ชีวิตสุดน่าเวทนา 2 สามีภรรยาพิการ ที่รอการช่วยเหลือ กินข้าวบูดเน่าในหม้อข้าวที่มีกลิ่นเหม็นบูด

ชีวิตสุดน่าเวทนา 2 สามีภรรยาพิการ ที่รอการช่วยเหลือ กินข้าวบูดเน่าในหม้อข้าวที่มีกลิ่นเหม็นบูด พักอาศัยอยู่ในบ้านไม้เก่าๆ ซอมซ่อ

ชีวิตสุดน่าเวทนา 2 สามีภรรยาพิการ ที่รอการช่วยเหลือที่กาญจนบุรี อดีตยึดอาชีพรับจ้างทั่วไป ปัจจุบันร่างกายพิการทั้งสามี วัย 49 ที่เดินเหินแทบไม่ได้ ต้องใช้ไม้เท้าค้ำยัน เพราะประสบอุบัติเหตุรถล้ม สมองกระทบกระเทือน ส่วนภรรยาเดินไม่ได้ต้องนั่งใช้เท้าทั้ง 2 ข้างไถลไปกับพื้น พักอาศัยอยู่ในบ้านไม้เก่าๆ ซอมซ่อหลังคามุงสังกาสีที่รอบๆ บริเวณบ้านเต็มไปด้วยวัชพืช แถมสุดน่าเวทนาเวลา 2 สามีภรรยาจะถ่ายหนักถ่ายเบา สามีต้องเดินกระเพ็กไปตามเนินดินที่คดเคี้ยวพงหญ้ารอบๆ บ้านที่รกชัฎ ส่วนภรรยาต้องนั่งไถลตัวไปกับพื้น นานๆ ลูกสาวที่แยกครอบครัวไปแล้ว แต่มีฐานะยากจนจะมาเยี่ยมนำข้าวสารอาหารแห้งมาส่งพ่อแม่ให้ได้กิน ปัจจุบันทำงานทำการหาเลี้ยงตัวและภรรยาไม่ได้ อาศัยเบี้ยยังชีพคนพิการเดือนละ 800 บาท 2 คน จาก อบต.เดือนละ 1,600 บาท เพื่อนบ้านทนเห็นสภาพความน่าสงสาร น่าเวทนาไม่ไหว ประสานนายก อบต.เข้า ตรวจสอบนำเงินเบี้ยคนพิการ ข้าวสาร ไข่ไก่ไปช่วยเหลือเบื้องต้น ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบดูสภาพความเป็นอยู่พบว่า สุดน่าเวทนา ต้องกินข้าวบูดที่หุงทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ด้านนายก อบต.เผย หลังทราบข่าวจากชาวบ้านก็รีบเดินทางมาดู เห็นชีวิตสุดรันทด วอน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมช่วยเหลือ รวมทั้งผู้มีจิตศรัทธาท่านใดที่ต้องการทำบุญสร้างกุศลสามารถเดินทางมาร่วมบริจาคเงิน หรือสิ่งของช่วยเหลือได้ตามกำลังศรัทธา หรือประสานมาที่ อบต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้ทุกวันเวลาราชการ เรื่องราวของ 2 สามีภรรยาพิการสุดน่าเวทนาครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 8 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าวพร้อมด้วยนายสมชาย ฟักทอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ อบต.ฯ ได้เดินทางไปที่บ้านของนายจเด็จ ชูเลิศ อายุ 49 ปี และนางดารณี ขุนพลอย อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78 หมู่ 4 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เนื่องจากได้รับการบอกเล่าจากลุ่มชาวบ้านว่า ในพื้นที่หมู่ 4 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี มี 2 สามีภรรยาที่มีชีวิตที่น่าสงสารน่าเวทนา กำลังต้องการความช่วยเหลือ

เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงพบว่า บ้านของ 2 สามีภรรยาเป็นกระต๊อบไม้ชั้นเดียวหลังคามุงสังกาสีเก่าๆ ซอมซ่อ เมื่อเดินเข้าไปที่บริเวณหน้าบ้านพบนายจเด็จ สามีซึ่งมีอาการทางสมองเดินเหินโดยต้องใช้ไม้เท้าค้ำยัน นั่งเล่นอยู่ ส่วนภายในบ้านพบนางดารณี ซึ่งร่างกายพิการเดินไม่ได้นั่งใช้เท้าทั้ง 2 ข้างไถไปกับพื้นเพื่อหยิบหม้อข้าวหาข้าวกิน แต่เมื่อผู้สื่อข่าวรวมทั้งนายสมชาย ฟักทอง และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงาน อบต.นำหม้อข้าวออกมาเปิดดูถึงกับผงะ เนื่องจากกลิ่นข้าวในหม้อข้าวนั้นเกิดการเหม็นบูดจนส้งกลิ่นเหม็นเน่า เมื่อสอบถามนายจเด็จ บอกว่า ข้าวหุงไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ นายจเด็จ ตอบว่า หุงไว้ตั้งแต่เมื่อวาน นายสมชาย นายก อบต.แก่งเสี้ยนฯ จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่นำเงินไปซื้อข้าวผัดกระเพามา 2 กล่อง เพื่อให้ 2 สามีภรรยาพิการคู่นี้ได้กินประทังชีวิตไปก่อน จากนั้นจึงนำเงินสดจำนวน 1,600 บาท ซึ่งเป็นเบี้ยยังชีพคนพิการขององค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยน พร้อมด้วยข้าวสารน้ำหนัก 5 กก.จำนวน 1 ถุง และไข่ไก่มอบให้แก่นายจเด็จ ชnewscenter.tnewsาวบ้านผู้ยากไร้ไว้หุงหารับประทานต่อไป

เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงพบว่า บ้านของ 2 สามีภรรยาเป็นกระต๊อบไม้ชั้นเดียวหลังคามุงสังกาสีเก่าๆ ซอมซ่อ เมื่อเดินเข้าไปที่บริเวณหน้าบ้านพบนายจเด็จ สามีซึ่งมีอาการทางสมองเดินเหินโดยต้องใช้ไม้เท้าค้ำยัน นั่งเล่นอยู่ ส่วนภายในบ้านพบนางดารณี ซึ่งร่างกายพิการเดินไม่ได้นั่งใช้เท้าทั้ง 2 ข้างไถไปกับพื้นเพื่อหยิบหม้อข้าวหาข้าวกิน แต่เมื่อผู้สื่อข่าวรวมทั้งนายสมชาย ฟักทอง และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงาน อบต.นำหม้อข้าวออกมาเปิดดูถึงกับผงะ เนื่องจากกลิ่นข้าวในหม้อข้าวนั้นเกิดการเหม็นบูดจนส้งกลิ่นเหม็นเน่า เมื่อสอบถามนายจเด็จ บอกว่า ข้าวหุงไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ นายจเด็จ ตอบว่า หุงไว้ตั้งแต่เมื่อวาน นายสมชาย นายก อบต.แก่งเสี้ยนฯ จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่นำเงินไปซื้อข้าวผัดกระเพามา 2 กล่อง เพื่อให้ 2 สามีภรรยาพิการคู่นี้ได้กินประทังชีวิตไปก่อน จากนั้นจึงนำเงินสดจำนวน 1,600 บาท ซึ่งเป็นเบี้ยยังชีพคนพิการขององค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยน พร้อมด้วยข้าวสารน้ำหนัก 5 กก.จำนวน 1 ถุง และไข่ไก่มอบให้แก่นายจเด็จ ชาวบ้านผู้ยากไร้ไว้หุงหารับประทานต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสังเกตุภายในบ้านของ 2 สามีภรรยาพิการผู้ยากไร้คู่นี้พบว่า ภายในบ้านมีไฟฟ้าใช้ แต่อุปกรณ์การยังชีพล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งของที่เก่ามาก ที่นอนหมอนมุงก็เก่าคร่ำค่าปูนอนอยู่กับพื้นดิน โดยห้องครัวกับห้องนอนไม่มีการกั้นเขต ใช้พื้นที่ติดกัน ไม่มีห้องน้ำ เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ทำไมภายในบ้านจึงมีกลิ่นเหม็นอุจจาระปัสสาวะอย่างรุนแรง บรรดาเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงต่างบอกว่า สาเหตุที่ภายในบ้านเหม็นกลิ่นอุจจาระ ปัสสาวะนั้น เพราะนายจเด็จ เดินเหินไม่ค่อยได้ เวลาเดินเหินต้องใช้ไม้เท้าค้ำยัน ส่วนนางดารณี ซึ่งเดืนไม่ได้เลย เวลาจะไปห้องน้ำเพื่อถ่ายหนัก ถ่ายเบา ไปไม่ได้ จึงจำเป็นต้องถ่ายภายในบ้าน หรือหน้าบ้าน ห้องน้ำตั้งอยู่ข้างบ้าน ห่างจากตัวบ้านไปประมาณ 5-10 เมตร จึงเป็นความยากลำบากต่อการเดินไปเข้าห้องน้ำมาก บางครั้งนายจเด็จถึงกับลื่นหกล้ม ส่วนนางดารณี ต้องนั่งใช้ขาทั้ง 2 ข้างไถลไปกับพื้น นายจเด็จ ชายผู้ทุกข์ยากกล่าวด้วยน้ำเสียงที่พูดจาติดๆ ขัดๆ เนื่องจากสมองได้รับการกระทบกระเทือนจากการประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำว่า ตนมีลูกๆ 2 คน ชาย 1 หญิง 1 แต่งงานแยกครอบครัวไปหมดแล้ว นานๆ ลูกสาวก็จะมาเยี่ยม ซื้อของมาให้ ส่วนลูกชายนั้นหายไปเลย ทุกวันนี้อยู่ตามลำพังกับเมีย ไม่ได้ทำอาชีพอะไร มีรายได้จากเบี้ยยังชีพคนพิการของ อบต.คนละ 800 เดือนละ 1.600 บาทเท่านั้น ทุกวันนี้ต้องเสียค่าน้ำ ค่าไฟ นี่ก็ได้นายก อบต.มาดูแลช่วยเหลือ หลังนายกฯ เบิ้ม รู้ข่าว

ด้านนายสมชาย ฟักทอง นายก อบต.ฯ เมื่อได้ยินดังนั้นจึงกล่าวกับนายจเด็จ ว่า ไม่เป็นไรไม่ต้องห่วง ต่อไปนี้เรื่องค่าน้ำ ค่าไฟ ทาง อบต.จะเป็นคนดูแลรับผิดชอบ โดยจะดูแลรับผิดชอบให้เอง นายก อบต.แก่งเสี้ยนฯ ยังกล่าวต่อไปอีกว่า หลังทราบข่าวจากชาวบ้าน จึงรีบเดินทางมาดู ยอมรับว่า ทาง อบต.ช่วยเหลืออะไรไม่ได้มาก ทุกวันนี้ช่วยเบื้องต้นได้ก็คือ เบื้ยยังชีพคนขราเท่านั้น ที่ผ่านมาบางส่วนได้รับงบประมาณจาก อบจ. จึงอยากให้ทางหน่วยงาน โดยเฉพาะ ทหารเข้ามาดูแลช่วยเหลือปลูกบ้าน สร้างห้องน้ำให้ รวมทั้งผู้มีจิตศรัทธาท่านใด้ที่ต้องการบริจาคเงิน หรือสิ่งของช่วยเหลือก็สามารถติดต่อมาที่ อบต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้ทุกวันตามเวลาราชการ ที่หมายเลขโทรศัพท์ อบต.แก่งเสี้ยน 034-510797, 034-510524

ขอบคุณ... https://www.77jowo.com/contents/127192

ที่มา: 77jowo.com /มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 8 ก.ค.62
วันที่โพสต์: 9/07/2562 เวลา 10:59:22