ความฝัน 800 บาท! ตาบอดสองข้าง หวังมีบัตรคนพิการ รอรัฐช่วยนาน 2 ปี

ความฝัน 800 บาท! ตาบอดสองข้าง หวังมีบัตรคนพิการ รอรัฐช่วยนาน 2 ปี

น้องสาวของหญิงตาบอด ร้องขอความช่วยเหลือกับไทยรัฐออนไลน์ หวังผ่านสื่อไปถึงผู้มีอำนาจ ช่วยสาน ความฝันเงิน 800 เบี้ยคนพิการของพี่สาว ที่ป่วยด้วยโรคเนื้องอกในสมอง ลุกลามจนตาบอด 2 ข้าง มา 2 ปี เคยติดต่อทำเรื่อง แต่ติดขัดเอกสารรับรองจาก รพ. ซ้ำไร้การช่วยเหลือจากหน่วยรัฐท้องถิ่น....

หน่วยงานรัฐช่วยด้วย น้องสาวพ้อ หมดหนทางแล้วจริงๆ จึงร้องสื่อ

“เราไม่ได้จะเรียกร้องอะไร แค่อยากให้มีคนสนใจพี่สาวบ้าง เคยขอให้ใครต่อใครช่วยจนไม่รู้จะขอความช่วยเหลือจากใคร ถ้ามีคนเข้าไปดูพี่สาว ทางผู้ใหญ่หรือผู้เกี่ยวข้อง คงจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือพี่สาวได้บ้าง...อาการพี่สาวหนักขึ้นๆ เป็นห่วงพี่สาวมาก กลัวลูกตาหลุด ทุกคนที่บ้านก็เครียดกันไปหมด..อยากให้มีคนมาช่วยเดินเรื่องทำบัตรคนพิการ..หรือให้หน่วยงานเข้าไปดูแลบ้าง”

น.ส.ก้านตอง บุญมา น้องสาวของนางใบเตย คำภู ชาว อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ วัย 36 ปี หญิงผู้โชคร้าย เหมือนตายทั้งเป็น จากที่เคยมองเห็น ต้องอยู่ในโลกมืดไปตลอดชีวิต เพราะผลข้างเคียงของเนื้องอกในสมองนาน 2 ปี กล่าวถึงเหตุผลที่ต้องติดต่อขอความช่วยเหลือในครั้งนี้กับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์

เคยร้องขอทำบัตรคนพิการ 2 ปีผ่านความฝันสะดุด เพราะ....

น.ส.ก้านตอง ยังเผยว่า เหตุที่พี่สาวต้องการมีบัตรคนพิการนั้น เนื่องจากครอบครัวมีรายได้เฉพาะจากสามี นายรังสรร์ คำภู วัย 43 ที่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ฉีดยา หว่านปุ๋ย แต่ละเดือนน้อยนิดและไม่แน่นอนเพื่อนำมาใช้จ่ายในครอบครัว คอยดูแลพี่สาว และลูกชายอายุ 11 ขวบ ซึ่งพี่สาวหวังนำเงินเบี้ยคนพิการ 800 บาท ต่อเดือนมาช่วยจุนเจือครอบครัวอีกทาง

สำหรับความพยายามในการมีบัตรคนพิการ เริ่มจาก น.ส.ก้านตอง ติดต่อผู้ใหญ่บ้านแนะนำให้ไปขอใบรับรองแพทย์ที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ แต่เมื่อพี่สาวเดินทางไปติดต่อก็ได้รับคำแนะนำให้ไปขอใบรับรองแพทย์จากหมอ รพ.ประจำจังหวัด ที่ได้ทำการผ่าตัดรักษาเนื้องอกในสมองให้พี่สาว

แต่เนื่องด้วยพี่สาวตาบอด อีกทั้งบ้านอยู่ห่างจาก รพ.ประจำจังหวัด 40-50 กว่ากิโลฯ มีเพียงมอเตอร์ไซค์ ไม่สะดวกในการเดินทาง จึงไม่ได้ไปติดต่อเดินเรื่องอีกเลย เพราะไม่มีใครพาไป เพราะพ่อก็ขาไม่ดี แม่ไม่รู้หนังสือ ส่วนพี่เขยก็ไม่กล้า พี่สาวของเธอจึงต้องยอมรับสภาพเยียวยารักษากันไปตามมีตามเกิด ส่วนตัวเธอเองนั้นก็ไม่มีเวลาพาไป เพราะทำงานที่ จ.ชลบุรี

“ไม่มีใครช่วยเดินเรื่องให้เลย ทุกวันนี้พี่สาวอยู่อย่างอยากลำบาก บ้านฐานะยากจนเลยไม่มีใครมาสนใจ ก็ได้แต่หวังว่าจะมีหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ แต่จนวันนี้ก็ยังไม่มีใครมาช่วยเลย”น.ส.ก้านตองกล่าว

ตัดสิทธิ์ อสม. เป็นมา 20 ปี น้องสาวคาใจ เงิน 600 ให้คนตาบอดไม่ได้หรือ

อีกประเด็นหนึ่งที่ น.ส.ก้านตอง สุดคาใจ ซึ่งจากบ้านเกิดมาทำงานที่ชลบุรี มองว่าด้วยความไม่สะดวกทั้งการเงินและการเดินทางเข้าตัวจังหวัด น่าจะมีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมาช่วยเหลือในการเดินเรื่องแทนได้หรือไม่ อีกทั้งพี่สาวเป็น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) มา 20 กว่าปี น่าจะได้รับคำแนะนำ ช่วยเหลือเดินเรื่องแทน แต่เมื่อพี่สาวตาบอด กลับถูกตัดสิทธิ์ต่างๆ ทั้งให้ออกจาก อสม. และสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน

