จำนองบ้านหาเงินเป็นค่ายา รักษาลูกพิการ-เมียปอดรั่ว

จำนองบ้านหาเงินเป็นค่ายา รักษาลูกพิการ-เมียปอดรั่ว

สัปดาห์นี้วอนช่วยครอบครัวหนุ่มใจสู้กำลังตกทุกข์ได้ยาก ลูกสาววัย 6 ขวบป่วยพิการทางสมอง ซ้ำภรรยาป่วยปอดรั่ว ภาระและหน้าที่อันยิ่งใหญ่ จึงตกอยู่ที่สามีต้องทำงานหาเงินเพียงลำพัง สุดท้ายจำใจนำบ้านไปจำนองจนกลายเป็นหนี้

เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบ จึงได้พบกับความจริงที่ชายผู้นี้ต้องแบกรับทั้งหมด ในทุก ๆ เดือนเขาจะต้องทำงานเพื่อหาเงินมารักษาลูกสาวป่วยพิการทางสมอง ส่วนภรรยาก็ทำงานหนักไม่ได้ เพราะป่วยปอดรั่วและเพิ่งจะได้รับการผ่าตัด จึงทำให้มีเพียงเขาผู้เดียวที่จะต้องขยันและเพียรพยายามหาเงินให้ได้มากที่สุด

ด้วยเหตุนี้รายได้ที่เข้ามาจากน้ำพักน้ำแรงของเขา ไม่เพียงพอต่อการจุนเจือครอบครัว และการรักษาอาการของลูกสาวและภรรยา เขาจึงตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่อยากทำมากนัก คือ การนำบ้านที่อาศัยไปจำนอง เพื่อหาเงินมารักษาภรรยาและลูก จนกลายเป็นหนี้สิน เพราะชักหน้าไม่ถึงหลัง บ้านชั้นเดียว หน้าบ้านอดีตเคยค้าขายเปิดเป็นเพิงขายส้มตำ ภายในบ้านพบ นายศรชัย วงศ์กระโซ่ อายุ 36 ปี และ น.ส.กัลยา หมวกเพ็ชร อายุ 41 ปี สองสามีภรรยาที่กำลังเช็ดตัวให้กับลูกสาว ด.ญ.วิรามร วงศ์กระโซ่ หรือ “น้องมุกดา” อายุ 6 ขวบ ที่ป่วยพิการทางการเห็น และพิการทางสติปัญหา

สำหรับอาการของ น้องมุกดา เธอไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้แม้แต่น้อย รวมทั้งร่างกายตั้งแต่ช่วงเอวลงไปก็ไม่สามารถใช้การได้ สังเกตว่าเธอจะต้องใช้เฟือกดัดขาให้ตรงตามที่แพทย์แนะนำ เนื่องจากขามักจะมีการอาการเกร็ง

น.ส.กัลยา ผู้เป็นแม่ บอกว่า ขณะที่ตนตั้งครรภ์ไม่มีสิ่งใดที่บ่งบอกถึงความผิดปกติแม้แต่น้อย กระทั่งคลอดจวบจนลูกสาวอายุ 4 เดือน วันหนึ่งผิดสังเกตตัวร้อนมาก ไข้ขึ้นสูง ตนและสามีจึงรีบพาลูกไปโรงพยาบาล แพทย์ทำการรักษาและให้กลับบ้านได้ แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านลูกสาวกลับตัวร้อนกว่าเดิม และขณะที่กำลังช่วยกันเช็ดตัว จู่ ๆ ลูกสาวก็มีอาการชัก เกร็ง และกระตุกตลอดเวลา ด้วยความเป็นห่วงเห็นลูกทรมาน รีบนำตัวลูกส่งโรงพยาบาล ก่อนจะพบว่าตามเนื้อตัวลูกสาวมีอาการตัวเขียวซีดแล้ว แพทย์จึงเร่งให้ความช่วยเหลือ จนสามารถรอดชีวิตมาได้

แพทย์วินิจฉัยจึงพบว่าเด็กเป็นต้อกระจกทั้งสองข้าง รวมทั้งมีอาการเกร็งตั้งแต่ช่วงเอวลงมา เงินทองที่พอมีอยู่ หัวอกคนเป็นพ่อและแม่ก็ต้องนำมาขายเป็นเงิน เพื่อใช้เป็นค่ารักษาลูกจนหมด ซ้ำร้ายน.ส.กัลยา ต้องมาพบว่าตัวเองล้มป่วยจนเข้าผ่าตัดจากอาการปอดรั่ว

จากที่เคยค้าขายได้ก็ต้องหยุด เพราะน.ส.กัลยา มักจะเหนื่อยง่าย และต้องมีเวลาดูแลลูกสาวที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อีกด้วย ทำให้ปัจจุบันจึงมีเพียง นายศรชัย ที่ต้องทำงานรับจ้างหาเงินเพียงลำพัง ซึ่งความรู้สึกที่เขาไม่เคยแสดงให้ภรรยาได้เห็นคือความอ่อนแอ “…ผมสงสารลูกและแฟน” จนกระทั่งทุกวันนี้ชักหน้าไม่ถึงหลังกลายเป็นหนี้

ทั้งนี้ยังต้องพบเจอเหตุการณ์ร้าย ๆ หลังถูกมิจฉาชีพรายหนึ่ง เป็นชายกลางคนทำทีเป็นผู้ใจบุญเข้ามาขอประวัติของลูกสาว ชักแม่น้ำทั้งห้าอ้างว่าจะทำเรื่องถึงหน่วยงานราชการ เพื่อให้เข้ามาดูแลความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปติดต่อ

สองสามีภรรยาหลงเชื่อ เพราะในใจอยากให้ลูกหายเป็นปกติ ยอมรับว่าไม่ค่อยมีความรู้ จึงสูญเสียเงินให้กับมิจฉาชีพไปเกือบ 3,000 บาท แต่ก็ไร้วี่แววและไม่พบชายคนดังกล่าวอีกเลย จึงแน่ใจแล้วว่าถูกกหลอกอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ความตั้งใจที่ทั้งคู่หวังว่าสักวันจะพาน้องมุกดา เดินทางมารักษาที่โรงพยาบาลเด็ก กรุงเทพฯ ยังคงต้องหยุดไว้ก่อน เพราะขณะนี้ไม่มีค่าเดินทาง จึงขอใช้โอกาสนี้ร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ใจดีและผู้มีทุนทรัพย์ หวังว่าลูกสาวจะหายป่วยและมีชีวิตได้อย่างปกติเหมือนกับคนอื่น ๆ หรือสามารถช่วยเหลือผ่านบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน) สาขาตลาดไท ชื่อบัญชีนายศรชัย วงศ์กะโซ่ เลขที่ 385-225896-2

ขอบคุณ... https://www.dailynews.co.th/article/752277

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 19 ม.ค.63
วันที่โพสต์: 20/01/2563 เวลา 11:53:35 ดูภาพสไลด์โชว์ จำนองบ้านหาเงินเป็นค่ายา รักษาลูกพิการ-เมียปอดรั่ว