หนุ่มตกต้นไม้จนพิการนอนติดเตียง อ้างถูกที่บ้านทอดทิ้งนอน รพ.นาน 2 ปีเศษ

หนุ่มตกต้นไม้จนพิการนอนติดเตียง อ้างถูกที่บ้านทอดทิ้งนอน รพ.นาน 2 ปีเศษ แม่ยันไม่ได้ทอดทิ้ง แต่ทนนิสัยลูกชายไม่ได้

ผู้สื่อข่าว ขณะนี้ในโซเชียลฯมีการโพสต์เรื่องราวของหนุ่มชาวกระบี่ ที่ประสบอุบัติเหตุตกต้นไม้ กลายเป็นผู้ป่วยอัมพาต นอนติดเตียงรักษาตัวอยู่ที่ รพ.เขาพนม อ.เขาพนม จ.กระบี่ นาน 2 ปีเศษ โดยมีคนนำเรื่องราวมาโพสต์ขอความช่วยเหลือผ่านสังคมโซเชียลฯ

ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยัง รพ.เขาพนม จ.กระบี่ เพื่อสอบถามเรื่องราวดังกล่าว โดยพบกับนายจิระศักดิ์ หรือโจ หนูสาย อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายดังกล่าว นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ตึกผู้ป่วยในของ รพ.เขาพนม จากการสอบถามข้อมูลจาก นางจรีภรณ์ อิ้ววังโส หน.พยาบาล รพ.เขาพนม ทราบว่า นายจิระศักดิ์ ประสบอุบัติเหตุตกต้นไม้สูง 6 เมตร ที่หน้าบ้านเลขที่ 141 หมู่ 3 ต.หน้าเขา อ.เขาพนม ซึ่งเป็นบ้านของเจ้าตัว โดยทราบว่าเจ้าตัวปีนขึ้นไปเพื่อจะตัดแต่งกิ่งต้นไม้ แล้วถูกสายไฟฟ้าที่อยู่ใกล้กันช๊อตจนตกลงมา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.59 จากนั้นมารักษาตัวที่ รพ.เขาพนม ตรวจดูแล้วพบมีอาการกระดูกสันหลังเคลื่อน ทำให้ผู้ป่วยกลายเป็นอัมพาต ไม่สามารถรักษาให้หายได้ นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.นานประมาณ 13 วัน จากนั้นจึงกลับไปบ้าน ต่อมา จนท.จาก รพ.สต.ในพื้นที่ เข้าไปเยี่ยมดูอาการ ก็พบว่าเจ้าตัวมีอาการติดเชื้อ จึงนำตัวมารักษาฟื้นฟูอีกครั้ง แต่เจ้าตัวบอกว่าจะไม่ขอกลับไปนอนรักษาตัวที่บ้านอีก ขอนอนพักรักษาตัวที่ รพ. จนผ่านมาถึงตอนนี้ก็เป็นระยะเวลา 2 ปี กับ 5 เดือนแล้ว

นางจรีภรณ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของปัญหาทางบ้านนั้น ทาง รพ.ไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้ แต่ในส่วนของการดูแล รพ.จำเป็นต้องดูแลโดยจะมี จนท.พยาบาล แม่บ้าน คอยผลัดเปลี่ยนกันดูแลทุกอย่าง ทั้งทำความสะอาด คอยป้อนข้าว ป้อนน้ำให้ โดยในส่วนของค่าใช้จ่ายส่วนตัวของผู้ป่วย จนท.ใน รพ.ก็ช่วยกันเรี่ยไรบริจาคช่วยกัน รวมถึงญาติผู้ป่วย ที่มาเยี่ยมญาติ ทราบเรื่องก็จะให้เงินช่วยซื้อข้าว ซื้อของใช้ให้ ซึ่งการช่วยเหลือในระยะยาว ก็อยากให้ผู้ป่วยรายนี้ ได้รับการรักษาที่ตรงจุดเฉพาะทางจริงๆ หากมีหน่วยงานใดที่สามารถช่วยเรื่องการรักษาได้ ก็อยากให้รับตัวไปรักษา แต่หากไม่มีที่ใดสามารถรับตัวไปรักษาได้ ทาง รพ.เขาพนม ก็จำเป็นต้องคอยดูแลอย่างนี้ต่อไป ซึ่งผู้ที่อยากช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่าย ก็สามารถบริจาคช่วยเหลือมาได้ที่ รพ.เขาพนม

ขณะที่นายจิระศักดิ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุที่ตนต้องมานอนรักษาตัวที่ รพ.นาน 2 ปีกว่า เนื่องจากตนมีปัญหากับทางบ้าน ญาติพี่น้องจึงไม่สนใจที่จะดูแล หลังออกจาก รพ.ไปครั้งแรก ตนกลับไปนอนพักรักษาตัวที่บ้าน ก็ถูกแม่และญาติ ทอดทิ้งไม่สนใจ จึงขอให้ จนท.พาตนมานอนรักษาตัวที่ รพ.แทน ซึ่งตลอด 2 ปีที่มาอยู่ รพ.ตนก็รู้สึกปลอดภัยดี มี จนท.พยาบาล และจนท.ทุกคน คอยผลัดเปลี่ยนกันมาดูแล ตนอยากให้ทุกคนได้เห็นว่าในมุมหนึ่งของ รพ.ยังมีสิ่งดีๆ ที่ จนท.คอยช่วยเหลือผู้ป่วย ส่วนตัวตนตั้งความหวังว่าวันหนึ่ง ขอแค่กลับมาช่วยเหลือตัวเองได้ ตนก็ดีใจแล้ว สิ่งที่ตนต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือ อยากเป็นผู้ป่วยในพระบรมราชูปถัมภ์ อีกเรื่องคือ อยากรักษาตัวต่อให้หาย เพราะก่อนหน้าจะเจ็บป่วย ตนเองเคยเป็นทหารเกณฑ์ไปประจำการอยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาก่อน เคยประสบเหตุถูกวางระเบิด แต่ก็รอดมาได้ ช่วงที่เจ็บป่วยอยู่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากองค์การทหารผ่านศึก และอีกหลายหน่วยงานก็มาให้การช่วยเหลืออยู่บ้าง ก็อยากขอขอบคุณทุกหน่วยงาน

