"น้องบีม" สู้ 15 ปี ยึดทรัพย์ 18 ล้อ ผ่อนจ่าย 5 ล้าน

ต่อสู้มานาน 15 ปี คดี “น้องบีม” อดีตดาราเด็กที่ถูกรถ 18 ล้อ ชนจนพิการตั้งแต่ปี 2548 ต้องนั่งรถวีลแชร์ไปตลอดชีวิตจบบริบูรณ์ หลังเนติบัณฑิตยสภาเข้าช่วยเหลือเรียกร้องเงินค่าเสียหาย 5 ล้านบาท จนชนะคดี ล่าสุดจับมือกรมบังคับคดีบุกยึดทรัพย์บริษัทเจ้าของรถ 18 ล้อ แต่เจรจาได้ข้อยุติ ยอมจ่ายเช็คค่าเสียหายเป็นงวดๆให้ครบตามคำพิพากษา

น้องบีมได้เงินค่าเสียหายหลังต่อสู้คดีมานาน เปิดเผยขึ้นที่เนติบัณฑิตยสภา เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ต.ค. ว่าที่ พ.ต.สมบัติ วงศ์กำแหง รักษาการกรรมการฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายเนติบัณฑิตยสภาเผยว่า ตามที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาเมื่อเดือน ก.ค.63 คดีนางพรทิพย์ จันทรัตน์ อายุ 47 ปี และ น.ส.ภัทรดา แก้วผ่อง หรือน้องบีม อายุ 17 ปี อดีตดาราเด็กโฆษณาบริษัทประกันชีวิตกับพวก เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท ณนนท์ จำกัด กับพวก เป็นจำเลยฐานละเมิด กรณีรถบรรทุก 18 ล้อ ของบริษัท ก่อเหตุละเมิดชนกับรถของฝ่ายโจทก์เมื่อปี 2548 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ทำให้ น.ส.ภัทรดา หรือน้องบีม ได้รับบาดเจ็บต้องพิการนั่งรถวีลแชร์มานาน 15 ปี ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 5 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย และศาลฎีกามีคำพิพากษาเป็นที่สุดให้ออกหมายบังคับคดีตามศาลล่างทั้งสอง

“ดังนั้นสำนักงานช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายเนติบัณฑิตยสภา ให้ทนายความออกสืบทรัพย์และมอบให้นายทินกร สุรบัณฑิตย์ นายณรงค์ หนูเจริญ นำยึดทรัพย์บังคับคดีตามคำพิพากษา โดยมี นางพรทิพย์ และ น.ส.ภัทรดา เดินทางพร้อมเจ้าพนักงาน บังคับคดีไปยึดทรัพย์ของบริษัทจำเลยในวันที่ 30 ก.ย. ตั้งแต่เช้าจนเย็นที่เขตลาดกระบัง ปรากฏว่าผู้แทนบริษัทจำเลยมาพบฝ่ายโจทก์และทนายความ ขอเจรจา ในชั้นบังคับคดี ตกลงยินยอมชำระค่าเสียหายตาม คำพิพากษา” ว่าที่ พ.ต.สมบัติกล่าว

ว่าที่ พ.ต.สมบัติกล่าวต่อว่า เรื่องจำนวนเม็ดเงิน จำเลยขอหักส่วนที่โจทก์เคยรับจากทนายความมาบางส่วนก่อนถูกโกงแล้ว คงเหลือเงินคงค้างจ่ายแก่โจทก์สุทธิ 3,815,985 บาท วันนี้บริษัทสั่งจ่ายเช็ค 4 ฉบับ เพื่อชำระให้แก่น้องบีมก่อน ฉบับแรกจำนวน 3 แสนบาท ลงวันที่ 31 ต.ค.63 อีก 3 ฉบับ ฉบับละ 2 แสนบาท สั่งจ่ายปลายเดือน พ.ย. ธ.ค.63 และ ม.ค.64 ตามลำดับ ส่วนที่เหลือจะสั่งจ่ายเช็คให้ภายหลัง ทนายความตรวจสอบความน่าเชื่อถือและถามความสมัครใจของโจทก์แล้ว ฝ่ายนางพรทิพย์และ น.ส.ภัทรดาตกลงยินยอมตามที่ขอแล้วลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน มีทนายความทั้ง 2 ฝ่ายลงชื่อเป็นพยานต่อหน้าเจ้าพนักงานบังคับคดี กรมบังคับคดีกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากมีการเจรจากัน โจทก์จึงของดการยึดทรัพย์จำเลยไว้ชั่วคราว จากนั้นจะรายงานกรมบังคับคดีหากมีการผิดเงื่อนไขจะดำเนินการยึดทรัพย์ต่อไป

ว่าที่ พ.ต.สมบัติ กล่าวด้วยว่า คดีนี้เป็นอันเสร็จสิ้นสมบูรณ์ปิดคดี ท่ามกลางความพอใจของทุกฝ่าย ในการทำหน้าที่ทนายความเนติบัณฑิตยสภา ตนในฐานะกรรมการบริหารเนติฯฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ปัจจุบันรักษาการในตำแหน่งและกำลังจะพ้นตำแหน่ง ต้องขอชื่นชมคณะทนายความที่ช่วยเหลือครอบครัวของน้องบีมมาจนเห็นผลงานอย่างเป็นรูปธรรม เป็นการคืนความเป็นธรรมให้ครอบครัวน้องบีม แสดงให้เห็นว่าทนายความที่ดีและมีคุณธรรมยังมีอยู่อีกมาก พร้อมอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนตลอดไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ในชั้นบังคับคดีจำเลยในคดีแพ่งทุกคดี สามารถขอเจรจาทางเลือกหาทาง ออกที่ดีที่สุด ในการชำระเงินได้ เช่น ขอลดต้นหรือลดดอกเบี้ย หรือแบ่งชำระเป็นงวดๆในจำนวนคงที่ การรีบปิดวงเงิน และลงบันทึกข้อตกลงความสมัครใจทั้ง 2 ฝ่ายไว้จะเป็นการหยุดภาระดอกเบี้ยที่ดีวิธีหนึ่ง

ขอบคุณ... https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1943045

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 2 ต.ค.63
วันที่โพสต์: 2/10/2563 เวลา 10:22:46