ยายวอนช่วยเหลือ ไปถอนเบี้ยคนชรา-คนพิการของสามีป่วยพิการติดเตียง ธนาคารยันต้องนำตัวมายืนยันตัวตน

ยายวอนช่วยเหลือ ไปถอนเบี้ยคนชรา-คนพิการของสามีป่วยพิการติดเตียง ธนาคารยันต้องนำตัวมายืนยันตัวตน

จนปัญญา ยายวอนช่วยเหลือ ตาวัย 86 ปีป่วยพิการติดเตียง มีเบี้ยคนชรา-คนพิการในธนาคารหลักหมื่น ยายไปขอถอนมาใช้จ่าย ธนาคารยันต้องนำตัวมายืนยันตัวตน ด้านเทศบาลฯ จ่อประสานธนาคารอำนวยความสะดวก

วันนี้ (28 ก.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางแดง ทองจันทร์ อายุ 65 ปี เข้าร้องสื่อมวลชนว่า นายสมศักดิ์ โมหะพันธ์ อายุ 86 ปี สามีที่ป่วยอัมพฤกษ์ติดเตียง มีความจำเป็นต้องเบิกเงินเบี้ยผู้สูง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดูแลสามี แต่สามีเดินทางไปเบิกเงินที่ธนาคารไม่ได้ โดยธนาคารยืนยันต้องพาสามีไปเบิกเงินด้วยตนเองเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบกับ นางแดง ที่บ้านพักในอำเภอพระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งสภาพบ้านเป็นบ้านไม้ ยกใต้ถุนสูง หลังคาสังกะสี นางแดง กำลังดูแลสามีที่นอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียง

นางแดง เปิดเผยว่า ตนและสามีอยู่กินกันมาร่วม 30 ปี ไม่มีลูก แต่ก่อนสามีเคยทำงานเป็น รปภ. จนกระทั่งเมื่อประมาณ 6 ปีก่อน สามีประสบอุบัติเหตุล้มกระแทกกับพื้น จนร่างกายซีกซ้ายไม่มีแรงเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงครอบครัวได้ ส่วนตนเองมีโรคประจำตัวหลายโรค ต้องรักษาตัวและคอยดูแลสามีด้วย ยังโชคดีมีญาติพี่น้องลูกหลานที่ ช่วยเหลือนำข้าวสารอาหารแห้ง พร้อมเงินเล็กน้อยคอยมาช่วยเหลือ รวมทั้งได้รับเบี้ยผู้สูงอายุและเบี้ยคนพิการ รวมเดือนละ 1,400 บาท ช่วงแรกๆ มีคนที่รู้จักกันเป็นเจ้าหน้าที่ของอบต. รับมอบอำนาจไปช่วยเบิกเงินเบี้ยผู้สูงอายุและเบี้ยคนพิการของสามีให้ แต่ระยะหลังสามีไม่ได้เบิกเงินออกมาหลายปีมาก ตนจึงได้ไปติดต่อธนาคาร เพื่อขอดูบัญชีของสามี และพบว่ามีเงินอยู่ในบัญชีเกือบ 40,000 บาท ตนจึงอยากขอเบิกเงิน เพื่อนำมาใช้จ่าย แต่ธนาคารแจ้งว่าต้องนำตัวสามีมาธนาคารด้วยตนเอง

ตนเข้าใจหลักการของธนาคาร และก็แจ้งให้เจ้าหน้าที่ธนาคารทราบว่าสามีของตนเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่สามารถเดินทางมาธนาคารได้ จากนั้นได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่าสามารถออกมาทำเรื่องเบิกเงินให้สามีได้หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าไม่ได้ต้องมายืนยันตัวตนและสแกนใบหน้าด้วยตัวเอง ตนจึงให้ประธานชุมชนช่วยมายืนยันและรับรองว่า สามีนั้นป่วยติดเตียงจริง แต่ทางเจ้าหน้าที่ของธนาคารก็ยืนยันว่าจะต้องนำตัวสามีที่ป่วยติดเตียงมาที่ธนาคารเท่านั้น และต้องไปลงบันทึกประจำวันที่โรงพักอีกด้วย จึงเกิดความเครียดมาก สามีก็ป่วยเดินทางไปไหนมาไหนไม่ได้แล้วจะต้องทำอย่างไร อยากวิงวอนทางเจ้าหน้าที่ธนาคารช่วยอำนวยความสะดวก ออกมาเปิดสมุดธนาคาร เพื่อสแกนใบหน้าและพิมพ์ลายนิ้วมือ สามีของตนที่บ้านได้หรือไม่

ทั้งนี้ นางแดง ยังบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนพร้อมจะดูแลสามีที่ป่วยติดเตียงไปตลอด จนกว่าตัวเองจะหมดลมหายใจ เพราะตนกับสามีคือคู่รักแท้ที่เกิดมาคู่กัน

ต่อมาพันจ่าอากาศเอกสุวัฒน์ สรรพโกศลกุล รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนคร พระนครศรีอยุธยา ทราบข่าวได้เดินทางมาพบกับครอบครัวคุณตาคุณยายที่บ้าน พร้อมรับปากว่าจะติดต่อประสานกับทางธนาคารอำนวยความสะดวกเรื่องการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการของคุณตา สามารถทำที่บ้านได้หรือไม่ แต่ถ้าธนาคารยังยืนยันต้องให้คุณตาไปที่ธนาคารเองทาง ตนก็จะนำ รถพยาบาลฉุกเฉินของทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา มารับตัวคุณตาไปที่ธนาคารเพื่อยืนยันตัวตนและไม่ให้เป็นภาระ ของคุณยาย ส่วนเรื่องสวัสดิการด้านอื่น เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาลงมาดูแลครอบครัวของคุณตาและคุณยายอยากสม่ำเสมอ เพราะครอบครัวนี้อยู่เพียงกันแค่สองตายายเท่านั้น

ขอบคุณ... https://news.ch7.com/detail/674385

ที่มา: news.ch7.com/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 28 ก.ย. 66
วันที่โพสต์: 28/09/2566 เวลา 10:29:02 ดูภาพสไลด์โชว์ ยายวอนช่วยเหลือ ไปถอนเบี้ยคนชรา-คนพิการของสามีป่วยพิการติดเตียง ธนาคารยันต้องนำตัวมายืนยันตัวตน