"ศิริราช"คว้ารางวัล"ธาลัสซีเมียโลก" ประเภทสถาบันโรคโลหิตจางฯ ดีเด่น
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงข่าว "ครั้งแรกของโลกกับรางวัลศูนย์ธาลัสซีเมียและ ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเวศ วะสี" ว่า เมื่อวันที่ 19-20 ตุลาคมที่ผ่านมา ในฐานะตัวแทนโรงพยาบาลศิริราช ได้เดินทางไปร่วมงานประชุมวิชาการสมาพันธ์ธาลัสซีเมียโลก ที่กรุงอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยในงานได้มีการมอบโล่รางวัลที่เรียกว่า "รางวัลโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียนานาชาติ สุลต่าน บิน คาลิฟา" หรือรางวัล "SITA" ซึ่งจัดตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2556 โดยมูลนิธิเพื่อมนุษยธรรมและวิทยาศาสตร์ สุลต่าน บิน คาลิฟา อัล นายาน ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐที่ไม่แสวงหาผลกำไร ก่อตั้งขึ้นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย
ศ.คลินิก.นพ.อุดมกล่าวว่า ในงานดังกล่าวเป็นเรื่องน่ายินดีที่โรงพยาบาลศิริราชได้รับรางวัลครั้งนี้ ด้วย โดยแบ่งออกเป็น 2 รางวัลใหญ่ คือ รางวัล "สถาบันแห่งความเป็นเลิศด้านการดูแลผู้ป่วยธาลัสซีเมีย (Sultan Bin Khalifa International Award for Center of Excellence) โดยโรงพยาบาลศิริราชได้รับการคัดเลือกร่วมกับสถาบันทางการแพทย์ 300 แห่งจากทั่วโลก จึงนับเป็นเรื่องน่ายินดียิ่งที่ได้รับรางวัลดังกล่าว เนื่องจากศูนย์ธาลัสซีเมีย โรงพยาบาลศิริราช เป็นสถานที่ให้บริการการดูแลผู้ป่วยแบบครบวงจร ตั้งแต่การตรวจคัดกรองพาหะธาลัสซีเมียในประชากร การให้คำปรึกษาทางเวชพันธุศาสตร์ การวินิจฉัยก่อนคลอด รวมทั้งนวัตกรรมการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อหาภาวะเหล็กเกินในตับและหัวใจ รวมไปถึงการรักษาต่างๆ ทั้งให้ยาขับเหล็ก การปลูกถ่ายไขกระดูกและการทำยีนบำบัดในอนาคต ซึ่งการบริการดังกล่าวได้รับการรับรองคุณภาพจากองค์กรระดับโลก ISO15189
"นอกจากนี้ ในงานประชุมดังกล่าวยังมอบรางวัลให้แก่ ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเวศ วะสี ปูชนียาจารย์ด้านโลหิตวิทยา ภาควิชาการอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช โดยเป็นรางวัลประเภทบุคคล ในฐานะผู้สร้างสรรค์ผลงานทางวิชาการและงานวิจัยอันเป็นประโยชน์ต่อวงการธาลัสซีเมียอย่างยาวนาน เนื่องจาก ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเวศ เป็นผู้ทำวิจัยถึงกลไกการเกิดโรคทางพันธุกรรม ที่ก่อให้เกิดโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ซึ่งนำไปสู่การป้องกันรักษา ผลงานวิจัยของท่านเป็นที่ยอมรับทั้งภายในและต่างประเทศ และยังได้รับเชิญไปบรรยายที่มหาวิทยาลยและสถาบันวิจัยหายแหงเกือบทุกทวีป ทั่วโลก และยังมีบทความวิชาการที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศมากกว่า 200 เรื่อง รวมทั้งการพัฒนาองค์ความรู้พื้นฐานด้านอณูพันธุศาสตร์ของอัลฟ่าและเบต้าธา ลัสซีเมีย และนำไปสู่การดูแลผู้ป่วยในทางคลินิก จึงนับมีคุณประโยชน์มากมาย" ศ.คลินิก นพ.อุดมกล่าว
รศ.นพ.วิปร วิประกษิต กรรมการอำนวยการศูนย์ธาลัสซีเมีย กล่าวว่า ปัจจุบันมีคนไทยเป็นพาหะประมาณร้อยละ 35 หรือประมาณ 18-20 ล้านคน ส่วนคนที่เป็นโรคมีประมาณร้อยละ 1 หรือประมาณ 7 แสนคน อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงประมาณ 4-5 หมื่นคน ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาตั้งแต่แรกเกิด ซึ่งที่ผ่านมาได้ตรวจคัดกรองไปแล้วกว่าแสนราย โดยให้การวินิจฉัยก่อนคลอด และตรวจวินิจฉัยในระดับอณูพันธุศาสตร์แก่คู่สมรสที่เป็นคู่เสี่ยงแล้วกว่า 2,500 คู่ สำหรับการรักษาโรคนี้ ขณะนี้มีการวิจัยพัฒนายีนบำบัด โดยใช้สเต็มเซลล์ในการรักษา แต่อยู่ระหว่างวิจัยโดยร่วมกับทีมวิจัยสหรัฐ โดยจะเริ่มทำในผู้ป่วยคนไทยคนแรกในเดือนมกราคมปี 2557 และคาดว่าการรักษานี้จะสำเร็จเป็นที่ยอมรับไม่เกิน 10 ปี
ขอบคุณ... http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1383552733&grpid=03&catid=03 (ขนาดไฟล์: 167)
(มติชนออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 5 พ.ย.56)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงข่าว "ครั้งแรกของโลกกับรางวัลศูนย์ธาลัสซีเมียและ ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเวศ วะสี" ว่า เมื่อวันที่ 19-20 ตุลาคมที่ผ่านมา ในฐานะตัวแทนโรงพยาบาลศิริราช ได้เดินทางไปร่วมงานประชุมวิชาการสมาพันธ์ธาลัสซีเมียโลก ที่กรุงอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยในงานได้มีการมอบโล่รางวัลที่เรียกว่า "รางวัลโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียนานาชาติ สุลต่าน บิน คาลิฟา" หรือรางวัล "SITA" ซึ่งจัดตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2556 โดยมูลนิธิเพื่อมนุษยธรรมและวิทยาศาสตร์ สุลต่าน บิน คาลิฟา อัล นายาน ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐที่ไม่แสวงหาผลกำไร ก่อตั้งขึ้นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ศ.คลินิก.นพ.อุดมกล่าวว่า ในงานดังกล่าวเป็นเรื่องน่ายินดีที่โรงพยาบาลศิริราชได้รับรางวัลครั้งนี้ ด้วย โดยแบ่งออกเป็น 2 รางวัลใหญ่ คือ รางวัล "สถาบันแห่งความเป็นเลิศด้านการดูแลผู้ป่วยธาลัสซีเมีย (Sultan Bin Khalifa International Award for Center of Excellence) โดยโรงพยาบาลศิริราชได้รับการคัดเลือกร่วมกับสถาบันทางการแพทย์ 300 แห่งจากทั่วโลก จึงนับเป็นเรื่องน่ายินดียิ่งที่ได้รับรางวัลดังกล่าว เนื่องจากศูนย์ธาลัสซีเมีย โรงพยาบาลศิริราช เป็นสถานที่ให้บริการการดูแลผู้ป่วยแบบครบวงจร ตั้งแต่การตรวจคัดกรองพาหะธาลัสซีเมียในประชากร การให้คำปรึกษาทางเวชพันธุศาสตร์ การวินิจฉัยก่อนคลอด รวมทั้งนวัตกรรมการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อหาภาวะเหล็กเกินในตับและหัวใจ รวมไปถึงการรักษาต่างๆ ทั้งให้ยาขับเหล็ก การปลูกถ่ายไขกระดูกและการทำยีนบำบัดในอนาคต ซึ่งการบริการดังกล่าวได้รับการรับรองคุณภาพจากองค์กรระดับโลก ISO15189 "นอกจากนี้ ในงานประชุมดังกล่าวยังมอบรางวัลให้แก่ ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเวศ วะสี ปูชนียาจารย์ด้านโลหิตวิทยา ภาควิชาการอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช โดยเป็นรางวัลประเภทบุคคล ในฐานะผู้สร้างสรรค์ผลงานทางวิชาการและงานวิจัยอันเป็นประโยชน์ต่อวงการธาลัสซีเมียอย่างยาวนาน เนื่องจาก ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเวศ เป็นผู้ทำวิจัยถึงกลไกการเกิดโรคทางพันธุกรรม ที่ก่อให้เกิดโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ซึ่งนำไปสู่การป้องกันรักษา ผลงานวิจัยของท่านเป็นที่ยอมรับทั้งภายในและต่างประเทศ และยังได้รับเชิญไปบรรยายที่มหาวิทยาลยและสถาบันวิจัยหายแหงเกือบทุกทวีป ทั่วโลก และยังมีบทความวิชาการที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศมากกว่า 200 เรื่อง รวมทั้งการพัฒนาองค์ความรู้พื้นฐานด้านอณูพันธุศาสตร์ของอัลฟ่าและเบต้าธา ลัสซีเมีย และนำไปสู่การดูแลผู้ป่วยในทางคลินิก จึงนับมีคุณประโยชน์มากมาย" ศ.คลินิก นพ.อุดมกล่าว รศ.นพ.วิปร วิประกษิต กรรมการอำนวยการศูนย์ธาลัสซีเมีย กล่าวว่า ปัจจุบันมีคนไทยเป็นพาหะประมาณร้อยละ 35 หรือประมาณ 18-20 ล้านคน ส่วนคนที่เป็นโรคมีประมาณร้อยละ 1 หรือประมาณ 7 แสนคน อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงประมาณ 4-5 หมื่นคน ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาตั้งแต่แรกเกิด ซึ่งที่ผ่านมาได้ตรวจคัดกรองไปแล้วกว่าแสนราย โดยให้การวินิจฉัยก่อนคลอด และตรวจวินิจฉัยในระดับอณูพันธุศาสตร์แก่คู่สมรสที่เป็นคู่เสี่ยงแล้วกว่า 2,500 คู่ สำหรับการรักษาโรคนี้ ขณะนี้มีการวิจัยพัฒนายีนบำบัด โดยใช้สเต็มเซลล์ในการรักษา แต่อยู่ระหว่างวิจัยโดยร่วมกับทีมวิจัยสหรัฐ โดยจะเริ่มทำในผู้ป่วยคนไทยคนแรกในเดือนมกราคมปี 2557 และคาดว่าการรักษานี้จะสำเร็จเป็นที่ยอมรับไม่เกิน 10 ปี ขอบคุณ... http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1383552733&grpid=03&catid=03 (มติชนออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 5 พ.ย.56)
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)