อุบัติเหตุหยุดยาว "วันพระใหญ่" ลดลง เชื่อเข้าพรรษา 3 เดือน เซฟตาย-พิการได้
ศวปถ.ชี้ช่วงหยุดยาววันพระใหญ่ ลดตายบนถนนได้ถึง 21 รายต่อวัน เชื่อเข้าพรรษา 3 เดือน ช่วยเซฟผู้เสียชีวิต-พิการ ได้ 470 ราย ด้านเครือข่ายป้องกันภัยแอลกอฮอล์ ยันปัญหาสังคม เจ็บตายลดได้จริง หากคุมเข้มน้ำเมาชี้นายกมีความห่วงใยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องแปรเป็นการปฏิบัติ
วันที่ (11 ก.ค.) นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) กล่าวว่า ปกติแล้วช่วงวันหยุดยาวมักจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบนท้องถนนเป็นจำนวนมาก ทำให้มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 40 รายต่อวัน แต่ปรากฏว่า ช่วงหยุดยาวที่ผ่านมาคือ วันพระใหญ่ หรือวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ตัวเลขการเสียชีวิตลดลงเหลือเพียง 19 รายต่อวัน หรือลดคนตายได้ 21 ราย สอดคล้องกับข้อมูลเฝ้าระวังการบาดเจ็บของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่ครอบคลุม 33 โรงพยาบาลทั่วประเทศ พบว่า ในช่วง 3 เดือน “เข้าพรรษา" จำนวนการเกิดเหตุ ยอดบาดเจ็บรุนแรงที่ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล ลดลงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงปกติ 25-30 รายต่อวัน หรือหากนำมาคาดประมาณภาพรวมทั้งประเทศ เข้าพรรษามียอดบาดเจ็บรุนแรงที่ต้องนอนโรงพยาบาล ลดลง 50-60 รายต่อวัน ขณะที่ข้อมูลจากสถาบันสิรินธรฯ พบว่า 5 ใน 100 รายที่บาดเจ็บรุนแรง จะลงเอยด้วยความพิการ แสดงว่า ยอดบาดเจ็บที่ลดลง 50-60รายต่อวันจะเท่ากับลดผู้พิการ2-3คนต่อวัน
“ตัวเลขชี้ชัดว่า เข้าพรรษาช่วยตัดวงจรการดื่ม ทำให้การเกิดอุบัติเหตุลดลง การเสียชีวิตลดลงกว่าช่วงปกติ นั่นแปลว่าเข้าพรรษา 3 เดือนนี้ จะช่วยเซฟชีวิตผู้พิการได้ 270 ราย เซฟผู้เสียชีวิตได้ 200 ราย และหากงดเหล้าต่อเนื่องหลังออกพรรษา ก็จะช่วยเซฟชีวิตผู้คนบนท้องถนนได้อีกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากหลังออกพรรษาเป็นช่วงพีคอีกครั้งของอุบัติเหตุ เพราะมีปัจจัยเสริม เช่น งานกฐิน ฉลองออกพรรษา ยาวไปปีใหม่ และมี.ค.-เม.ย.จะเป็นช่วงที่มีอุบัติเหตุมากที่สุด จึงหวังว่ามาตรการลดจำนวนการเสียชีวิตบนท้องถนนช่วงเข้าพรรษาจะทำให้ผู้ที่ยังดื่มสุราอยู่หันมาช่วยกันสร้างสังคมที่ดีงามร่วมกัน”นพ.ธนะพงศ์กล่าว
ด้าน นายชูวิทย์ จันทรส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์(ครปอ.) กล่าวว่า ในทุกๆ ปีตัวเลขคนเจ็บตายจากอุบัติเหตุ ช่วงวันพระใหญ่ อาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาที่ผ่านมา จะลดลงจากช่วงปกติอย่างเห็นได้ชัด และในปีนี้ก็เช่นกัน ทั้งนี้หากมีการเก็บข้อมูลการทะเลาะวิวาท การบาดเจ็บในโรงพยาบาลที่มีสาเหตุมาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะยิ่งชี้ชัดว่าเมื่อมีการจัดการกับปัญหาน้ำเมา บังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างจริงจัง รณรงค์อย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ปัญหาสังคม ปัญหาอุบัติเหตุลดลงได้จริง ในช่วงสองวันที่ผ่านมาจากการลงสุ่ม เฝ้าระวังการทำผิดกฎหมายของเครือข่ายทั่วประเทศ พบว่าแทบไม่พบร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า แบรนด์ดังๆที่ฝ่าฝืนขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนร้านเหล้าผับบาร์สวนใหญ่จะปิดร้าน มีเพียงบางส่วนที่ยังเปิดขายอาหาร หรือสินค้าอื่นๆแต่ไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปัญหาโดยรวมยังคงเป็นร้านค้ารายย่อยในชุมชน โชว์ห่วย ร้านอาหารตามสั่ง ริมทาง ร้านข้าวต้ม เช่นเดิมที่ยังพบว่ามีการฝ่าฝืนอยู่มากโดยเฉพาะที่ห่างออกไปจากตัวเมืองคาดการณ์อยู่ที่ประมาณ15-20%ที่ยังคงฝ่าฝืน
