'โฟม' มหันตภัยที่มองไม่เห็น กินง่าย สะดวกสบาย แต่ตายไว

แสดงความคิดเห็น

อาหารในกล่องโฟม

"กล่องโฟม" ภาชนะคุ้นตาในชีวิตประจำวันของใครหลายคน เมื่อความเร่งรีบของวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ จนต้องฝากท้องไว้กับร้านอาหารตามสั่ง หิ้วข้าวกล่องกลับบ้าน หรือชามโฟมใส่ก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ ทานสะดวกสบาย

แต่รู้หรือไม่ว่า เรากำลังได้รับของแถมมากกว่าอาหารกลับมาด้วย นั่นคือ "มะเร็ง"เราพูดถึงอาหารนานาชนิดที่ไร้ประโยชน์ สร้างโทษให้ร่างกายมาหลายครั้ง แต่เชื่อหรือไม่ ภัยเงียบที่มาจาก "บรรจุภัณฑ์" ห่อหุ้มอาหารแสนอร่อยนั้นร้ายแรงไม่แพ้กัน

นายแพทย์วีรฉัตร กิตติรัตนไพบูลย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านบรรจุภัณฑ์ บริษัท บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม เล่าถึงที่มาที่ไป ของโฟมบรรจุอาหาร หรือที่เรียกอีกอย่างว่า "โพลิสไตรีนโฟม" หรือ "สไตโรโฟม" มีลักษณะเป็นเนื้อพอง เม็ดกลมเบียดอัดกันแน่นอยู่ในแผ่น แข็งแรง ยืดหยุ่นได้ ผลิตมาจาก "ของเหลือทิ้งในน้ำมัน" ที่เป็นของเสียสีดำๆ จากกระบวนการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมประกอบด้วยสารสไตรีน (Styrene)คุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านบรรจุภัณฑ์เล่าว่า องค์การอนามัยโลกได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2555 ระบุ "สารสไตรีนเป็นสารก่อมะเร็ง"

หลายคนคิดว่าโฟมต้องโดนความร้อนก่อนถึงจะปล่อยสารสไตรีนออกมา นี่คือความคิดที่ผิด คุณหมออธิบายว่า แม้อยู่ในอุณภูมิปกติสารสไตรีนก็สามารถแทรกซึมเข้าสู่อาหารได้ "ฝุ่นผงขาวๆ ที่ติดมาในก้นกล่องโฟม เมื่อผสมรวมกับอาหาร มันก็คือการกิน สไตรีนดีๆ นี่เอง ยิ่งมีความร้อนเป็นตัวกระตุ้น ยิ่งดูดซึมเข้าสู่อาหารได้มากขึ้น เคยมีการทดลองนำไข่ที่ห่ออยู่ในโฟมทั้งๆ ที่ไม่ได้โดนความร้อนมาทำการทดสอบ พบสารสไตรีนในไข่ที่ยังไม่ได้แกะเปลือก"

"แล้วสารสไตรีนมีผลต่อร่างกายอย่างไร ?"คุณหมอเผยถึงโรคร้ายทั้งหลายที่มาจากสารพิษชนิดนี้ และที่สำคัญไปกว่านั้น ทุกคนมีโอกาสเสี่ยงได้เท่าๆ กัน "ผู้หญิง" ที่ได้รับสารสไตรีนมาก เสี่ยงต่อการมีประจำเดือนมาไม่ปกติ หงุดหงิดง่าย สมองเสื่อม สาเหตุเกิดจาก "สารสไตรีน" มีโครงสร้างโมเลกุลคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ในเพศหญิงเรียกว่า "ฮอร์โมนเพศหญิงเทียม" เข้าไปทำปฏิกิริยาทางเคมีในร่างกาย สุดท้ายอาจกลายเป็น "โรคมะเร็งเต้านม" "หญิงตั้งครรภ์ห้ามกินอาหารใส่กล่องโฟมเด็ดขาด ถ้าไม่อยากให้ลูกพิการ!" นี่คือคำเตือนจากหมอวีรฉัตร เพราะสาร สไตรีนเมื่อดูดซึมผ่านท่ออาหารไปยังทารก ในครรภ์จะเกิดปฏิกิริยาต่อเซลล์สร้างอวัยวะไปกระตุ้นเซลล์ให้ผิดปกติเพี้ยนไปจากเดิมทำให้อวัยวะในเซลล์ผิดรูป

