ชนเผ่ามานิสตูลปลื้มโครงการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้ชีวิตมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
วันที่ 10 มีนาคม 2564 นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นายธานี หะยีมะสาและ นายอำเภอละงู และผู้เกี่ยวข้อง ตรวจติดตามความเป็นอยู่ของชนเผ่ามันนิ ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด บ้านวังนาใน ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล พร้อมทั้งติดตามความก้าวหน้าโครงการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของชาวมานิ
ซึ่งส่วนราชการในพื้นที่ได้ร่วมกันสนับสนุนโครงการ เพื่อให้ชาวมานิได้มีความรู้ มีทักษะ ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม เช่น การเลี้ยงปลาดุกในบ่อดินซึ่งดัดแปลงมาจากลำธารธรรมชาติ การเพาะเห็ดนางฟ้าในโรงเรือนขนาดเล็ก และการปลูกผักสวนครัวไว้บริโภคและสร้างรายได้ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชนเผ่ามันนิให้ดียิ่งขึ้น หลังจากของกินในป่าขาดแคลน มีความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก
นายไข่ ศรีมะนัง และนายแอ๊ด ศรีมะนัง กล่าวว่า หลังจากได้เรียนรู้และนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ตั้งแต่ต้นปี 2564 ที่ผ่านมา ทำให้ทุกวันนี้คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวมานิดีขึ้นมาก เพราะเมื่อก่อนไม่มีความรู้ หลังจากเจ้าหน้าที่มาแนะนำมาช่วยวางแผนและทดลองทำก็เกิดความเข้าใจจนสามารถทำได้ รู้สึกดีใจภูมิใจที่ได้เดินตามรอยพ่อหลวง ทำให้มีพืชผักปลาและอาหารกินตลอด ไม่ขัดสนเหมือนเมื่อก่อน โดยผลผลิตบางส่วนก็นำไปจำหน่ายให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อนำเงินมาเป็นทุนหมุนเวียนต่อไป
นายคะนึง จันทร์แดง ผู้ดูแลกลุ่มชาวมันนิบ้านวังนาใน กล่าวว่า วิถีชีวิตดั้งเดิมจะเร่ร่อน ไปตามเขตเทือกเขาบรรทัด และไม่มีอาชีพ ประกอบกับความเจริญของบ้านเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป ถ้าออกมาใช้ชีวิตข้างนอกก็จะไม่พอกิน ซึ่งทั้งภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้ส่งเสริมสนับสนุนโครงการเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้ปัจจุบันชาวมานิก็มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทุกวันนี้ชนเผ่ามันนิสามารถปลูกพืชและเลี้ยงปลาได้ด้วยตัวเอง ซึ่งประชาชนหรือนักท่องเที่ยวที่จะมาเยี่ยมชาวมานิ สามารถสนับสนุนพันธุ์พืชผักหรือไม้ผลโตเร็วได้ เพื่อส่งเสริมให้เขามีอาชีพมีรายได้อย่างยั่งยืนต่อไป
ด้านนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า ชาวมานิบ้านวังนาใน อ.ละงู ทุกคนจะมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านและบัตรประชาชน ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับกลุ่มชาติพันธุ์ทุกชาติพันธุ์ในประเทศ ให้อยู่ร่วมกันในสังคมไทยได้อย่างปกติสุข ซึ่งภาครัฐได้มีการดูแลทุกๆเรื่องทั้งในด้านการศึกษา การประกอบอาชีพ สาธารณสุข และด้านสวัสดิการต่างๆ สำหรับชาวมานิ บ้านวังนาใน ต.น้ำผุด อ.ละงู นั้น ปัจจุบันมีจำนวน 14 ครอบครัว รวม 81 คน ทุกคนมีชื่อในทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งภาครัฐและภาคส่วนต่าง ๆ ก็ได้ช่วยกันดูแลอย่างต่อเนื่อง การมาเยี่ยมในวันนี้ก็มาดูว่ามีประเด็นปัญหาอะไรที่ภาครัฐสามารถเสริมได้บ้าง เท่าที่พบขณะนี้คือเรื่องของสวัสดิการของรัฐ เช่นสวัสดิการเด็กแรกเกิด สวัสดิการคนพิการและคนชรา รวมทั้งเรื่องของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
นอกจากนี้ชาวมานิได้ร้องขอให้ดูแลเรื่องของสถานที่อยู่อาศัยซึ่งมีพื้นที่คับแคบ การปรับปรุงถนนเส้นทางเข้าพื้นที่ และการทำหมันสุนัขที่อาจจะสร้างปัญหาหรือสร้างความรำคาญได้ ซึ่งทางจังหวัดก็จะต้องดูแลชาวมานิ และพื้นที่ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าให้มีความสมบูรณ์คงอยู่ต่อไปด้วย
ขอบคุณ... https://bit.ly/3qB2KUS (ขนาดไฟล์: 149)
ที่มา: thainews.prd.go.th/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 10 มี.ค.64
วันที่โพสต์: 11/03/2564 เวลา 09:43:07 
