เล่ห์ทนายกล่อมแม่ ด.ญ.พิการ ถอนแจ้งความคดีโกง 5 ล.
ผบก.น.7 สงสาร 2 แม่ลูก ถูกทนายโกงเงิน 5 ล้าน เรียกพนักงานสอบสวนชี้แจงคดีหาช่องทางช่วย พบมีการตกลงยอมความกันก่อนหน้านี้ โดยแม่เด็กถูกทางทนายอ้างว่า ถ้ามีคดีความติดตัวจะไม่สามารถหาเงินมาชดใช้ได้
จากกรณี น.ส.พรทิพย์ จันทรัตน์ อายุ 44 ปี พา ด.ญ.ภัทรดา หรือ น้องบีม แก้วผ่อง อายุ 14 ปี บุตรสาว ที่พิการเดินไม่ได้ ต้องนั่งรถวีลแชร์ตระเวนขายของที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวอันแสนรันทด ว่า ถูกทนายความอาสาโกงเงินไปกว่า 5 ล้านบาท หลังบริษัทรถพ่วงคู่กรณีที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจนสามีต้องเสียชีวิต และลูกสาวกระดูกทับไขสันหลังต้องกลายเป็นคนพิการ ยอมจ่ายเงินมาให้แล้ว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.7 ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน ที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว เพื่อหาทางช่วยเหลือผู้เสียหาย โดยมี พ.ต.ท.วีระศักดิ์ ขจรศรีเพชร รองผกก.สส.สน.บางยี่ขัน ชี้แจงรายละเอียดใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
จากนั้น ผบก.น.7 กล่าวว่า รู้สึกเห็นใจผู้เสียหาย และจะหาทางช่วยเหลือให้ได้มากที่สุด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของเราก็ทำสำนวนอย่างละเอียดรอบคอบ รัดกุม โดยทราบว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีกับทนายคนดังกล่าวและพวกรวม 3 คน ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสาร เมื่อวันที่ 28 เม.ย. แต่ต่อมาวันที่ 8 ก.ค. น.ส.พรทิพย์ ผู้เสียหายได้เดินทางมาขอถอนแจ้งความข้อหาฉ้อโกง ซึ่งพนักงานสอบสวนก็แจ้งให้ทราบแล้วว่าจะไม่เป็นผลดีต่อผู้เสียหาย แต่ทาง น.ส.พรทิพย์ ก็ยังยืนยันที่จะขอถอนแจ้งความ เนื่องจากเกรงว่าถ้าทนายความมีคดีติดตัวจะไม่สามารถว่าความหาเงินมาชดใช้หนี้สินจำนวนดังกล่าวได้ ส่วนในคดีปลอมแปลงเอกสารอัยการได้สั่งให้สอบเพิ่มเติม ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็ดำเนินการจนเสร็จสิ้น โดยขณะนี้ก็ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุดเพื่อรอให้ชี้ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป จึงแนะนำให้ฟ้องแพ่งต่อไป
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ผบก.น.7เรียกพนักงานสอบสวนชี้แจงคดีหาช่องทางช่วย พบมีการตกลงยอมความกันก่อนหน้านี้ โดยแม่เด็กถูกทางทนายอ้างว่า ถ้ามีคดีความติดตัวจะไม่สามารถหาเงินมาชดใช้ได้ ผบก.น.7 สงสาร 2 แม่ลูก ถูกทนายโกงเงิน 5 ล้าน เรียกพนักงานสอบสวนชี้แจงคดีหาช่องทางช่วย พบมีการตกลงยอมความกันก่อนหน้านี้ โดยแม่เด็กถูกทางทนายอ้างว่า ถ้ามีคดีความติดตัวจะไม่สามารถหาเงินมาชดใช้ได้ จากกรณี น.ส.พรทิพย์ จันทรัตน์ อายุ 44 ปี พา ด.ญ.ภัทรดา หรือ น้องบีม แก้วผ่อง อายุ 14 ปี บุตรสาว ที่พิการเดินไม่ได้ ต้องนั่งรถวีลแชร์ตระเวนขายของที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวอันแสนรันทด ว่า ถูกทนายความอาสาโกงเงินไปกว่า 5 ล้านบาท หลังบริษัทรถพ่วงคู่กรณีที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจนสามีต้องเสียชีวิต และลูกสาวกระดูกทับไขสันหลังต้องกลายเป็นคนพิการ ยอมจ่ายเงินมาให้แล้ว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.7 ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน ที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว เพื่อหาทางช่วยเหลือผู้เสียหาย โดยมี พ.ต.ท.วีระศักดิ์ ขจรศรีเพชร รองผกก.สส.สน.บางยี่ขัน ชี้แจงรายละเอียดใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้น ผบก.น.7 กล่าวว่า รู้สึกเห็นใจผู้เสียหาย และจะหาทางช่วยเหลือให้ได้มากที่สุด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของเราก็ทำสำนวนอย่างละเอียดรอบคอบ รัดกุม โดยทราบว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีกับทนายคนดังกล่าวและพวกรวม 3 คน ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสาร เมื่อวันที่ 28 เม.ย. แต่ต่อมาวันที่ 8 ก.ค. น.ส.พรทิพย์ ผู้เสียหายได้เดินทางมาขอถอนแจ้งความข้อหาฉ้อโกง ซึ่งพนักงานสอบสวนก็แจ้งให้ทราบแล้วว่าจะไม่เป็นผลดีต่อผู้เสียหาย แต่ทาง น.ส.พรทิพย์ ก็ยังยืนยันที่จะขอถอนแจ้งความ เนื่องจากเกรงว่าถ้าทนายความมีคดีติดตัวจะไม่สามารถว่าความหาเงินมาชดใช้หนี้สินจำนวนดังกล่าวได้ ส่วนในคดีปลอมแปลงเอกสารอัยการได้สั่งให้สอบเพิ่มเติม ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็ดำเนินการจนเสร็จสิ้น โดยขณะนี้ก็ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุดเพื่อรอให้ชี้ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป จึงแนะนำให้ฟ้องแพ่งต่อไป ขอบคุณ... https://www.dailynews.co.th/regional/582579
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)