คัด6รร.สอนเด็กพิเศษขั้นรุนแรง
นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กทม.มีโรงเรียนในสังกัดของกรุงเทพมหานครที่เป็นโรงเรียนร่วมกันระหว่างเด็กปกติและเด็กพิเศษแล้วทั้งหมด 108 โรงเรียน โดยในอนาคต กทม.ต้องการที่จะให้ทุกโรงเรียนในสังกัดคือทั้ง 436 โรงเรียน สามารถรับเด็กพิเศษได้ทั้งหมดทุกแห่ง โดยจะต้องทยอยฝึกอบรมให้แก่ครูหรือจ้างครูเฉพาะทางเพิ่มเติมรวมถึงจะต้องปรับโครงสร้างบุคลากรโดยในโรงเรียนจะต้องมีนักจิตวิทยาครูแนะแนว ที่จะสามารถแนะนำการดูแลเด็กพิเศษให้กับครูคนอื่นๆด้วย ทั้งนี้ในอนาคตมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยในสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ก็ควรจะต้องมีสาขาคณะศึกษาศาสตร์ด้านการสอนเด็กพิเศษด้วยเพื่อกทม. จะสามารถผลิตครูได้เอง
นางผุสดี กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม กทม. เตรียมคัดเลือกโรงเรียนในพื้นที่ 6 กลุ่มโซนกลุ่มโซนละ 1 โรงเรียน เพื่อเป็นโรงเรียนที่รองรับเด็กพิเศษที่มีระดับความรุนแรงมากเกินกว่าที่โรงเรียนอื่นจะสามารถดูแลได้ เพื่อจะได้มีการดูแลการฝึกฝนเป็นพิเศษ โดยทางสำนักการศึกษา กทม. จะคัดเลือกโรงเรียนที่มีความพร้อมที่สุดทั้งบุคลากร สถานที่ ในขณะเดียวกัน กทม. ก็จะเสริมอุปกรณ์การเรียนรู้เข้าไปเพิ่มเติมพร้อมทั้งเพิ่มนักจิตวิทยาครูพิเศษ เปิดอบรมครูเพื่อที่จะให้การดูแลเด็กเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยการดำเนินการจะแล้วเสร็จและสามารถเปิดสอนได้ภายในเดือน พ.ค.57 ทั้งนี้การรู้เร็วรวมถึงดูแลและฝึกฝนเด็กพิเศษอย่างถูกต้องและต่อเนื่องถือเป็นการเพิ่มโอกาสให้เด็กได้กลับมาเป็นเด็กปกติได้.
ขอบคุณ... เดลินิวส์รายวัน/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 11 ธ.ค.56
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กทม.มีโรงเรียนในสังกัดของกรุงเทพมหานครที่เป็นโรงเรียนร่วมกันระหว่างเด็กปกติและเด็กพิเศษแล้วทั้งหมด 108 โรงเรียน โดยในอนาคต กทม.ต้องการที่จะให้ทุกโรงเรียนในสังกัดคือทั้ง 436 โรงเรียน สามารถรับเด็กพิเศษได้ทั้งหมดทุกแห่ง โดยจะต้องทยอยฝึกอบรมให้แก่ครูหรือจ้างครูเฉพาะทางเพิ่มเติมรวมถึงจะต้องปรับโครงสร้างบุคลากรโดยในโรงเรียนจะต้องมีนักจิตวิทยาครูแนะแนว ที่จะสามารถแนะนำการดูแลเด็กพิเศษให้กับครูคนอื่นๆด้วย ทั้งนี้ในอนาคตมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยในสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ก็ควรจะต้องมีสาขาคณะศึกษาศาสตร์ด้านการสอนเด็กพิเศษด้วยเพื่อกทม. จะสามารถผลิตครูได้เอง นางผุสดี กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม กทม. เตรียมคัดเลือกโรงเรียนในพื้นที่ 6 กลุ่มโซนกลุ่มโซนละ 1 โรงเรียน เพื่อเป็นโรงเรียนที่รองรับเด็กพิเศษที่มีระดับความรุนแรงมากเกินกว่าที่โรงเรียนอื่นจะสามารถดูแลได้ เพื่อจะได้มีการดูแลการฝึกฝนเป็นพิเศษ โดยทางสำนักการศึกษา กทม. จะคัดเลือกโรงเรียนที่มีความพร้อมที่สุดทั้งบุคลากร สถานที่ ในขณะเดียวกัน กทม. ก็จะเสริมอุปกรณ์การเรียนรู้เข้าไปเพิ่มเติมพร้อมทั้งเพิ่มนักจิตวิทยาครูพิเศษ เปิดอบรมครูเพื่อที่จะให้การดูแลเด็กเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยการดำเนินการจะแล้วเสร็จและสามารถเปิดสอนได้ภายในเดือน พ.ค.57 ทั้งนี้การรู้เร็วรวมถึงดูแลและฝึกฝนเด็กพิเศษอย่างถูกต้องและต่อเนื่องถือเป็นการเพิ่มโอกาสให้เด็กได้กลับมาเป็นเด็กปกติได้. ขอบคุณ... เดลินิวส์รายวัน/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 11 ธ.ค.56
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)