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 141 หมู่ 3 ต.หน้าเขา อ.เขาพนม ซึ่งเป็นบ้านของนางเครือวัลย์ มาท้าว อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนายจิระศักดิ์ มีอาชีพทำสวนผลไม้ เพื่อสอบถามความเป็นมาเรื่องนี้ ก็ทราบจากปากของนางเครือวัลย์ ว่า ตนขอยืนยันว่าตนไม่ได้คิดจะทอดทิ้งลูกชายตามที่สังคมโซเชียลพากันต่อว่า ช่วงที่ลูกชายเจ็บป่วย ตนเองก็คอยเฝ้าดูแลอยู่ตลอดเวลา จนกลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน ก็คอยสลับกับญาติๆ ดูแลกันอยู่นานกว่า 7 เดือน กระทั่งวันที่เจ้าตัวกลับไป รพ.อีกครั้ง วันนั้นตนและญาติ ออกไปทำธุระข้างนอก กลับมาอีกทีลูกชายก็หายไปแล้ว มาทราบทีหลังว่าระหว่าง จนท.รพ.มาติดตามดูอาการ ตัวลูกชายขอให้พาไป รพ.โดยไม่ได้บอกให้ที่บ้านทราบ ตนและญาติๆ ก็เดินทางไปดู แต่ถูกลูกชายต่อว่า พูดจาว่าร้ายตลอด ก่อนจะประสบเหตุช่วงที่ยังปกติ ตัวลูกชายก็เป็นคนที่ค่อนข้างเกเร ชอบไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จนติดเชื้อร้าย ตนก็พยายามรักษาให้ตลอด แต่ตัวลูกชายก็ชอบต่อว่า และคิดจะทำร้ายตนตลอด เนื่องจากไม่พอใจที่ตนเลิกกับสามีเก่า ซึ่งเป็นพ่อนายจิระศักดิ์ แล้วมีครอบครัวใหม่

นางเครือวัลย์ เล่าต่อว่า ตนและญาติๆ รักลูกชาย ไม่มีแม่คนไหนจะทอดทิ้งได้ แต่ตัวลูกชายกลับเลือกที่จะตัดขาดจากตน ช่วงหลังที่ไปนอนรักษาตัวที่ รพ.ตนเองก็แอบส่งเงินไปให้กับทาง รพ.ทุกสัปดาห์ โดยไม่ได้แจ้งให้ทาง รพ.ทราบ จะขอร้องให้เพื่อนบ้าน แอบนำเงินไปบริจาคช่วยให้ และเคยพาตัวไปที่บ้านของอดีตสามีที่เป็นพ่อเค้า ก็ถูกฝ่ายพ่อปฏิเสธที่จะรับตัวไปดูแล เพราะรู้ดีว่าลูกชายมีพฤติกรรมที่ไม่ดี หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรก็ขอให้เป็นไปตามเวรตามกรรม ตนอยากให้สังคมได้เข้าใจในมุมของตนด้วย ว่าตนถูกลูกชายกระทำไม่ดีมาขนาดไหน เคยโดนแม้กระทั่งพาเพื่อนมาคิดจะทำร้ายตนถึงที่บ้าน หากวันหนึ่งเจ้าตัวต้องกลับมารักษาตัวที่บ้าน ตนเองยอมรับว่าคงดูแลไม่ได้แล้ว เพราะตัวตนเองก็มีอาการป่วยด้วยเช่นกัน และตัวลูกชายเองก็บอกคนไปทั่วว่าตนคิดจะฆ่าเค้า ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริงเลย

ด้านนางเยาวภา มณี อายุ 47 ปี น้าสาวของนายจิระศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ในวันเกิดเหตุ ตนและญาติๆ ก็พยายามห้ามแล้วว่าอย่าขึ้นไปบนต้นไม้ กลัวจะตกลงมา แต่เจ้าตัวเป็นคนดื้นรั้น ไม่ฟังใครทั้งสิ้น ซ้ำยังจะทำร้ายตนอีกที่เข้าไปห้าม ตนยืนยันว่าญาติๆ รวมทั้งตัวแม่ของนายจิระศักดิ์ ไม่เคยคิดทอดทิ้ง แต่ด้วยพฤติกรรมของเจ้าตัว แม้แต่พ่อแท้ๆ เองก็ยังไม่ขอรับเลี้ยง กับแม่ของตัวเองก็ด่าว่า สาปแช่งทุกวัน ไม่มีแม่คนไหนคิดจะทิ้งลูก ต่อให้ตัวเน่าเป็นหนอนก็ไม่ทิ้ง แต่เป็นเพราะนิสัยเจ้าตัว จึงไม่มีใครจะรับได้แล้ว.

ขอบคุณ... https://www.77jowo.com/contents/124190

ที่มา: 77jowo.com/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 25 พ.ค.62
วันที่โพสต์: 27/05/2562 เวลา 09:33:29