กลเม็ดพ่อค้าม็อบงัดที่อุดหูสู้นกหวีด เตือนระวังหูดับอยู่ในดงนกหวีด
กรุงเทพฯ * แพทย์เตือนชุมนุมนานท่ามกลางเสียงนกหวีดเสี่ยงหูดับ ระบุเสียงในม็อบดังประมาณ 100 เดซิเบล ซึ่งเทียบเท่ากับในสถานบันเทิง แนะหาซื้อที่อุดหูไว้กรองเสียง
การชุมนุมที่ใช้นกหวีดเป็นสัญลักษณ์และอุปกรณ์แสดงพลัง เพื่อเรียกร้องความถูกต้องของประชาชนที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขณะนี้ ทำให้หลายคนเมื่อเดินออกมาจากบริเวณดังกล่าวอาจรู้สึกว่าตัวเองหูอื้อหรือหู ดับชั่วคราว ซึ่งเรื่องนี้ยืนยันได้จากการที่มีร้านขายที่อุดหู หรือเอียร์ปลั๊ก ผุดขึ้นมากมายในบริเวณที่ชุมนุม โดยเฉพาะการชุมนุมใหญ่เมื่อคืนวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่าขายดิบขายดีกันไปตามๆ ตั้งแต่ชุดละ 20 บาทไปจนถึง 35 บาท แล้วแต่คุณภาพ ทั้งนี้ เพราะเพียงอยู่ชายขอบของเวทีชุมนุมก็จะได้ยินเสียงนกหวีดดังระงม ขณะที่ยิ่งเข้าด้านในมากเท่าไหร่ เสียงนกหวีดก็ยิ่งดังมากขึ้นเท่านั้น
ต่อเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน นพ.อิสรพงศ์ ทรัพย์ชวโรจน์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโสต ศอ นาสิก โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ได้ออกมาเตือนผู้ชุมนุมให้ระวังการอยู่ในที่มีเสียงดังเกินมาตรฐานเป็นเวลา นานว่า ปกติแล้วหูของคนเราไม่ควรได้รับเสียงที่ดังเกินไปติดต่อกันเป็นเวลานานอยู่ แล้ว ซึ่งตัวเลขเฉลี่ยทั่วไปคือ สถานที่ที่มีเสียงดังราว 115 เดซิเบล คนเราไม่ควรอยู่นานเกิน 15 นาที สถานที่มีเสียงดังราว 110 เดซิเบล ไม่ควรอยู่นานเกิน 30 นาที และสถานที่มีเสียงดังราว 105 เดซิเบล ไม่ควรอยู่นานเกิน 1 ชั่วโมง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การแสดงออกทางการเมืองเพื่อต่อต้านระบอบทักษิณที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน มีการใช้เสียงนกหวีดเป็นสัญลักษณ์ซึ่งมีการเป่าพร้อมกันหลายตัว ทำให้อาจมีเสียงที่ดังเกินกว่าหูคนเราจะรับได้ ก็อาจเกิดอาการหูดับได้
นพ.อิสรพงศ์กล่าวว่า เสียงนกหวีดในที่ชุมนุมในขณะนี้ยังไม่สามารถวัดได้เป็นตัวเลขที่แน่นอน เนื่องจากในแต่ละวันมีผู้ชุมนุมมากน้อยไม่เท่ากัน รวมถึงการเป่าก็มีจังหวะหยุดบ่อยครั้ง จึงไม่สามารถวัดได้แน่นอน แต่คาดว่าเสียงนกหวีดน่าจะมีเสียงดังที่ประมาณ 100 เดซิเบลขึ้นไป ซึ่งเป็นระดับเสียงใกล้เคียงกับสถานบันเทิง ถือว่าเสี่ยงต่อสุขภาพหูคนเรามาก อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงที่ดังเกินไปนั้นแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ 1)การเกิดแบบสะสม ซึ่งเป็นการได้ยินเสียงที่ดังติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้เสี่ยงเป็นโรคหูหนวกและหูตึงในอนาคตได้ ซึ่งจะเกิดกับอาชีพที่อยู่กับเสียงดังเป็นเวลานาน เช่น ตำรวจจราจร ยาม พนักงานโรงงาน ฯลฯ และ 2)การเกิดแบบทันทีทันใด คือการได้ยินเสียงดังเกินค่ามาตรฐานนานในห้วงเวลาหนึ่งอาจทำให้เกิดอาการหู ดับได้ เช่น ในที่ชุมนุม ในเรือด่วนโดยสาร สถานบันเทิง และการใช้หูฟังของวัยรุ่นปัจจุบัน เป็นต้น แต่ใช้เวลาไม่นานก็จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
"วิธีป้องกันสำหรับผู้ที่จะร่วมชุมนุมที่ดีที่สุดก็คือ ควรหาอุปกรณ์กรองเสียง หรือเอียร์ปลั๊ก ที่ทำด้วยยางหรือซิลิโคน ใช้ลดความดังของเสียงที่เกิดขึ้นจากลำโพงปราศรัยที่มีความดังค่อนข้างมากได้ โดยเมื่อสวมเอียร์ปลั๊กเรายังคงได้ยินข้อความที่แกนนำปราศรัยอย่างชัดเจน ซึ่งก็เพียงพอแล้วต่อการทำความเข้าใจ" แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโสต ศอ นาสิก กล่าว.
