"น้องณัฐ" เด็กวัย17 กตัญญู หยุดเรียนมาเร่ขายน้ำหวาน หาเงินดูแลพ่อพิการ

น้องณัฐ เด็กชายวัย 17 ปี ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนมาดูพ่อพิการ เร่ขายเครื่องดื่มหาค่าเงินดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดในบ้าน หวังกลับไปเรียนหนังสือเมื่อพ่อหายดี...

วันที่ 29 พ.ค.62 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 131 ม.18 บ้านหนองฮางเหนือ ต.หนองขาม อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น สภาพทรุดโทรม พบนายสี น้ำสุวรรณ์ อายุ 46 ปี ซึ่งป่วยด้วยโรคเส้นเลือดฝอยในสมองแตก ต้องกลายเป็นคนพิการครึ่งซีกซ้าย แขนขาอ่อนแรงช่วยเหลือตนเองไม่ได้

จากการตรวจสอบพบว่า นายสี ต้องใช้ชีวิตอยู่ใต้ถุนบ้านที่เพื่อนบ้านระดมทุนช่วยกันเทปูนให้ เนื่องจากบ้านชั้นบนหลังคารั่ว โดยมีนายณัฐพล น้ำสุววรณ์ นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนอาจสามารถวิทยา ซึ่งเป็นลูกชายต้องหยุดเรียนกลางคันออกมาดูแลพ่อ เนื่องจากบิดามารดาได้แยกทางกัน

โดย น้องณัฐ จะต้องรับภาระทุกอย่างทั้งการดูแลเรื่องอาหารการกิน การเก็บทำความสะอาดจากการขับถ่ายของพ่อ ตลอดจนการดูแลการใช้ชีวิตประจำวัน และยังต้องหาค่าใช้จ่ายทั้งค่าอาหาร ของใช้ประจำวันและผ้าอ้อมผู้ใหญ่ เมื่อเงินที่พ่อเก็บออมเอาไว้นิดหน่อยหมดลง น้องณัฐจึงตัดสินใจขอลาพักการเรียน แล้วนำเอาอาชีพที่พ่อทำเลี้ยงชีพมาสานต่อ ก็คือเร่ขายเครื่องดื่ม น้ำหวานผสมน้ำแข็งไปตามหมู่บ้านต่างๆ

โดยในแต่ละวันหลังจากดูแลพ่อเสร็จแล้วตอนเช้า ก็จะออกไปขายตามหมู่บ้านใกล้เคียง เที่ยงวันก็จะกลับมาป้อนข้าว ดูแลของเสีย ทำความสะอาดให้พ่อ จากนั้นช่วงบ่ายก็จะไปเร่ขายต่อจนเย็นก็จะกลับเข้ามาบ้าน

น้อวณัฐบอกว่าจะทำไปเรื่อยๆ จนกว่าพ่ออาการดีขึ้นพอช่วยเหลือตนเองได้บ้าง ก็จะกลับไปเรียนต่อและหาเวลานอกเวลาเรียนไปขายของอีก เพื่อเป็นเงินเก็บไว้ใช้จ่าย แต่น้องณัฐก็ไม่สบายเช่นกัน คือมีอาการหอบและปวดขา เนื่องจากโรคอ้วนที่มีน้ำหนักมากถึง 157 กก. แต่ก็ไม่ย่อท้อต่อชีวิต และอยากฝากบอกถึงแม่ว่าขอให้มาเยี่ยมพ่อบ้าง ตนเองติดต่อกับแม่ครั้งสุดท้ายเมื่อ 8 ปีที่แล้ว

หากท่านใดอยากจะช่วยเหลือครอบครัวของน้องณัฐ ก็สามารถช่วยเหลือได้ ผ่านทางธนาคารออมสิน สาขาอาจสามารถ เป็นบัญชีออมทรัพย์ ชื่อนายณัฐพล น้ำสุวรรณ์ เลขบัญชี 020285268627

ทางด้านนางเกศ ชัยภูมิ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหนองแฮด ซึ่งอยู่ในเขตบริการ ก็จะคอยแวะเวียนมาดูแลพร้อมกับทีม อสม. บอกว่า โดยรวมแล้วอาการผู้ป่วยดีขึ้น ซึ่งก็จะคอยแนะนำผู้ป่วยและญาติให้รู้จักวิธีการดูแลผู้ป่วย พร้อมกับให้ไปรับยาอย่าได้ขาด ผู้ป่วยมีอาการอ่อนแรงจากเส้นเลือดฝอยในสมองแตก ต้องได้รับการกายภาพบำบัด คาดว่าน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ.

ขอบคุณ... https://www.thairath.co.th/news/society/1579575

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 29 พ.ค.62
วันที่โพสต์: 30/05/2562 เวลา 10:12:05