′โรคอินเทรนด์′ ของเด็ก...สมาธิสั้น, ออทิสติก, พฤติกรรมเบี่ยงเบน, ก้าวร้าว, ติดเกม

แสดงความคิดเห็น

แพทย์กำลังตรวจร่างกายเด็กหญิง กลุ่มเจเนอเรชั่นที่ต้องใส่ใจดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ คือ "เด็ก" เพื่อจะเติบโตเป็นทรัพยากรสำคัญพัฒนาประเทศ พ.ญ.วนิดา พิสิษฐ์กุล กุมารแพทย์ประจำโรงพยาบาลธนบุรี 2 บอกเล่าถึง "โรคอินเทรนด์" เตรียมระวังภัยสำหรับเด็ก เริ่มจากกลุ่ม "โรคติดเชื้อ" อย่างเช่น "ไข้หวัดใหญ่" เป็นการติดเชื้อไวรัส Influenza กำลังแพร่ระบาดมากขึ้นทั้งในและนอกฤดูกาล มีหลายสายพันธุ์ สาเหตุ การแพร่กระจาย มักเกิดจากการที่คนไข้ไม่ทราบว่าตัวเองมีเชื้อไข้หวัดนี้ และไม่ได้มีพฤติกรรมป้องกัน กลายพาหะแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว เหมือนแชร์ลูกโซ่

อีกโรคยอดฮิตในเด็ก คือ "โรคมือเท้าปาก" เริ่มพบในกลุ่มคนอายุเพิ่มขึ้น ต่างจากอดีตที่พบในเด็กอายุน้อย และมีแนวโน้มเป็นได้หลายครั้งมากกว่าเดิม ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีวัคซีนใดป้องกันโรคนี้ โดยเชื้อสามารถแพร่จากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้ง่ายมากโดยเฉพาะกลุ่มเด็ก ผ่านการสัมผัสน้ำลาย เสมหะ หรือน้ำจากตุ่มใสของผู้ป่วย ดังนั้น พ่อแม่ควรสังเกตอาการลูก ๆ ยิ่งถ้าเป็นเด็กเล็กจะเป็นอันตรายมาก เสี่ยงที่เชื้อจะแพร่เข้าสมองหรือหัวใจได้ เช่นเดียวกับกรณีเด็กกัมพูชาที่เสียชีวิตจากไวรัสกลุ่มนี้

นอกจากนี้ ยังมี "โรคไข้เลือดออก" ถึงแม้จะไม่ได้ฮอตเท่าสองโรคแรก แต่เป็นโรคที่คนชอบตกใจเมื่อลูกป่วยเป็นไข้เลือดออก เพราะยังไม่มียารักษาและไม่มีวัคซีนป้องกัน ต้องสังเกตอาการเอง แต่ ความน่าเป็นห่วงในปัจจุบัน คือ เริ่มสังเกตอาการยาก เพราะไม่ต้องมีอาการตัวแดง หรือมีไข้ไม่สูงมากเหมือนแต่ก่อน ก็เสี่ยงเป็นโรคไข้เลือดออกได้ ฉะนั้นเมื่อใดที่มีไข้สูงเกิน 3 วัน ต้องไปพบแพทย์ทุกครั้ง

พ.ญ.วนิดา พิสิษฐ์กุล กุมารแพทย์ประจำโรงพยาบาลธนบุรี 2 แพทย์หญิงวนิดา พูดถึงวงการแพทย์ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจเรื่องไข้หวัดใหญ่ รวมถึงไข้หวัดนกด้วย ส่วนโรคมือเท้าปากเป็นโรคที่พบบ่อยในประเทศไทยและเพื่อนบ้านแถบอาเซียน จึงเป็นโรคน่าห่วงเมื่อเปิดประชาคมอาเซียน ส่วนกลุ่ม "โรคไม่ติดต่อ" ติดอันดับของเด็กไทย คือ "โรคอ้วน" พ่วงให้เสี่ยงเป็นอีกหลายโรคเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ โดยเฉพาะโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง

ต่อมาเป็น "ภาวะการเจริญเติบโตล่าช้า หรือเร็วกว่าอายุ" ความเป็นห่วงตกอยู่ที่ "เด็กผู้หญิง" ที่โตเร็วเกินไป ถ้ามีประจำเดือนเร็วก็จะชะลอการเติบโตเร็ว นั่นคือ "เทรนด์เด็กโตเร็ว หยุดโตเร็ว"

