WHO จ่อบรรจุเสพติดสื่อออนไลน์เป็นปัญหาทางจิตเวช
นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ หัวหน้ากลุ่มที่ปรึกษา กรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ขณะนี้พบว่าประชากรในวัยทำงานมีปัญหาสุขภาพจิตมากขึ้น โดยมีสาเหตุมาจากภัยแล้ง ความเครียดจากหนี้สิน และความรัก ซึ่งอาการที่พบอันดับ 1 คือวิตกกังวล ซึมเศร้า รองลงมาคือปัญหาติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่จัดทำให้มีปัญหาทะเลาะวิวาทในสถานประกอบการ นอกจากนี้ ยังพบเทรนด์ใหม่มีการเสพติดการพนันออนไลน์ เสพติดโซเชียลมีเดีย หรือโรคเสพติดพฤติกรรม ซึ่งเป็นผลมาจากความเครียดในการทำงานแต่หาทาง ออกไม่ได้
นพ.ยงยุทธกล่าวต่อไปว่า วิธีการสังเกตว่ามีปัญหาเสพติดสื่อหรือไม่นั้นดูจากการใช้สื่อออนไลน์ หากใช้ติดต่อกันนาน 3 ชั่วโมง โดย ไม่หยุดพัก ถือเป็นอาการเริ่มต้น แต่ถ้าจะดูว่าเป็นโรคเสพติดหรือไม่นั้นดูจากการสูญเสียการทำหน้าที่ เช่น ไม่รับผิดชอบต่องาน ไม่ไปทำงาน หรือพ่อ แม่ ไม่ทำหน้าที่ในการดูแลบุตร
อย่างไรก็ตาม เรื่องการเสพติดสื่อออนไลน์ถือเป็นปัญหามาก โดยเฉพาะในส่วนของไทยมักใช้ไปเพื่อความบันเทิง ดังนั้น องค์การอนามัยโลก (WHO) เตรียมที่จะบรรจุเรื่องของการเสพติดสื่อออนไลน์ให้เป็น 1 ในคำวินิจฉัยทางจิตเวช คาดว่าจะประกาศอยู่ในระบบการวินิจฉัยใหม่ที่เป็นเกณฑ์ให้แต่ละประเทศใช้ได้ภายใน 1-2 ปีนี้ และหลังองค์การอนามัยโลกประกาศใช้แล้วกรมสุขภาพจิตก็จะมีการสำรวจปัญหาสุขภาพจิตแรงงานไทยอีกครั้ง เพื่อระบุความรุนแรงโรคการเสพติดพฤติกรรมว่าอยู่ในระดับใด.
ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/612893
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เสพติดสื่อออนไลน์หรือเสพติดโซเชียลมีเดีย นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ หัวหน้ากลุ่มที่ปรึกษา กรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ขณะนี้พบว่าประชากรในวัยทำงานมีปัญหาสุขภาพจิตมากขึ้น โดยมีสาเหตุมาจากภัยแล้ง ความเครียดจากหนี้สิน และความรัก ซึ่งอาการที่พบอันดับ 1 คือวิตกกังวล ซึมเศร้า รองลงมาคือปัญหาติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่จัดทำให้มีปัญหาทะเลาะวิวาทในสถานประกอบการ นอกจากนี้ ยังพบเทรนด์ใหม่มีการเสพติดการพนันออนไลน์ เสพติดโซเชียลมีเดีย หรือโรคเสพติดพฤติกรรม ซึ่งเป็นผลมาจากความเครียดในการทำงานแต่หาทาง ออกไม่ได้ นพ.ยงยุทธกล่าวต่อไปว่า วิธีการสังเกตว่ามีปัญหาเสพติดสื่อหรือไม่นั้นดูจากการใช้สื่อออนไลน์ หากใช้ติดต่อกันนาน 3 ชั่วโมง โดย ไม่หยุดพัก ถือเป็นอาการเริ่มต้น แต่ถ้าจะดูว่าเป็นโรคเสพติดหรือไม่นั้นดูจากการสูญเสียการทำหน้าที่ เช่น ไม่รับผิดชอบต่องาน ไม่ไปทำงาน หรือพ่อ แม่ ไม่ทำหน้าที่ในการดูแลบุตร อย่างไรก็ตาม เรื่องการเสพติดสื่อออนไลน์ถือเป็นปัญหามาก โดยเฉพาะในส่วนของไทยมักใช้ไปเพื่อความบันเทิง ดังนั้น องค์การอนามัยโลก (WHO) เตรียมที่จะบรรจุเรื่องของการเสพติดสื่อออนไลน์ให้เป็น 1 ในคำวินิจฉัยทางจิตเวช คาดว่าจะประกาศอยู่ในระบบการวินิจฉัยใหม่ที่เป็นเกณฑ์ให้แต่ละประเทศใช้ได้ภายใน 1-2 ปีนี้ และหลังองค์การอนามัยโลกประกาศใช้แล้วกรมสุขภาพจิตก็จะมีการสำรวจปัญหาสุขภาพจิตแรงงานไทยอีกครั้ง เพื่อระบุความรุนแรงโรคการเสพติดพฤติกรรมว่าอยู่ในระดับใด. ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/612893
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)