ส่วน "ผู้ชาย" เมื่อได้รับสารสไตรีนเข้าไปมากๆ มีความเสี่ยงเป็น "มะเร็งต่อมลูกหมาก"สาเหตุมาจากสารสไตรีนเข้าไปทำปฏิกิริยา กับระบบฮอร์โมนแอนโดรเจนหรือฮอร์โมน เพศชายแบบผิดปกติ คุณหมอยังชี้แจงข้อมูลสุขภาพที่น่าตกใจว่า มะเร็งโรคร้ายที่คนไทยเป็นมากที่สุดคือ "มะเร็งตับ" สาเหตุไม่ได้มาจากการดื่มสุราอย่างเดียว แต่มาจาก "อาหารและบรรจุภัณฑ์" เพราะตับเป็นอวัยวะกำจัดของเสียที่เกิดจากการกิน ทุกคนที่ได้รับสารสไตรีนเข้าไปจำนวนมากเกินกว่าร่างกายจะรับไหวและ ขจัดออกไม่หมด สารพิษนี้จะไปสะสมจนเกิดเป็นมะเร็งตับ

"ถ้าหากเรากินอาหารจากกล่องโฟมวันละอย่างน้อย 1 มื้อ ติดต่อเป็นเวลา 10 ปี จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งสูงกว่าคนปกติถึง 6 เท่า หากสารสไตรีนเข้าสู่กระแสเลือดจะทำให้ ฮีโมโกลบินในเลือดต่ำ เมื่อร่างกายอยู่ในความดันอากาศต่ำ หรืออยู่ในที่สูง เลือดจะจับออกซิเจนได้น้อย เกิดอาการช็อกเป็นลมหมดสติได้"

ทั้งนี้ ผู้บริโภคมีโอกาสได้รับสารสไตรีนในกล่องโฟมได้ง่ายถึง 5 ปัจจัย ได้แก่ 1.อุณหภูมิที่ร้อนขึ้นหรือเย็นลง ทำให้ สไตรีนซึมเข้าสู่อาหารได้สูง 2.ถ้าปรุงอาหารโดยใส่น้ำมัน น้ำส้มสายชู แอลกอฮอล์ จะดูดสารสไตรีนจากกล่องโฟมได้มากกว่าปกติ 3.ถ้าซื้ออาหารใส่กล่องทิ้งไว้นานๆ ไม่ได้รับประทาน อาหารจะดูดสารสไตรีนได้มาก 4.ถ้านำอาหารที่บรรจุโฟมเข้าไมโครเวฟ สไตรีนจะไหลออกมาในปริมาณมาก 5.ถ้าอาหารสัมผัสพื้นที่ผิวกล่องโฟมมากๆ รวมถึงร้านไหนตัดถุงพลาสติกใสรองอาหาร ขอบอกว่าได้รับสารก่อมะเร็ง2เด้งทั้งสไตรีนและไดออกซินจากถุงพลาสติกเลยทีเดียว

เพราะฉะนั้นเราควรหลีกเลี่ยงการใช้กล่องโฟม อาจหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ อาทิ ใบตอง กล่องโฟมชานอ้อย จากมันสำปะหลังที่มีจำหน่าย หรือเพื่อเป็น การประหยัดก็พกปิ่นโตสักเถาติดมือเมื่อออกไปจับจ่ายอาหารนอกบ้านด้วยเลย

"ร่างกายเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการมีคุณภาพชีวิตที่ดี เพราะฉะนั้นเราต้องให้ความสำคัญ โดยการให้เวลากับการดูแลสุขภาพ อย่าให้ความสะดวกสบายมากัดกร่อนชีวิตเรา"นายแพทย์วีรฉัตรกล่าวทิ้งท้าย เราเห็นแล้วว่าสิ่งอำนวยความสะดวกที่มนุษย์สรรค์สร้างมาเพื่อความสบายของตัว เอง บางครั้งกลับกลายเป็นยาพิษร้ายที่แฝงมาอย่างเงียบๆ จนเราไม่รู้ เมื่อรู้ตัวทีหลังอาจสายเกินกว่าที่จะแก้ ถึงเวลาแล้วที่เราควรหันมาดูแลสุขภาพตัวเอง โดยเพิ่มความใส่ใจกับบรรจุภัณฑ์ที่ห่อหุ้มอาหาร เพื่อสุขภาพของเราและโลกที่น่าอยู่ใบนี้

