รองรับพระ-ผู้พิการชมพระเมรุมาศ1-30พ.ย.
วธ.ประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมจัดนิทรรศการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพยังพระเมรุมาศ 1-30 พ.ย. เพิ่มพิมพ์แผ่นพับให้ความรู้ 3 ล้านแผ่น พร้อมอำนวยความสะดวกพระภิกษุ-ผู้พิการเพิ่ม
วันที่(29 ส.ค.)ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารจัดการนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ว่า ได้เชิญผู้แทนกองทัพบก กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สมาคมคนตาบอด มาหารือแนวทางการบริหารจัดการนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมวันที่ 1 -30 พ.ย. นี้ เบื้องต้นที่ประชุมได้เสนอช่วงเวลาเปิดให้เข้าชมนิทรรศการ ตั้งแต่เวลา 07.00-22.00 น. โดยรูปแบบนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพนั้น จะจัดขึ้นภายในพระที่นั่งทรงธรรม จัดแสดงพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และการทรงงานในหลวง รัชกาลที่9
นายวีระ กล่าวต่อไปว่า ส่วนศาลาลูกขุนเป็นนิทรรศการการจัดสร้างพระเมรุมาศ การบูรณะราชรถราชยาน การสร้างประติมากรรมประกอบพระเมรุมาศ ส่วนหน้าพระเมรุมาศจะจัดการแสดงมหรสพในช่วงเวลากลางคืน โดยที่ประชุมได้สรุปแนวทางอำนวยการความสะดวกให้แก่ประชาชนที่เข้าชม แบ่งเป็นกลุ่มผู้พิการ ต้องใช้รถเข็น จะจัดทำทางลาดบริเวณทางขึ้นพระเมรุมาศและอาคารประกอบทุกหลัง ส่วนผู้พิการทางสายตา กำหนดให้เข้าชมที่อาคารทับเกษตร โดยจำลองพระเมรุมาศให้คนตาบอดสัมผัสได้ รวมทั้งจัดแสดงต้นแบบประติมากรรมประกอบพระเมรุมาศ เช่น เทวดา สัตว์หิมพานต์ โดยจะมีอาสาสมัครนำชม ส่วนคนหูหนวกให้จัดเตรียมจิตอาสานำชมด้วยภาษามือ ทั้งนี้ ได้มอบให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ช่วยประสานเพื่อความเรียบร้อยในการพาผู้พิการเข้าชมพระเมรุมาศ
รมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ในส่วนของกลุ่มนักท่องเที่ยวได้มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้ง สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย รวบรวมจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมาเข้าชมนิทรรศการ พร้อมทั้งจัดพิมพ์แผ่นพับภาษาอังกฤษและจีนเพิ่มเติมเพื่อสร้างความเข้าใจเรื่องพระเมรุมาศ ส่วนกลุ่มพระภิกษุกำหนดให้มีจุดพักคอยโดยเฉพาะ ส่วนงานด้านรักษาสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยมอบหมายให้กองทัพบกเป็นผู้ดูแล โดยใช้ประสบการณ์จากการจัดระบบประชาชนเข้ากราบพระบรมศพ ขณะที่กรุงเทพมหานครมอบหมายให้มีหน้าที่จัดบริการรถสุขา กระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนงานแพทย์ ในการอำนวยความสะดวกแก่แพทย์ พยาบาลภาคสนาม ทั้งด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และช่วยเหลือกู้ชีพผู้ป่วยฉุกเฉิน ส่วนกระทรวงคมนาคมเตรียมรถขนส่งมวลชนกรุงเทพรับส่งประชาชน 25 เส้นทาง ส่วนรถเอกชนร่วมบริการมี 13 เส้นทาง เพื่ออำนวยความสะดวกใน 4 มุมเมือง อย่างไรก็ตามได้ขอให้แต่ละหน่วยงานไปพิจารณาค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพื่อนำเสนอของบประมาณในการประชุมครั้งต่อไป
"ที่ประชุมได้มีการคาดการณ์ผู้เข้าชมนิทรรศการงานพระราชพิธีจำนวน 1 แสนคนต่อวัน ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนจะมีผู้ชมไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน การบริหารจัดการนิทรรศการจะปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ อย่างไรก็ตามสมาคมคนตาบอดเสนอให้มีเสียงบรรยายเรื่องพระเมรุมาศ ซึ่งเราจะดำเนินการผลิตซีดีเพื่อเป็นที่ระลึกให้ด้วย นอกจากนี้จะมีการรับสมัครจิตอาสาช่วยงานนิทรรศการ โดยรายละเอียดต่างๆ จะนำเสนอชัดเจนในวันที่ 13 ก.ย. ซึ่ง พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายจัดนิทรรศการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ " นายวีระ กล่าว
ด้านพล.ต. ธานี ฉุยฉาย ที่ปรึกษากองทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการประเมินพระเมรุมาศและอาคารประกอบแต่ละหลังรองรับจำนวนคนได้เท่าไหร่ และจะจัดเส้นทางการชมอย่างไร เพื่อให้ผู้ชมชุดใหม่เข้ามาได้ ไม่รอคิวนาน โดยการบริหารจัดการประชาชนเข้าชมนิทรรศการและพระเมรุมาศยึดหลักรวดเร็วและทั่วถึง ประชาชนเข้าชมและกลับออกมาไม่ดึกจนเกินไป รวมถึงได้ชมในทุกพื้นที่หากเกินเวลา 22.00 น.ตามที่กำหนด แล้วยังมีประชาชนตกค้างไม่ได้เข้าชม นิทรรศการ ก็จะขยายเวลา อีกทั้งจะเน้นย้ำเรื่องการแต่งกายต้องสุภาพด้วย