“โดยภาพรวมถือว่าผู้ที่ฝ่าฝืนลดลงอย่างเห็นได้ชัด จากการสอบถามประชาชนส่วนใหญ่รับรู้กฎหมาย การลงพื้นที่ตรวจตราของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น ตำรวจ ปกครอง สรรพสามิต และองค์กรภาคประชาชน ขยับตัวกันมากขึ้น ทำให้โดยภาพรวมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วันพระใหญ่ที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทั้งนี้ในข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรีที่มีความเป็นห่วงปัญหาการกินดื่มของคนไทย และผลกระทบที่รุนแรงนั้น ฝ่ายปฏิบัติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องแปรไปสู่การปฏิบัติให้ได้ และเครือข่ายยืนยันว่าหากการบังคับใช้กฎหมายควบคู่กับการรณรงค์อย่างจริงจัง ปัญหาจากน้ำเมาลดลงแน่ เราหวังว่าในช่วงเข้าพรรษานี้ ตำรวจ และฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะยกระดับการบังคับใช้กฎหมายให้ต่อเนื่อง และมีการเก็บข้อมูลวัดผลกันอย่างจริงจัง เพื่อเป็นฐานในการกำหนดทิศทางการป้องกันแก้ไขปัญหาจากน้ำเมาในอนาคต ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความกล้าหาญของรัฐบาลด้วย เพราะเป็นการลงทุนที่น้อยแต่ได้ประโยชน์กลับมาคุ้มค่า” นายชูวิทย์ กล่าว
ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9600000070506 (ขนาดไฟล์: 164)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) ศวปถ.ชี้ช่วงหยุดยาววันพระใหญ่ ลดตายบนถนนได้ถึง 21 รายต่อวัน เชื่อเข้าพรรษา 3 เดือน ช่วยเซฟผู้เสียชีวิต-พิการ ได้ 470 ราย ด้านเครือข่ายป้องกันภัยแอลกอฮอล์ ยันปัญหาสังคม เจ็บตายลดได้จริง หากคุมเข้มน้ำเมาชี้นายกมีความห่วงใยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องแปรเป็นการปฏิบัติ วันที่ (11 ก.ค.) นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) กล่าวว่า ปกติแล้วช่วงวันหยุดยาวมักจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบนท้องถนนเป็นจำนวนมาก ทำให้มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 40 รายต่อวัน แต่ปรากฏว่า ช่วงหยุดยาวที่ผ่านมาคือ วันพระใหญ่ หรือวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ตัวเลขการเสียชีวิตลดลงเหลือเพียง 19 รายต่อวัน หรือลดคนตายได้ 21 ราย สอดคล้องกับข้อมูลเฝ้าระวังการบาดเจ็บของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่ครอบคลุม 33 โรงพยาบาลทั่วประเทศ พบว่า ในช่วง 3 เดือน “เข้าพรรษา" จำนวนการเกิดเหตุ ยอดบาดเจ็บรุนแรงที่ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล ลดลงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงปกติ 25-30 รายต่อวัน หรือหากนำมาคาดประมาณภาพรวมทั้งประเทศ เข้าพรรษามียอดบาดเจ็บรุนแรงที่ต้องนอนโรงพยาบาล ลดลง 50-60 รายต่อวัน ขณะที่ข้อมูลจากสถาบันสิรินธรฯ พบว่า 5 ใน 100 รายที่บาดเจ็บรุนแรง จะลงเอยด้วยความพิการ แสดงว่า ยอดบาดเจ็บที่ลดลง 50-60รายต่อวันจะเท่ากับลดผู้พิการ2-3คนต่อวัน “ตัวเลขชี้ชัดว่า เข้าพรรษาช่วยตัดวงจรการดื่ม ทำให้การเกิดอุบัติเหตุลดลง การเสียชีวิตลดลงกว่าช่วงปกติ นั่นแปลว่าเข้าพรรษา 3 เดือนนี้ จะช่วยเซฟชีวิตผู้พิการได้ 270 ราย เซฟผู้เสียชีวิตได้ 200 ราย และหากงดเหล้าต่อเนื่องหลังออกพรรษา ก็จะช่วยเซฟชีวิตผู้คนบนท้องถนนได้อีกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากหลังออกพรรษาเป็นช่วงพีคอีกครั้งของอุบัติเหตุ เพราะมีปัจจัยเสริม เช่น งานกฐิน ฉลองออกพรรษา ยาวไปปีใหม่ และมี.