แพทย์หญิงวนิดาชี้อีกหนึ่งปัญหาที่กำลังคุกคามสุขภาพเด็กไทย คือ สมาธิสั้น, ออทิสติก, พฤติกรรมเบี่ยงเบน, ก้าวร้าว, ติดเกม คุณหมอยังฝากถึง “วิธีการป้องกัน” สำหรับโรคติดเชื้อ เบื้องต้นควรรักษาตามอาการ ให้ยาต้านแบคทีเรีย และยาต้านไวรัส ส่วนคนไข้ที่มีโรคแทรกซ้อนควรมาพบแพทย์โดยด่วน

ขณะที่โรคยอดฮิตอย่าง “โรคอ้วน” ก่อนอื่นควรปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน แนะให้ครบ 5 หมู่ ครบทุกมื้อ ดื่มน้ำบ่อยๆ รวมถึงพยายาม ลด ละ เลิก อาหารขยะต่างๆ พร้อมย้ำ “ไม่ใช่อร่อยที่ปาก แต่มาลำบากที่กาย” นอกจากนี้ ควรให้เด็กอยู่ในสภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี และพาลูกเข้านอนแต่หัวค่ำ ควรนอนหลับให้เพียงพอ เฉลี่ย 8-10 ชั่วโมง หากอยู่ ในช่วงเกิดโรคมือเท้าปากระบาด งดไปว่ายน้ำในสระสาธารณะ หลีกเลี่ยงสถานที่คนพลุกพล่าน เมื่อลูกไม่สบายควรรักษาตัวอยู่ที่บ้าน เพื่อลดการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น กรณีเด็กที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ควรพักอย่างน้อย 5 วัน ส่วนโรคมือเท้าปากต้องพัก 7 วัน ดังนั้น พ่อแม่ควรดูแลเอาใจใส่ ทั้งสุขภาพกายและใจของลูกๆ ย่อมช่วยป้องกันโรคภัยต่างๆได้ ถ้าสังเกตเห็นอาการผิดปกติใดๆ อย่าลังเลที่จะไปปรึกษากุมารแพทย์ และควรพาลูกไปฉีดวัคซีนตามตารางของกระทรวงสาธารณสุขให้ครบถ้วน และควรหมั่นติดตามข่าวสารโรคระบาดต่าง ๆ อยู่เสมอ

ขอบคุณ... http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1368691973

ที่มา: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 16 พ.ค.56
วันที่โพสต์: 17/05/2556 เวลา 04:14:04 ดูภาพสไลด์โชว์ ′โรคอินเทรนด์′ ของเด็ก...สมาธิสั้น, ออทิสติก, พฤติกรรมเบี่ยงเบน, ก้าวร้าว, ติดเกม

