จิตแพทย์ชี้เด็ก ม.1 อ่านไม่ออก-เขียนไม่คล่อง เหตุพัฒนาการล่าช้า
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณีกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีความเป็นห่วงปัญหาเด็กไทย โดยเฉพาะเด็กชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ยังอ่านไม่ออก เขียนไม่คล่อง ว่า ปัญหานี้แท้จริงแล้วเกิดจากการที่เด็กมีพัฒนาการที่ล่าช้า แต่ไม่ได้รับการใส่ใจหรือแก้ปัญหาตั้งแต่เด็ก อย่างกรณีอ่านเขียนไม่คล่องนั้นเกิดจากการพัฒนาการล่าช้าด้านการเข้าใจภาษา สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการที่ไม่มีใครสื่อสารกับลูกตั้งแต่เด็ก เช่น พ่อแม่ต้องทำงานก็ปล่อยให้ลูกอยู่กับทีวี แม้แต่ตอนกลางคืนก็ไม่ได้มีการพูดคุยกับลูก ตรงนี้จะทำให้เด็กมีปัญหาการพัฒนาการด้านภาษา ดังนั้น พ่อแม่จะต้องหมั่นพูดคุยกับลูกบ่อยๆ
"หากอยากทราบว่าเด็กมีปัญหาพัฒนาการด้านภาษาหรือไม่ ความจริงแล้วสามารถสังเกตได้ตั้งแต่เด็ก แต่สำหรับพ่อแม่ที่มีลูกเข้าวัยเรียนแล้ว สามารถสังเกตได้ตั้งแต่ประถมศึกษาจากสมุดการบ้าน หากสมุดการบ้านเละ เขียนผิดๆ ตกหล่น ให้รีบแก้ไข แต่ส่วนใหญ่เมื่อเด็กอ่านเขียนไม่คล่อง ที่ผ่านมาครูมักจะคิดว่าเด็กไม่ตั้งใจเรียน ก็จะบังคับเขาให้อ่านหนังสือ บังคับให้เขียนจนกว่าจะได้เหมือนเพื่อนๆ ซึ่งการสอนแบบนี้จะไม่สามารถช่วยให้เด็กกลับมามีพัฒนาการที่เป็นปกติได้"
พญ.พรรณพิมลกล่าวอีกว่า การฝึกพัฒนาการด้านภาษาล่าช้าสำหรับเด็กประถมหรือมัธยมนั้น ต้องฝึกให้เขาอ่านแบบภาพแทน ถ้าให้ฝึกจากการสะกดตัวอักษร เขาจะงง ซึ่งปัจจุบันโรงเรียนหลายแห่งจะมีการเปิดสอนสำหรับเด็กที่มีปัญหาดังกล่าว แล้ว แต่ยังไม่ทั้งหมด โดยจะเปิดห้องเรียนพิเศษเหมือนเรียนซ่อมเสริม แต่จะให้เด็กได้มาเรียนรู้ภาษาในลักษณะของสื่อการเรียนการสอนที่คล้ายกับการ เล่นเกม จะช่วยให้เด็กได้รับความสนุกด้วย
ทั้งนี้ในปี 2557 กรมสุขภาพจิตจะมีความร่วมมือกับ ศธ. เพื่อให้เด็ก ป.1 มีกระบวนการประเมินเพื่อหาเด็กที่มีปัญหาพัฒนาการล่าช้า โดยจะทำคู่มือสำหรับครูโดยเฉพาะ เพราะที่ผ่านมามักพบว่าเด็ก ป.1 มีปัญหาออทิสติกร้อยละ 8 เด็กแอลดีร้อยละ 10 ซึ่งเมื่อรู้ได้ไวว่าเด็กมีปัญหาจะได้กระตุ้นพัฒนาการให้ถูกด้าน เด็กก็จะมีโอกาสกลับมาเป็นปกติได้
มติชนออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 26 ส.ค.56
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณีกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีความเป็นห่วงปัญหาเด็กไทย โดยเฉพาะเด็กชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ยังอ่านไม่ออก เขียนไม่คล่อง ว่า ปัญหานี้แท้จริงแล้วเกิดจากการที่เด็กมีพัฒนาการที่ล่าช้า แต่ไม่ได้รับการใส่ใจหรือแก้ปัญหาตั้งแต่เด็ก อย่างกรณีอ่านเขียนไม่คล่องนั้นเกิดจากการพัฒนาการล่าช้าด้านการเข้าใจภาษา สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการที่ไม่มีใครสื่อสารกับลูกตั้งแต่เด็ก เช่น พ่อแม่ต้องทำงานก็ปล่อยให้ลูกอยู่กับทีวี แม้แต่ตอนกลางคืนก็ไม่ได้มีการพูดคุยกับลูก ตรงนี้จะทำให้เด็กมีปัญหาการพัฒนาการด้านภาษา ดังนั้น พ่อแม่จะต้องหมั่นพูดคุยกับลูกบ่อยๆ "หากอยากทราบว่าเด็กมีปัญหาพัฒนาการด้านภาษาหรือไม่ ความจริงแล้วสามารถสังเกตได้ตั้งแต่เด็ก แต่สำหรับพ่อแม่ที่มีลูกเข้าวัยเรียนแล้ว สามารถสังเกตได้ตั้งแต่ประถมศึกษาจากสมุดการบ้าน หากสมุดการบ้านเละ เขียนผิดๆ ตกหล่น ให้รีบแก้ไข แต่ส่วนใหญ่เมื่อเด็กอ่านเขียนไม่คล่อง ที่ผ่านมาครูมักจะคิดว่าเด็กไม่ตั้งใจเรียน ก็จะบังคับเขาให้อ่านหนังสือ บังคับให้เขียนจนกว่าจะได้เหมือนเพื่อนๆ ซึ่งการสอนแบบนี้จะไม่สามารถช่วยให้เด็กกลับมามีพัฒนาการที่เป็นปกติได้" พญ.พรรณพิมลกล่าวอีกว่า การฝึกพัฒนาการด้านภาษาล่าช้าสำหรับเด็กประถมหรือมัธยมนั้น ต้องฝึกให้เขาอ่านแบบภาพแทน ถ้าให้ฝึกจากการสะกดตัวอักษร เขาจะงง ซึ่งปัจจุบันโรงเรียนหลายแห่งจะมีการเปิดสอนสำหรับเด็กที่มีปัญหาดังกล่าว แล้ว แต่ยังไม่ทั้งหมด โดยจะเปิดห้องเรียนพิเศษเหมือนเรียนซ่อมเสริม แต่จะให้เด็กได้มาเรียนรู้ภาษาในลักษณะของสื่อการเรียนการสอนที่คล้ายกับการ เล่นเกม จะช่วยให้เด็กได้รับความสนุกด้วย ทั้งนี้ในปี 2557 กรมสุขภาพจิตจะมีความร่วมมือกับ ศธ. เพื่อให้เด็ก ป.1 มีกระบวนการประเมินเพื่อหาเด็กที่มีปัญหาพัฒนาการล่าช้า โดยจะทำคู่มือสำหรับครูโดยเฉพาะ เพราะที่ผ่านมามักพบว่าเด็ก ป.1 มีปัญหาออทิสติกร้อยละ 8 เด็กแอลดีร้อยละ 10 ซึ่งเมื่อรู้ได้ไวว่าเด็กมีปัญหาจะได้กระตุ้นพัฒนาการให้ถูกด้าน เด็กก็จะมีโอกาสกลับมาเป็นปกติได้ ขอบคุณ... http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1377504240&grpid=&catid=09&subcatid=0902 มติชนออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 26 ส.ค.56
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)