ค.-เม.ย.จะเป็นช่วงที่มีอุบัติเหตุมากที่สุด จึงหวังว่ามาตรการลดจำนวนการเสียชีวิตบนท้องถนนช่วงเข้าพรรษาจะทำให้ผู้ที่ยังดื่มสุราอยู่หันมาช่วยกันสร้างสังคมที่ดีงามร่วมกัน”นพ.ธนะพงศ์กล่าว ด้าน นายชูวิทย์ จันทรส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์(ครปอ.) กล่าวว่า ในทุกๆ ปีตัวเลขคนเจ็บตายจากอุบัติเหตุ ช่วงวันพระใหญ่ อาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาที่ผ่านมา จะลดลงจากช่วงปกติอย่างเห็นได้ชัด และในปีนี้ก็เช่นกัน ทั้งนี้หากมีการเก็บข้อมูลการทะเลาะวิวาท การบาดเจ็บในโรงพยาบาลที่มีสาเหตุมาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะยิ่งชี้ชัดว่าเมื่อมีการจัดการกับปัญหาน้ำเมา บังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างจริงจัง รณรงค์อย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ปัญหาสังคม ปัญหาอุบัติเหตุลดลงได้จริง ในช่วงสองวันที่ผ่านมาจากการลงสุ่ม เฝ้าระวังการทำผิดกฎหมายของเครือข่ายทั่วประเทศ พบว่าแทบไม่พบร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า แบรนด์ดังๆที่ฝ่าฝืนขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนร้านเหล้าผับบาร์สวนใหญ่จะปิดร้าน มีเพียงบางส่วนที่ยังเปิดขายอาหาร หรือสินค้าอื่นๆแต่ไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปัญหาโดยรวมยังคงเป็นร้านค้ารายย่อยในชุมชน โชว์ห่วย ร้านอาหารตามสั่ง ริมทาง ร้านข้าวต้ม เช่นเดิมที่ยังพบว่ามีการฝ่าฝืนอยู่มากโดยเฉพาะที่ห่างออกไปจากตัวเมืองคาดการณ์อยู่ที่ประมาณ15-20%ที่ยังคงฝ่าฝืน “โดยภาพรวมถือว่าผู้ที่ฝ่าฝืนลดลงอย่างเห็นได้ชัด จากการสอบถามประชาชนส่วนใหญ่รับรู้กฎหมาย การลงพื้นที่ตรวจตราของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น ตำรวจ ปกครอง สรรพสามิต และองค์กรภาคประชาชน ขยับตัวกันมากขึ้น ทำให้โดยภาพรวมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วันพระใหญ่ที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทั้งนี้ในข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรีที่มีความเป็นห่วงปัญหาการกินดื่มของคนไทย และผลกระทบที่รุนแรงนั้น ฝ่ายปฏิบัติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องแปรไปสู่การปฏิบัติให้ได้ และเครือข่ายยืนยันว่าหากการบังคับใช้กฎหมายควบคู่กับการรณรงค์อย่างจริงจัง ปัญหาจากน้ำเมาลดลงแน่ เราหวังว่าในช่วงเข้าพรรษานี้ ตำรวจ และฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะยกระดับการบังคับใช้กฎหมายให้ต่อเนื่อง และมีการเก็บข้อมูลวัดผลกันอย่างจริงจัง เพื่อเป็นฐานในการกำหนดทิศทางการป้องกันแก้ไขปัญหาจากน้ำเมาในอนาคต ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความกล้าหาญของรัฐบาลด้วย เพราะเป็นการลงทุนที่น้อยแต่ได้ประโยชน์กลับมาคุ้มค่า” นายชูวิทย์ กล่าว ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9600000070506
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)