หมอธีระวัฒน์ ซัด 2 หน่วยงานนิ่งเฉย ปม ‘คนไทยตาย-พิการจากวัคซีนโควิด’
หมอธีระวัฒน์ ซัด ‘อย.-สธ.-สถาบันวัคซีน’ นิ่งเฉย ‘คนไทยตาย-พิการจากวัคซีนโควิด’ จี้เปิดชื่อกก.ประเมินผลกระทบวัคซีน
เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้เชี่ยวชาญทางอายุรกรรมและระบบประสาท จุฬาฯ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า วิธีเลี่ยงบาลีว่าไม่เกี่ยวกับผลกระทบของวัคซีน
1.ถ้าพูดถึงลิ่มเลือดอุดตันก็จะพูดถึงอยู่ในระยะเวลา 5-42 วัน
คำถามคือ ทราบหรือไม่ว่าทำไมต้อง 5 ทำไมต้อง 42
ทราบหรือไม่ว่า เริ่มต้นจากตัวเลขที่ 21 และต่อมาคูณด้วยสอง และในทางสากลจะจัดที่ตัวเลข 84 ถึง 90 วัน
ทั้งนี้ จะสอดคล้องกับกลไกทางความแปรปรวนทางระบบภูมิคุ้มกัน หลังจากได้รับการฉีดวัคซีนจะเกิดปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันและต่อมาสร้างการอักเสบและต่อมาทำให้เลือดข้นหนืดและเกิดอุดตันขึ้น
2.หลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงผลกระทบอย่างอื่นภายในระยะเวลาสามเดือนที่อธิบายด้วยกลไกชนิดเดียวกันในทางสมองทางเส้นประสาททางด้านการอักเสบของระบบร่างกายต่างๆ
3.หลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงผลกระทบระยะยาวที่นานกว่าสามเดือน เพราะห่างกันไปมากและถ้าตายไปก็จะปฏิเสธทันทีว่าไม่เกี่ยวและปฏิเสธที่จะทำการชันสูตรอย่างละเอียดถึงการพบ การอักเสบที่เป็นร่องรอยของการเกิดจากวัคซีน ทั้งทั้งที่ผู้ตายสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดีก่อนหน้าที่จะฉีดวัคซีนด้วยซ้ำ
4.ส่วนของวัคซีน mRNA ที่ปรับแต่งโครงสร้างและยังมีสิ่งปะปนอย่างอื่นเข้ามา ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถที่จะสร้างโปรตีนชนิดอื่นๆ อีกหลายชนิด เราสามารถเสียบเข้าไปในโครโมโซมหรือดีเอ็นเอของมนุษย์ได้
และมีรายงานของสมองเสื่อม ของมะเร็ง และยังรวมถึงลิ่มเลือดอุดตันต่างๆ และเกิดขึ้นเป็นผลต่อเนื่องระยะยาว หรืออาจจะดูปกติในตอนแรกแต่เกิดขึ้นภายหลังเป็นปีก็มีได้ ซึ่งถ้าไม่ได้ชันสูตรศพ เช่น การรายงานจากประเทศเยอรมันหรือสหรัฐที่พบการก่อตัวของโปรตีนผิดปกติและโปรตีนของวัคซีนก็จะหาความเชื่อมโยงไม่ได้
5.ประชาชนมีความจำเป็นที่ต้องทราบวิธีเลี่ยงบาลีชนิดนี้และกล่าวอ้างว่าทำตามข้อแนะนำองค์การอนามัยโลกอย่างเคร่งครัด !!!
ในเมื่อคนไทยตายซับซ้อนขนาดนี้ ยังไม่คิดที่จะยุติการฉีดวัคซีนเหล่านี้หรือ ทั้งๆ ที่ยอมรับกันแล้วว่าวัคซีนเหล่านี้รวมแอสตร้า (ที่ไม่ได้ใช้แล้ว) ทั้งหมดไม่ได้ผ่านขั้นตอนมาตรฐานความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่แท้จริง
และในเมื่อทราบว่าไม่ปลอดภัยตั้งแต่ต้นยังกล่าวอ้างว่าทางประเทศไทยมีผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนทั้งหมด ที่รุนแรงเพียง “5 ราย” และวัคซีนทั้งหมดปลอดภัยและผ่านขั้นตอนการประเมินประกาศ เดือนกุมภาพันธ์ 2567
แต่ในคำแถลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 กล่าวว่าเฉพาะวัคซีนแอสตร้าก็มีเข้าข่ายเฉพาะลิ่มเลือดตัน 7 รายและเสียชีวิต 2 ราย อื่นๆไม่เข้าข่าย
ตกลงเอาเพียงแค่ “แอสตร้า” ตัวเดียวเฉพาะลิ่มเลือดอย่างเดียวก็ 7 รายแล้วและตาย 2 ราย แล้ว เพียง 5 รายมาจากที่ใด
ไฟเซอร์ ด.ญ. อายุ 12 ฉีดไปลำไส้เน่า ต้องตัดทิ้งและเสียชีวิต นับด้วย?
ที่หมอดูคนไข้จากชิโนแว็ก ก็มีตาย ชิโนฟาร์มเป็นหัวใจวาย ต้องเปลี่ยนหัวใจ
แอสตร้าฯ ก็มีน้ำรั่วในสมอง สมองบวม เส้นเลือดดำตันในสมองและแตกต่อ
ไฟเซอร์ โมเดนา มีผลกระทบนับไม่ถ้วน และเราก็เห็นและรักษาไฟเซอร์จากหัวใจวาย โมเดนาจากลิ่มเลือดอุดตันในปอด และอื่นๆ
ต้องเปิดเผยชื่อกรรมการประเมินผลกระทบของวัคซีน ต้องเปิดเผย อย. กระทรวงสาธารณสุข สถาบันวัคซีนว่าทำไมนิ่งเฉยกับการตายและพิการของคนไทย
เราคนไทยด้วยกันไม่ใช่หรือครับ
ฟ้องบริษัทวัคซีนและเอาเงินมาให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตและพิการจะเป็นเรื่องประเสริฐที่สุด
ขอบคุณ... https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4562371