ขอบคุณ… http://www.ryt9.com/s/tpd/1785282
( ไทยโพสต์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 26 พ.ย.56 )
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
กรุงเทพฯ * แพทย์เตือนชุมนุมนานท่ามกลางเสียงนกหวีดเสี่ยงหูดับ ระบุเสียงในม็อบดังประมาณ 100 เดซิเบล ซึ่งเทียบเท่ากับในสถานบันเทิง แนะหาซื้อที่อุดหูไว้กรองเสียง การชุมนุมที่ใช้นกหวีดเป็นสัญลักษณ์และอุปกรณ์แสดงพลัง เพื่อเรียกร้องความถูกต้องของประชาชนที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขณะนี้ ทำให้หลายคนเมื่อเดินออกมาจากบริเวณดังกล่าวอาจรู้สึกว่าตัวเองหูอื้อหรือหู ดับชั่วคราว ซึ่งเรื่องนี้ยืนยันได้จากการที่มีร้านขายที่อุดหู หรือเอียร์ปลั๊ก ผุดขึ้นมากมายในบริเวณที่ชุมนุม โดยเฉพาะการชุมนุมใหญ่เมื่อคืนวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่าขายดิบขายดีกันไปตามๆ ตั้งแต่ชุดละ 20 บาทไปจนถึง 35 บาท แล้วแต่คุณภาพ ทั้งนี้ เพราะเพียงอยู่ชายขอบของเวทีชุมนุมก็จะได้ยินเสียงนกหวีดดังระงม ขณะที่ยิ่งเข้าด้านในมากเท่าไหร่ เสียงนกหวีดก็ยิ่งดังมากขึ้นเท่านั้น ต่อเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน นพ.อิสรพงศ์ ทรัพย์ชวโรจน์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโสต ศอ นาสิก โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ได้ออกมาเตือนผู้ชุมนุมให้ระวังการอยู่ในที่มีเสียงดังเกินมาตรฐานเป็นเวลา นานว่า ปกติแล้วหูของคนเราไม่ควรได้รับเสียงที่ดังเกินไปติดต่อกันเป็นเวลานานอยู่ แล้ว ซึ่งตัวเลขเฉลี่ยทั่วไปคือ สถานที่ที่มีเสียงดังราว 115 เดซิเบล คนเราไม่ควรอยู่นานเกิน 15 นาที สถานที่มีเสียงดังราว 110 เดซิเบล ไม่ควรอยู่นานเกิน 30 นาที และสถานที่มีเสียงดังราว 105 เดซิเบล ไม่ควรอยู่นานเกิน 1 ชั่วโมง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การแสดงออกทางการเมืองเพื่อต่อต้านระบอบทักษิณที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน มีการใช้เสียงนกหวีดเป็นสัญลักษณ์ซึ่งมีการเป่าพร้อมกันหลายตัว ทำให้อาจมีเสียงที่ดังเกินกว่าหูคนเราจะรับได้ ก็อาจเกิดอาการหูดับได้ นพ.อิสรพงศ์กล่าวว่า เสียงนกหวีดในที่ชุมนุมในขณะนี้ยังไม่สามารถวัดได้เป็นตัวเลขที่แน่นอน เนื่องจากในแต่ละวันมีผู้ชุมนุมมากน้อยไม่เท่ากัน รวมถึงการเป่าก็มีจังหวะหยุดบ่อยครั้ง จึงไม่สามารถวัดได้แน่นอน แต่คาดว่าเสียงนกหวีดน่าจะมีเสียงดังที่ประมาณ 100 เดซิเบลขึ้นไป ซึ่งเป็นระดับเสียงใกล้เคียงกับสถานบันเทิง ถือว่าเสี่ยงต่อสุขภาพหูคนเรามาก อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงที่ดังเกินไปนั้นแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ 1)การเกิดแบบสะสม ซึ่งเป็นการได้ยินเสียงที่ดังติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้เสี่ยงเป็นโรคหูหนวกและหูตึงในอนาคตได้ ซึ่งจะเกิดกับอาชีพที่อยู่กับเสียงดังเป็นเวลานาน เช่น ตำรวจจราจร ยาม พนักงานโรงงาน ฯลฯ และ 2)การเกิดแบบทันทีทันใด คือการได้ยินเสียงดังเกินค่ามาตรฐานนานในห้วงเวลาหนึ่งอาจทำให้เกิดอาการหู ดับได้ เช่น ในที่ชุมนุม ในเรือด่วนโดยสาร สถานบันเทิง และการใช้หูฟังของวัยรุ่นปัจจุบัน เป็นต้น แต่ใช้เวลาไม่นานก็จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ "วิธีป้องกันสำหรับผู้ที่จะร่วมชุมนุมที่ดีที่สุดก็คือ ควรหาอุปกรณ์กรองเสียง หรือเอียร์ปลั๊ก ที่ทำด้วยยางหรือซิลิโคน ใช้ลดความดังของเสียงที่เกิดขึ้นจากลำโพงปราศรัยที่มีความดังค่อนข้างมากได้ โดยเมื่อสวมเอียร์ปลั๊กเรายังคงได้ยินข้อความที่แกนนำปราศรัยอย่างชัดเจน ซึ่งก็เพียงพอแล้วต่อการทำความเข้าใจ" แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโสต ศอ นาสิก กล่าว. ขอบคุณ… http://www.ryt9.com/s/tpd/1785282 ( ไทยโพสต์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 26 พ.ย.56 )
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)