สคร. 12 สงขลา รณรงค์วันราชประชาสมาสัย 2567 ย้ำ โรคเรื้อนรักษาหาย รู้เร็วรักษาทัน ป้องกันความพิการได้
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) ร่วมรณรงค์สัปดาห์ราชประชาสมาสัย ระหว่างวันที่ 15-21 มกราคม 2567 ภายใต้แนวคิด “เร่งรัดกำจัดโรคเรื้อน มุ่งสู่การปลอดโรคเรื้อน ปี 2570” เน้นย้ำ “โรคเรื้อนรักษาหาย รู้เร็วรักษาทัน ป้องกันความพิการได้”
นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวว่า สถานการณ์โรคเรื้อนในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลง โดยในปี พ.ศ. 2565 มีผู้ป่วยในทะเบียนรักษาทั้งประเทศ 186 ราย พบผู้ป่วยรายใหม่ 73 ราย สำหรับเขตสุขภาพที่ 12 (ข้อมูล ณ 15 ธันวาคม 2566) มีผู้ป่วยในทะเบียนรักษา 50 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 26 ราย และพบผู้ป่วยพิการที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า 6 ราย ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่อยู่ใน จังหวัดนราธิวาส 6 ราย (พิการ 2 ราย), ปัตตานี 13 ราย (พิการ 3 ราย), สงขลา 3 ราย, สตูล 2 ราย (พิการ 1 ราย) และพบในแรงงานต่างด้าวพื้นที่จังหวัดพัทลุง 1 ราย และจังหวัดยะลา 1 ราย
วันที่ 16 มกราคม ของทุกปี เป็น“วันราชประชาสมาสัย” สคร.12 สงขลา ร่วมรณรงค์สัปดาห์ราชประชาสมาสัย 2567 ภายใต้แนวคิด “โรคเรื้อนรักษาหาย รู้เร็วรักษาทัน ป้องกันความพิการได้” เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และสืบสานพระราชปณิธานการกำจัดโรคเรื้อนของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนมีความเข้าใจที่ถูกต้อง ร่วมกันค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ เพื่อได้รับการรักษารวดเร็ว ลดการเกิดความพิการ และเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาต่อเนื่อง และส่งเสริมให้ผู้ป่วยโรคเรื้อนดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ
โรคเรื้อน เป็นโรคติดต่อเรื้อรังเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Mycobacterium leprae ติดต่อได้ทางเดินหายใจ โดยการไอหรือจามใส่กัน เชื้อนี้จะทำลายเส้นประสาทส่วนปลาย อาการที่สำคัญ คือ ผื่นผิวหนังเป็นวงด่างสีจางหรือแดงกว่าผิวหนังปกติ บริเวณรอยโรคแห้ง เหงื่อไม่ออก อาจพบขนร่วง รอยโรคจะมีอาการชา หรือเป็นตุ่มนูนแดง ตุ่มแดงไม่คัน จะเป็นเรื้อรังนานมากกว่า 3 เดือน หากใช้ยากินหรือยาทาทั่วไปที่ไม่ใช่ยารักษาโรคเรื้อน แล้วไม่ทุเลาเนื่องจากอาการเริ่มแรกของโรคนั้นไม่มีอาการคันหรือเจ็บปวด จะทำให้ผู้ป่วยชะล่าใจ คิดว่าไม่ใช่โรคร้ายแรง จึงไม่รีบรักษาที่ถูกต้อง ทำให้โรคลุกลามเป็นมากขึ้น เกิดภาวะแทรกซ้อนส่งผลให้เกิดความพิการบริเวณ ตา ใบหน้า มือ และเท้าได้
นายแพทย์เฉลิมพล กล่าวถึง กิจกรรมรณรงค์สัปดาห์ราชประชาสมาสัย 2567 ว่า สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา โดยสำนักงานโครงการงานควบคุมปราบปรามโรคติดต่อและการสาธารณสุข ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนราธิวาส ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส องค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ โรงเรียนนราสิกขาลัย และโรงพยาบาลโรคผิวหนังเขตร้อนภาคใต้จังหวัดตรัง จัดกิจกรรมรณรงค์สัปดาห์ราชประชาสมาสัย ขึ้นในวันที่ 16 มกราคม 2567 เวลา 08.30 – 14.30 น. ณ หอประชุมร่มไทร โรงเรียนนราสิกขาลัย อำเภอเมืองนราธิวาส โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสเป็นประธาน มีการให้บริการตรวจโรคผิวหนังและโรคเรื้อน รวมถึงกิจกรรมให้ความรู้ โดยแพทย์เฉพาะทาง สำหรับในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 12 จัดกิจกรรม ระหว่างวันที่ 15 – 21 มกราคม 2567 เน้นการค้นหาผู้ป่วยในอำเภอที่มีข้อบ่งชี้ทางระบาดวิทยา โดย อสม. คัดกรองผู้มีอาการสงสัยโรคเรื้อนเพื่อส่งต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุข มีกิจกรรมให้ความรู้เรื่องโรคเรื้อน แจกแผ่นผับโรคเรื้อน แผ่นพับรอยโรค พร้อมตั้งจุดบริการตรวจคัดกรองโรคผิวหนังแก่ประชาชน ผู้มีอาการสงสัยโรคเรื้อนจะได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาฟรี ณ โรงพยาบาลทุกแห่ง
เน้นย้ำ หากมีอาการ “ผิวหนังเป็นวงด่างสีขาว สีซีดจางหรือแดงกว่าผิวหนังปกติ มีอาการชา หรือผื่นนูนแดง ตุ่มแดง ไม่คัน รีบพบแพทย์ รักษาหายได้ ไม่พิการ” หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคเรื้อน สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422
ขอบคุณ... https://www.thaipr.net/health/3431071