“เงินเดือนแค่ 600 ให้คนตาบอดกินไม่ได้หรือ ไม่มีใครสนใจพี่สาวเลยจริงๆ เป็นสมาชิกกองทุนในหมู่บ้านก็กลัวพี่สาวจะตาย ก็เปลี่ยนใช้ชื่อพี่เขยใส่แทนพี่สาว ไม่เข้าใจว่าทำไมมีแต่คนซ้ำ ไม่เคยมีคนคิดช่วยเหลือ ผู้ใหญ่บ้าน อบต. เคยเข้ามาดูแล สอบถาม แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า อยากให้มีใครก็ได้เข้ามาช่วยเหลือ มาสนใจ ไม่ใช่ปล่อยทิ้ง” น.ส.ก้านตองกล่าวด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ

ไม่คิดผ่าตัดรักษา ปล่อยตาบอด ยอมปวดหัวทรมาน เหตุกลัวตายจากลูก

ก่อนที่นางใบเตยจะตาบอดทั้งสองข้าง น.ส.ก้านตอง ย้อนเล่าเรื่องราว เหตุร้ายเกิดขึ้นเมื่อ ก.พ. 59 วันที่พี่สาวผ่าตัดเนื้องอกในสมอง หลังผ่าตัดได้รับแจ้งจากหมอว่าไม่ใช่เนื้อร้าย ผ่านไปปีกว่า ตาของพี่สาวเริ่มปูดทีละนิดๆ แต่ไม่ไปหาหมอ เหตุคิดว่าไม่เป็นอะไรมาก และรู้ว่าถึงจะรักษาไปก็ไม่มีวันหายขาด จนกระทั่งตามองไม่เห็นหนึ่งข้าง เหตุเนื้องอกในสมองไปกดทับเส้นประสาทตา แล้วลามอีกข้างจนบอดสนิท

เมื่อคุยกันมาถึงในช่วงเหตุการณ์นี้ แฟนไทยรัฐคงเกิดคำถามว่า เหตุใดไม่ไปพบหมอ เพื่อรักษา ทำไมปล่อยป่วยหนักจนถึงขั้นตาบอด?

น.ส.ก้านตอง ตอบข้อสงสัยนี้ว่า ตั้งแต่ผ่านการผ่าตัดครั้งแรกมา พี่สาวเกือบไม่รอดชีวิต เพราะมีอาการชัก ซึ่งตนเคยถามว่าจะไปผ่าตัดอีกไหม พี่สาวยืนยันว่าไม่อยากผ่า เหตุอยากอยู่กับลูก ซึ่งตนก็เข้าใจ ให้กำลังใจ และบอกให้ทำใจยอมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา นั่นคือ กลายเป็นคนโลกมืดสนิทอีกข้าง

“พี่สาวทรมาน เครียดจนเคยคิดอยากฆ่าตัวตาย เพราะคนเคยมองเห็นแล้วกลับมองไม่เห็น เคยทำอะไรได้ กลับทำไม่ได้ ก็ทำให้หงุดหงิด คิดมาก พอคิดมากก็ไปกระตุ้นเนื้องอกให้โตเร็ว หลังผ่าตัดครั้งนั้นก็ไม่เคยไปโรงพยาบาลอีกเลย พี่สาวบอกไปก็ไม่หาย อีกอย่างอยากอยู่กับลูก พอมีอาการปวดหัว ก็ซื้อยาแก้ปวดเม็ดสีชมพูมากินรักษาเอง พักหลังกินแล้วไม่หายปวด ต้องไปฉีดยาตามคลินิก บางครั้งพี่สาวปวดหัวมากจนลุกไม่ขึ้น” น.ส.ก้านตอง บอกเล่าวิธีรักษา

รู้สึกท้อ แต่สู้เพื่อลูก อยากได้ “บัตรคนพิการ” สุดหัวใจ

ด้านนางใบเตย คำภู สาวผู้เคราะห์ร้าย บอกความรู้สึกกับทีมข่าวฯ ว่า เมื่อดวงตามองไม่เห็นก็ทำให้ชีวิตแย่ และลำบากไปหมด เดินเองไม่ค่อยแข็งแรง สามีต้องคอยดูแลทุกอย่าง เป็นแสงสว่างนำทาง สำหรับโรคร้ายที่เป็นอยู่แม้จะทรมาน บางครั้งปวดจนทนไม่ไหว ก็ขอสู้ต่อไปเพื่อลูก สิ่งที่ต้องการในตอนนี้ คือ บัตรคนพิการ เหตุสงสารสามีที่ต้องหาเงินจุนเจือครอบครัวเพียงลำพัง

“ตั้งแต่ผ่าสมองมาก็ไม่ไปหาหมออีกเลย เพราะรู้ว่ามันไม่หาย บางทีก็รู้สึกว่าไม่อยากจะสู้ นึกถึงลูกก็ต้องสู้ อยากให้มีคนช่วยเรื่องทำบัตรพิการ จะได้มีเงินจุนเจือครอบครัวบ้างแฟนหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว หมุนเงินแทบไม่ทันก็สงสาร จะไปขอเอกสารก็จะไปยังไง ตาบอด รถก็มีแต่มอเตอร์ไซค์ สงสารแฟนหากินคนเดียว” นางใบเตยกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา เพราะเรี่ยวแรงน้อยจากการสู้กับความเจ็บปวดโรคร้าย

ขอบคุณ... https://www.thairath.co.th/content/1410753

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 8 พ.ย.61
วันที่โพสต์: 8/11/2561 เวลา 09:58:20 ดูภาพสไลด์โชว์ ความฝัน 800 บาท! ตาบอดสองข้าง หวังมีบัตรคนพิการ รอรัฐช่วยนาน 2 ปี