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

แพทย์กำลังตรวจร่างกายเด็กหญิงกลุ่มเจเนอเรชั่นที่ต้องใส่ใจดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ คือ "เด็ก" เพื่อจะเติบโตเป็นทรัพยากรสำคัญพัฒนาประเทศ พ.ญ.วนิดา พิสิษฐ์กุล กุมารแพทย์ประจำโรงพยาบาลธนบุรี 2 บอกเล่าถึง "โรคอินเทรนด์" เตรียมระวังภัยสำหรับเด็ก เริ่มจากกลุ่ม "โรคติดเชื้อ" อย่างเช่น "ไข้หวัดใหญ่" เป็นการติดเชื้อไวรัส Influenza กำลังแพร่ระบาดมากขึ้นทั้งในและนอกฤดูกาล มีหลายสายพันธุ์ สาเหตุ การแพร่กระจาย มักเกิดจากการที่คนไข้ไม่ทราบว่าตัวเองมีเชื้อไข้หวัดนี้ และไม่ได้มีพฤติกรรมป้องกัน กลายพาหะแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว เหมือนแชร์ลูกโซ่ อีกโรคยอดฮิตในเด็ก คือ "โรคมือเท้าปาก" เริ่มพบในกลุ่มคนอายุเพิ่มขึ้น ต่างจากอดีตที่พบในเด็กอายุน้อย และมีแนวโน้มเป็นได้หลายครั้งมากกว่าเดิม ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีวัคซีนใดป้องกันโรคนี้ โดยเชื้อสามารถแพร่จากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้ง่ายมากโดยเฉพาะกลุ่มเด็ก ผ่านการสัมผัสน้ำลาย เสมหะ หรือน้ำจากตุ่มใสของผู้ป่วย ดังนั้น พ่อแม่ควรสังเกตอาการลูก ๆ ยิ่งถ้าเป็นเด็กเล็กจะเป็นอันตรายมาก เสี่ยงที่เชื้อจะแพร่เข้าสมองหรือหัวใจได้ เช่นเดียวกับกรณีเด็กกัมพูชาที่เสียชีวิตจากไวรัสกลุ่มนี้ นอกจากนี้ ยังมี "โรคไข้เลือดออก" ถึงแม้จะไม่ได้ฮอตเท่าสองโรคแรก แต่เป็นโรคที่คนชอบตกใจเมื่อลูกป่วยเป็นไข้เลือดออก เพราะยังไม่มียารักษาและไม่มีวัคซีนป้องกัน ต้องสังเกตอาการเอง แต่ ความน่าเป็นห่วงในปัจจุบัน คือ เริ่มสังเกตอาการยาก เพราะไม่ต้องมีอาการตัวแดง หรือมีไข้ไม่สูงมากเหมือนแต่ก่อน ก็เสี่ยงเป็นโรคไข้เลือดออกได้ ฉะนั้นเมื่อใดที่มีไข้สูงเกิน 3 วัน ต้องไปพบแพทย์ทุกครั้ง พ.ญ.วนิดา พิสิษฐ์กุล กุมารแพทย์ประจำโรงพยาบาลธนบุรี 2แพทย์หญิงวนิดา พูดถึงวงการแพทย์ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจเรื่องไข้หวัดใหญ่ รวมถึงไข้หวัดนกด้วย ส่วนโรคมือเท้าปากเป็นโรคที่พบบ่อยในประเทศไทยและเพื่อนบ้านแถบอาเซียน จึงเป็นโรคน่าห่วงเมื่อเปิดประชาคมอาเซียน ส่วนกลุ่ม "โรคไม่ติดต่อ" ติดอันดับของเด็กไทย คือ "โรคอ้วน" พ่วงให้เสี่ยงเป็นอีกหลายโรคเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ โดยเฉพาะโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ต่อมาเป็น "ภาวะการเจริญเติบโตล่าช้า หรือเร็วกว่าอายุ" ความเป็นห่วงตกอยู่ที่ "เด็กผู้หญิง" ที่โตเร็วเกินไป ถ้ามีประจำเดือนเร็วก็จะชะลอการเติบโตเร็ว นั่นคือ "เทรนด์เด็กโตเร็ว หยุดโตเร็ว" แพทย์หญิงวนิดาชี้อีกหนึ่งปัญหาที่กำลังคุกคามสุขภาพเด็กไทย คือ สมาธิสั้น, ออทิสติก, พฤติกรรมเบี่ยงเบน, ก้าวร้าว, ติดเกม คุณหมอยังฝากถึง “วิธีการป้องกัน” สำหรับโรคติดเชื้อ เบื้องต้นควรรักษาตามอาการ ให้ยาต้านแบคทีเรีย และยาต้านไวรัส ส่วนคนไข้ที่มีโรคแทรกซ้อนควรมาพบแพทย์โดยด่วน ขณะที่โรคยอดฮิตอย่าง “โรคอ้วน” ก่อนอื่นควรปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน แนะให้ครบ 5 หมู่ ครบทุกมื้อ ดื่มน้ำบ่อยๆ รวมถึงพยายาม ลด ละ เลิก อาหารขยะต่างๆ พร้อมย้ำ “ไม่ใช่อร่อยที่ปาก แต่มาลำบากที่กาย” นอกจากนี้ ควรให้เด็กอยู่ในสภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี และพาลูกเข้านอนแต่หัวค่ำ ควรนอนหลับให้เพียงพอ เฉลี่ย 8-10 ชั่วโมง หากอยู่ ในช่วงเกิดโรคมือเท้าปากระบาด งดไปว่ายน้ำในสระสาธารณะ หลีกเลี่ยงสถานที่คนพลุกพล่าน เมื่อลูกไม่สบายควรรักษาตัวอยู่ที่บ้าน เพื่อลดการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น กรณีเด็กที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ควรพักอย่างน้อย 5 วัน ส่วนโรคมือเท้าปากต้องพัก 7 วัน ดังนั้น พ่อแม่ควรดูแลเอาใจใส่ ทั้งสุขภาพกายและใจของลูกๆ ย่อมช่วยป้องกันโรคภัยต่างๆได้ ถ้าสังเกตเห็นอาการผิดปกติใดๆ อย่าลังเลที่จะไปปรึกษากุมารแพทย์ และควรพาลูกไปฉีดวัคซีนตามตารางของกระทรวงสาธารณสุขให้ครบถ้วน และควรหมั่นติดตามข่าวสารโรคระบาดต่าง ๆ อยู่เสมอ ขอบคุณ... http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1368691973

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...