มติชนรายวัน/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 12 มิ.ย.56

ที่มา: มติชนรายวัน/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 12 มิ.ย.56
วันที่โพสต์: 14/06/2556 เวลา 02:39:31 ดูภาพสไลด์โชว์  'โฟม' มหันตภัยที่มองไม่เห็น กินง่าย สะดวกสบาย แต่ตายไว

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

อาหารในกล่องโฟม "กล่องโฟม" ภาชนะคุ้นตาในชีวิตประจำวันของใครหลายคน เมื่อความเร่งรีบของวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ จนต้องฝากท้องไว้กับร้านอาหารตามสั่ง หิ้วข้าวกล่องกลับบ้าน หรือชามโฟมใส่ก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ ทานสะดวกสบาย แต่รู้หรือไม่ว่า เรากำลังได้รับของแถมมากกว่าอาหารกลับมาด้วย นั่นคือ "มะเร็ง"เราพูดถึงอาหารนานาชนิดที่ไร้ประโยชน์ สร้างโทษให้ร่างกายมาหลายครั้ง แต่เชื่อหรือไม่ ภัยเงียบที่มาจาก "บรรจุภัณฑ์" ห่อหุ้มอาหารแสนอร่อยนั้นร้ายแรงไม่แพ้กัน นายแพทย์วีรฉัตร กิตติรัตนไพบูลย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านบรรจุภัณฑ์ บริษัท บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม เล่าถึงที่มาที่ไป ของโฟมบรรจุอาหาร หรือที่เรียกอีกอย่างว่า "โพลิสไตรีนโฟม" หรือ "สไตโรโฟม" มีลักษณะเป็นเนื้อพอง เม็ดกลมเบียดอัดกันแน่นอยู่ในแผ่น แข็งแรง ยืดหยุ่นได้ ผลิตมาจาก "ของเหลือทิ้งในน้ำมัน" ที่เป็นของเสียสีดำๆ จากกระบวนการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมประกอบด้วยสารสไตรีน (Styrene)คุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านบรรจุภัณฑ์เล่าว่า องค์การอนามัยโลกได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2555 ระบุ "สารสไตรีนเป็นสารก่อมะเร็ง" หลายคนคิดว่าโฟมต้องโดนความร้อนก่อนถึงจะปล่อยสารสไตรีนออกมา นี่คือความคิดที่ผิด คุณหมออธิบายว่า แม้อยู่ในอุณภูมิปกติสารสไตรีนก็สามารถแทรกซึมเข้าสู่อาหารได้ "ฝุ่นผงขาวๆ ที่ติดมาในก้นกล่องโฟม เมื่อผสมรวมกับอาหาร มันก็คือการกิน สไตรีนดีๆ นี่เอง ยิ่งมีความร้อนเป็นตัวกระตุ้น ยิ่งดูดซึมเข้าสู่อาหารได้มากขึ้น เคยมีการทดลองนำไข่ที่ห่ออยู่ในโฟมทั้งๆ ที่ไม่ได้โดนความร้อนมาทำการทดสอบ พบสารสไตรีนในไข่ที่ยังไม่ได้แกะเปลือก" "แล้วสารสไตรีนมีผลต่อร่างกายอย่างไร ?"คุณหมอเผยถึงโรคร้ายทั้งหลายที่มาจากสารพิษชนิดนี้ และที่สำคัญไปกว่านั้น ทุกคนมีโอกาสเสี่ยงได้เท่าๆ กัน "ผู้หญิง" ที่ได้รับสารสไตรีนมาก เสี่ยงต่อการมีประจำเดือนมาไม่ปกติ หงุดหงิดง่าย สมองเสื่อม สาเหตุเกิดจาก "สารสไตรีน" มีโครงสร้างโมเลกุลคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ในเพศหญิงเรียกว่า "ฮอร์โมนเพศหญิงเทียม" เข้าไปทำปฏิกิริยาทางเคมีในร่างกาย สุดท้ายอาจกลายเป็น "โรคมะเร็งเต้านม" "หญิงตั้งครรภ์ห้ามกินอาหารใส่กล่องโฟมเด็ดขาด ถ้าไม่อยากให้ลูกพิการ!" นี่คือคำเตือนจากหมอวีรฉัตร