อันตราย! ภัยเงียบที่มากับปวดหัวเฉียบพลัน ถึงอายุน้อยก็เสี่ยงพิการ-เสียชีวิต
อายุน้อยก็ไม่รอด! "หมออารักษ์" เผยเคสอุทาหรณ์ หนุ่มอายุ 32 ปี ปวดหัวเฉียบพลัน เจอต้นเหตุ "เส้นเลือดในสมองโป่ง" ทำพิษ ชี้หากรักษาไม่ทัน ทำเสี่ยงพิการ-เสียชีวิต!
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.ประจวบคีรีขันธ์ โพสต์ภาพพร้อมข้อความลงเพจ “Arak Wongworachat” เผยเคสอุทาหรณ์ของผู้ป่วยด้วยโรคเส้นเลือดสมองโป่งพอง ที่ถ้าเกิดรักษาไม่ทัน ทำให้เสี่ยงพิการและเสียชีวิตได้
โดยคุณหมอ ระบุว่า “โรคเส้นเลือดสมองโป่งพอง ภัยเงียบที่มากับอาการปวดศีรษะเฉียบพลัน ทำให้พิการ เสียชีวิต ได้ทันที หากรักษาไม่ทันท่วงที” ผู้ป่วยน่าสนใจ เพศชาย อายุ 32 ปี น้ำหนักประมาณ 170 กิโลกรัม ญาติให้ประวัติว่าขณะนั่งรับประทานอาหารเช้า มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงทันทีทันใด เหมือนมีอะไรเข้าไปอยู่ในศีรษะ พูดจาสับสน ซึมลง คลื่นไส้ อาเจียน แขนขาอ่อนแรง จนต้องล้มตัวลงนอนกับพื้น
ญาติที่นั่งอยู่ด้วยตกใจอย่างมาก รีบช่วยเหลือเบื้องต้นโดยการ บีบนวดตามแขนขา ผู้ป่วยเริ่มไม่พูด เอามือกุมศีรษะตลอดเวลา จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที แพทย์ห้องฉุกเฉินประเมินอาการเบื้องต้น สงสัยมีภาวะผิดปกติทางสมอง วัดความดันสูงมาก 200/120 mmhg ไม่เคยรักษามาก่อน คิดว่าอายุน้อย คงไม่มีโรคความดันโลหิตสูง ให้การดูแลเบื้องต้น ให้ยาลดความดัน ช่วยการหายใจ ส่งเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง ทันที
“จากภาพรังสีพบว่ามีเส้นเลือดในสมองโป่งพอง เส้นเลือดปริแตก มีเลือดกระจายไปสู่เนื้อสมอง ขยายเป็นวง รอบเส้นเลือดที่แตก ปรึกษา ศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมอง เตรียมการผ่าตัดในทันที ก่อนที่เลือดออกในเนื้อสมองมากขึ้น จะส่งผลให้เนื้อสมองขาดเลือดเป็นวงกว้างไปมากกว่านี้”
ภายในเวลา 30 นาที ต่อมา ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ แพทย์ใช้เทคนิคการผ่าตัด ใส่เครื่องมือเข้าไปในจุดที่เส้นเลือดโป่งพองแตก ใช้คลิปหนีบที่บริเวณเส้นเลือดโป่งพอง (clipping) เป็นวิธีการห้ามไม่ให้มีเลือดผ่านเข้าไปบริเวณที่มีการโป่งพองอีก การผ่าตัดสมองต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ที่มีกำลังขยายสูง เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจน การผ่าตัดสำเร็จด้วยดี
หลังผ่าตัดติดตามอาการ ใน 24 ชั่วโมง ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี ทำตามสั่งได้ ไม่สับสน ไม่มีอาการอ่อนแรง นับเป็นการรักษาที่ประสบความสำเร็จ ด้วยความพร้อมของทีม มีเครื่องมือที่เพียงพอ การจัดการของทีมได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยไม่ชักช้า..
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Arak Wongworachat