เด็กพื้นที่สูง-ชายแดนตกหล่นวงจรศึกษาปท.38%

แสดงความคิดเห็น

นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้เสนอแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาการศึกษาในเขตพื้นที่สูงและชายแดน ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และเป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการให้เป็นตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดว่า บุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการเข้ารับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่า 12 ปี และมีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กตามปฏิญญาจอมเทียน นอกจากนี้ยังเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่เน้นสร้างโอกาสทางการศึกษา โดยคำนึงถึงความเสมอภาคทุกกลุ่ม รวมทั้งผู้ยากไร้ ด้อยโอกาส ผู้บกพร่องทางการเรียนรู้ และชนกลุ่มน้อย นายจาตุรนต์กล่าวต่อว่า จากการติดตามการดำเนินงานในเรื่องนี้พบว่า ขณะนี้เกิดวิกฤติทางการศึกษาในเขตพื้นที่สูงและชายแดน โดยพบว่ามีเด็กตกหล่น 38% ของประชากรทั่วประเทศ เด็กออกกลางคัน 15% ของเด็กออกกลางคันทั่วประเทศ เด็กอ่านไม่ออก 22% ของเด็กสังกัด สพฐ.ที่อ่านไม่ออก เด็กเขียนไม่ได้ 23% ของเด็กสังกัด สพฐ.ที่เขียนไม่ได้ เด็กจบ ป.6 แต่ไม่ได้เรียนต่อภาคบังคับ 23% เด็กจบ ม.3 แต่ไม่ได้เรียนต่อ 26% และเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการ 30% ชุมชนตั้งอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำและพื้นที่ป่าสงวน 53% ของประเทศ มีคดียาเสพติดเกิดขึ้นตามแนวชายแดน 46% ของการจับกุมทั่วประเทศ

สำหรับแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว ประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์ คือ 1.เพิ่มโอกาสทางการศึกษา 2.พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานด้วยวิธีการที่หลากหลาย 3.เสริมสร้างทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ และการมีงานทำ 4.พัฒนาครู ผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษา และ อ5.พัฒนาระบบการบริหารและกลไกในการจัดการศึกษา อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมเห็นว่ายุทธศาสตร์ดังกล่าวที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการอยู่แล้ว จึงเห็นว่าควรจะมีการพูดถึงสภาพปัญหาของการจัดการศึกษา และจุดเด่นของยุทธศาสตร์ที่จะไปดำเนินการ รวมถึงผลสัมฤทธิ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้น เพื่อชี้ให้เห็นว่าสิ่งดำเนินการอยู่มีผลที่ดีขึ้นด้วย ทั้งนี้ ตนได้มอบให้ สพฐ.ไประดมความคิดเห็นกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนในเขตพื้นที่สูงและชายแดน เพื่อปรับปรุงให้แผนดังกล่าวมีความชัดเจน มีรูปธรรมมากขึ้น และเป็นแผนงานในทางปฏิบัติที่มีงบประมาณรองรับด้วย

ขอบคุณ… http://www.thaipost.net/news/150114/84607 (ขนาดไฟล์: 167)

(thaipost ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 18 ม.ค.57 )

ที่มา: thaipost ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 18 ม.ค.57
วันที่โพสต์: 19/01/2557 เวลา 03:42:27

แสดงความคิดเห็น

รายละเอียดกระทู้

ศธ.พบวิกฤติการศึกษาเขตพื้นที่สูงและชายแดน ชี้มีเด็กตกหล่น 38% เทียบประชากรประเทศ จาตุรนต์มอบ สพฐ.ระดมความคิดปรับแผนยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาการศึกษาให้เท่าเทียม นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้เสนอแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาการศึกษาในเขตพื้นที่สูงและชายแดน ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และเป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการให้เป็นตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดว่า บุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการเข้ารับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่า 12 ปี และมีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กตามปฏิญญาจอมเทียน นอกจากนี้ยังเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่เน้นสร้างโอกาสทางการศึกษา โดยคำนึงถึงความเสมอภาคทุกกลุ่ม รวมทั้งผู้ยากไร้ ด้อยโอกาส ผู้บกพร่องทางการเรียนรู้ และชนกลุ่มน้อย นายจาตุรนต์กล่าวต่อว่า จากการติดตามการดำเนินงานในเรื่องนี้พบว่า ขณะนี้เกิดวิกฤติทางการศึกษาในเขตพื้นที่สูงและชายแดน โดยพบว่ามีเด็กตกหล่น 38% ของประชากรทั่วประเทศ เด็กออกกลางคัน 15% ของเด็กออกกลางคันทั่วประเทศ เด็กอ่านไม่ออก 22% ของเด็กสังกัด สพฐ.ที่อ่านไม่ออก เด็กเขียนไม่ได้ 23% ของเด็กสังกัด สพฐ.ที่เขียนไม่ได้ เด็กจบ ป.6 แต่ไม่ได้เรียนต่อภาคบังคับ 23% เด็กจบ ม.3 แต่ไม่ได้เรียนต่อ 26% และเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการ 30% ชุมชนตั้งอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำและพื้นที่ป่าสงวน 53% ของประเทศ มีคดียาเสพติดเกิดขึ้นตามแนวชายแดน 46% ของการจับกุมทั่วประเทศ สำหรับแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว ประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์ คือ 1.เพิ่มโอกาสทางการศึกษา 2.พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานด้วยวิธีการที่หลากหลาย 3.เสริมสร้างทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ และการมีงานทำ 4.พัฒนาครู ผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษา และ อ5.พัฒนาระบบการบริหารและกลไกในการจัดการศึกษา อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมเห็นว่ายุทธศาสตร์ดังกล่าวที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการอยู่แล้ว จึงเห็นว่าควรจะมีการพูดถึงสภาพปัญหาของการจัดการศึกษา และจุดเด่นของยุทธศาสตร์ที่จะไปดำเนินการ รวมถึงผลสัมฤทธิ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้น เพื่อชี้ให้เห็นว่าสิ่งดำเนินการอยู่มีผลที่ดีขึ้นด้วย ทั้งนี้ ตนได้มอบให้ สพฐ.ไประดมความคิดเห็นกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนในเขตพื้นที่สูงและชายแดน เพื่อปรับปรุงให้แผนดังกล่าวมีความชัดเจน มีรูปธรรมมากขึ้น และเป็นแผนงานในทางปฏิบัติที่มีงบประมาณรองรับด้วย ขอบคุณ… http://www.thaipost.net/news/150114/84607 (thaipost ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 18 ม.ค.57 )