เพราะสาร สไตรีนเมื่อดูดซึมผ่านท่ออาหารไปยังทารก ในครรภ์จะเกิดปฏิกิริยาต่อเซลล์สร้างอวัยวะไปกระตุ้นเซลล์ให้ผิดปกติเพี้ยนไปจากเดิมทำให้อวัยวะในเซลล์ผิดรูป ส่วน "ผู้ชาย" เมื่อได้รับสารสไตรีนเข้าไปมากๆ มีความเสี่ยงเป็น "มะเร็งต่อมลูกหมาก"สาเหตุมาจากสารสไตรีนเข้าไปทำปฏิกิริยา กับระบบฮอร์โมนแอนโดรเจนหรือฮอร์โมน เพศชายแบบผิดปกติ คุณหมอยังชี้แจงข้อมูลสุขภาพที่น่าตกใจว่า มะเร็งโรคร้ายที่คนไทยเป็นมากที่สุดคือ "มะเร็งตับ" สาเหตุไม่ได้มาจากการดื่มสุราอย่างเดียว แต่มาจาก "อาหารและบรรจุภัณฑ์" เพราะตับเป็นอวัยวะกำจัดของเสียที่เกิดจากการกิน ทุกคนที่ได้รับสารสไตรีนเข้าไปจำนวนมากเกินกว่าร่างกายจะรับไหวและ ขจัดออกไม่หมด สารพิษนี้จะไปสะสมจนเกิดเป็นมะเร็งตับ "ถ้าหากเรากินอาหารจากกล่องโฟมวันละอย่างน้อย 1 มื้อ ติดต่อเป็นเวลา 10 ปี จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งสูงกว่าคนปกติถึง 6 เท่า หากสารสไตรีนเข้าสู่กระแสเลือดจะทำให้ ฮีโมโกลบินในเลือดต่ำ เมื่อร่างกายอยู่ในความดันอากาศต่ำ หรืออยู่ในที่สูง เลือดจะจับออกซิเจนได้น้อย เกิดอาการช็อกเป็นลมหมดสติได้" ทั้งนี้ ผู้บริโภคมีโอกาสได้รับสารสไตรีนในกล่องโฟมได้ง่ายถึง 5 ปัจจัย ได้แก่ 1.อุณหภูมิที่ร้อนขึ้นหรือเย็นลง ทำให้ สไตรีนซึมเข้าสู่อาหารได้สูง 2.ถ้าปรุงอาหารโดยใส่น้ำมัน น้ำส้มสายชู แอลกอฮอล์ จะดูดสารสไตรีนจากกล่องโฟมได้มากกว่าปกติ 3.ถ้าซื้ออาหารใส่กล่องทิ้งไว้นานๆ ไม่ได้รับประทาน อาหารจะดูดสารสไตรีนได้มาก 4.ถ้านำอาหารที่บรรจุโฟมเข้าไมโครเวฟ สไตรีนจะไหลออกมาในปริมาณมาก 5.ถ้าอาหารสัมผัสพื้นที่ผิวกล่องโฟมมากๆ รวมถึงร้านไหนตัดถุงพลาสติกใสรองอาหาร ขอบอกว่าได้รับสารก่อมะเร็ง2เด้งทั้งสไตรีนและไดออกซินจากถุงพลาสติกเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นเราควรหลีกเลี่ยงการใช้กล่องโฟม อาจหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ อาทิ ใบตอง กล่องโฟมชานอ้อย จากมันสำปะหลังที่มีจำหน่าย หรือเพื่อเป็น การประหยัดก็พกปิ่นโตสักเถาติดมือเมื่อออกไปจับจ่ายอาหารนอกบ้านด้วยเลย "ร่างกายเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการมีคุณภาพชีวิตที่ดี เพราะฉะนั้นเราต้องให้ความสำคัญ โดยการให้เวลากับการดูแลสุขภาพ อย่าให้ความสะดวกสบายมากัดกร่อนชีวิตเรา"นายแพทย์วีรฉัตรกล่าวทิ้งท้าย เราเห็นแล้วว่าสิ่งอำนวยความสะดวกที่มนุษย์สรรค์สร้างมาเพื่อความสบายของตัว เอง บางครั้งกลับกลายเป็นยาพิษร้ายที่แฝงมาอย่างเงียบๆ จนเราไม่รู้ เมื่อรู้ตัวทีหลังอาจสายเกินกว่าที่จะแก้ ถึงเวลาแล้วที่เราควรหันมาดูแลสุขภาพตัวเอง โดยเพิ่มความใส่ใจกับบรรจุภัณฑ์ที่ห่อหุ้มอาหาร เพื่อสุขภาพของเราและโลกที่น่าอยู่ใบนี้ มติชนรายวัน/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 12 มิ.ย.56

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...