็นศูนย์รวมรับบริจาคอุปกรณ์ทางการพยาบาลมือสอง หรือของใหม่ เพื่อมอบให้กับผู้ป่วยผู้สูงอายุ และผู้พิการที่ขัดสนหรือยากไร้ เพราะบางครอบครัวมีรถเข็น หรือเตียงนอนที่ไม่ได้ใช้ หลังจากผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว และไม่ทราบว่าจะนำไปทำประโยชน์อะไรต่อ อย่างไรก็ดี หากพบว่าบางอุปกรณ์ไม่มีผู้บริจาค แต่ผู้ป่วยมีความจำเป็นต้องใช้ อย่างเช่น เครื่องช่วยหายใจ ทางมูลนิธิจะให้การสนับสนุนโดยตรง "เมื่อมาทำงานตรงนี้พบว่าประเทศไทยมีเด็กพิการจำนวนมาก เราเลยลงเข้าไปช่วยเหลือเขาด้วย ทำให้รู้ว่าเด็กพิการต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป เพราะแต่ละคนมีความพิการที่แตกต่างกัน เลยคิดว่าต่อไปจะโฟกัสเรื่องเด็กพิการ ซึ่งจากการสัมผัสกับเด็กพิการ พบว่าพวกเขามีความฉลาด และมีความสามารถมากอย่างที่เราคิดไม่ถึง เราจึงอยากพัฒนาเด็กพิการ สร้างแรงบันดาลใจให้เขาเป็นคนดีและเก่ง ทำตามความฝันของตัวเองให้สำเร็จ และสังคมเกิดการยอมรับ อีกทั้งเราอยากเป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้สังคม หรือองค์กรอื่นเข้ามาสนับสนุนพวกเขาด้วย" แม้คนพิการจะมีศักยภาพมากเพียงใด แต่ยังขาดโอกาสในสังคม ซึ่งถูกจำกัดทางด้านอาชีพ และการใช้ชีวิต มูลนิธิเวชดุสิตจึงอยากเติมเต็มช่องว่างดังกล่าว ด้วยการจัดโครงการ "ความฝันไม่มีวันพิการ" หรือ "Unlimited Dreams" เพื่อเปิดประตูโอกาส และสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนผู้พิการสร้างความฝันที่ไม่มีข้อจำกัดด้วยเพราะเห็นว่าไม่ว่าใครก็ตามล้วนมีความฝันของตนเอง "เราศึกษาข้อมูลคนพิการจากทั้งในไทยและต่างประเทศทราบว่าคนตาบอดสามารถเป็นเชฟได้ คนพิการแขนสามารถต่อยมวยและเป็นแชมป์ แม้แต่คนพิการขาขาดก็เล่นวินด์เซิร์ฟได้ จึงคิดว่าอยากให้เด็ก ๆ ได้ทราบว่า วิธีที่จะประสบความสำเร็จมีหลายแนวทาง โดยเราจะเอาตัวอย่างจากในประเทศและต่างประเทศมาให้ดู รวมถึงช่วยส่งเสริมและผลักดันให้เขากล้าเดินตามความฝันที่วางไว้" โครงการความฝันไม่มีวันพิการประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนและเสริมสร้างศักยภาพให้กับเยาวชนผู้พิการ กิจกรรมของโครงการระยะแรกเริ่มต้นด้วย การมุ่งสร้างความตระหนักรู้ในสังคมผ่านภาพยนตร์สั้น ความฝันไม่มีวันพิการ ทางเฟซบุ๊กและยูทูบมูลนิธิเวชดุสิต (Vejdusit Foundation) เพื่อให้คนไทยร่วมชมและส่งต่อให้ผู้อื่น โดยทุก ๆ การรับชม 1 ครั้ง มูลนิธิจะบริจาคเงิน 1 บาท ซึ่งมูลนิธิเวชดุสิต และโรงพยาบาลกรุงเทพดุสิตเวชการตั้งงบประมาณสนับสนุนโครงการสูงสุดถึง2ล้านบาท เงินจากโครงการดังกล่าวจะถูกต่อยอดสำหรับจัดกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจ และส่งเสริมศักยภาพแก่เยาวชนผู้พิการด้านต่าง ๆ ได้แก่ กิจกรรมส่งเสริมด้านกายภาพบำบัด กิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจและความรู้ความเข้าใจระหว่างเยาวชนผู้พิการและคนรอบข้าง รวมถึงการสนับสนุนสมาคมหรือองค์กรด้านการส่งเสริมศักยภาพเยาวชนผู้พิการ เช่น การสนับสนุนการจัดกิจกรรมด้านศิลปะ และสนับสนุนกองทุนสนับสนุนงานการศึกษาคนพิการ เป็นต้น "เราต้องการเป็นอีกแรงหนึ่งในการเสริมสร้างศักยภาพและโอกาสให้กับเด็กพิการ เพื่อให้พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ และประสบความสำเร็จตามความฝันที่ต้องการ แต่เราตระหนักดีว่าการส่งเสริมเยาวชนผู้พิการให้มีโอกาสทางสังคม กล้าที่จะฝัน และสามารถทำตามความฝันของตนเองนั้น ไม่สามารถทำให้เกิดผลในระยะสั้นได้ เราจึงวางแผนสร้างแรงบันดาลใจ และศักยภาพเยาวชนผู้พิการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พวกเขามีช่องทางประกอบอาชีพตามความฝันได้ในอนาคต" เพราะทุกคนมีความฝัน และความฝันก็ต้องการโอกาส ซึ่งโอกาสครั้งนี้จะช่วยปิดช่องว่าง และยกระดับความเท่าเทียมทางสังคมได้ ขอบคุณ... http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1445329928#
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)