ขาพิการไม่เป็นอุปสรรค! ลุง 67 หัวใจนักบุญ เดินกะเผลกตี 4 ทำดี 6 ปีให้หมู่บ้าน

ขาพิการไม่เป็นอุปสรรค! ลุง 67 หัวใจนักบุญ เดินกะเผลกตี 4 ทำดี 6 ปีให้หมู่บ้าน

ขาพิการไม่เป็นอุปสรรค! ลุง 67 หัวใจนักบุญ เดินกะเผลกตี 4 ทำดี 6 ปีให้หมู่บ้าน

การทำความดีนั้นมีหลายรูปแบบ ใจที่เป็นกุศล คิดทำประโยชน์ให้กับสังคม โดยไม่หวังผลตอบแทน ไม่ว่าจะอยู่ในวัยใดก็สามารถทำได้...ดังเรื่องราวในวันนี้ของ ลุงประสิทธิ์ เจริญศิริ ชายชราผู้พิการขาลีบตั้งแต่เด็กจากโรคโปลิโอ วัย 67 ปี กับคุณงามความดีที่ได้ทำประโยชน์ให้ชุมชนบ้านเกิด หมู่บ้านปง หมู่ 3 ต.ต้าผามอก อ.ลอง จ.แพร่ มายาวนานเกือบ 6 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555

ใช้เวลาว่างทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่ง ทำความสะอาด ในหมู่บ้าน วัด โรงเรียน ด้วยเรี่ยวแรงที่มีน้อยนิดตามวัย อีกทั้งยังเป็นตัวอย่างของคนสูงวัยที่ใช้ชีวิตภายใต้เศรษฐกิจพอเพียง ตามรอยพระราชดำรัสของในหลวง ร.9 ด้วย

ขาพิการไม่เป็นอุปสรรค! ลุง 67 หัวใจนักบุญ เดินกะเผลกตี 4 ทำดี 6 ปีให้หมู่บ้าน

การทำงานเป็นยา ขอทำต่อ คือความสุข

“ขาไม่ดี พิการแต่กำเนิด มาอยู่บ้านก็ไม่มีอะไรทำ พอ มีโครงการทำดีเพื่อในหลวง องค์ที่ 9 ก็ทำมาเรื่อยๆ ทำแล้วรู้สึกสบายใจที่ได้ทำเพื่อในหลวง และดีกับร่างกาย ปีแรกๆ ที่มาอยู่บ้าน ต้องไปหาหมอเดือนละสองครั้ง ตอนหลังไม่มีเลย การทำงานเป็นยาอย่างหนึ่งนะ ทำเสร็จกลับมาพักบ้านก็ดีใจ” ลุงประสิทธิ์ เอ่ยถึงความรู้สึกถึงความมุ่งมั่นทำดีเพื่อสังคม

“ลูกสาวก็เคยห้าม แต่บอกลูกไปว่าพ่อทำแล้วสบายใจ ไม่เป็นไรหรอกลูก ลูกสาวก็ส่งเงินมาให้ใช้เดือนละ 5 พัน ก็พอเพียง การทำงานก็เหมือนได้ออกกำลังกาย ลุงชอบช่วยเหลือสังคมอยู่แล้ว มีคนมาถามว่าไปทำ ทำไม ได้เดือนเท่าไร มีคนถามตลอดจนถึงเดี๋ยวนี้ ใครจะว่าอะไรก็ช่างเถิด อยู่ที่ตัวเราจะทำผิด ทำถูก” ลุงประสิทธิ์ยืนยันเจตนารมณ์

ห้าม คือ ทำลายความสุข ลูกห่วงสุขภาพ เดินกะเผลก เหตุโปลิโอ

ด้าน “บิว” ชัชนินทร์ ปลื้มญาติ ลูกสาวของลุงประสิทธิ์ บอกว่าพ่อ ชอบช่วยเหลือสังคมอยู่แล้ว เหตุผลที่ห้าม เพราะแก่แล้ว ไม่อยากให้ทำงานหนัก อีกทั้งไม่ขัดสนเรื่องเงินในการส่งเสียเลี้ยงดู แต่เมื่อได้ฟังคำตอบจากผู้เป็นพ่อว่า “ทำแล้วมีความสุข” เธอจึงไม่คิดห้ามปรามอีกเลย เพราะเมื่อไหร่ที่ห้าม คือ การทำลายความสุขพ่อ

ขาพิการไม่เป็นอุปสรรค! ลุง 67 หัวใจนักบุญ เดินกะเผลกตี 4 ทำดี 6 ปีให้หมู่บ้าน

“ที่พอทำประโยชน์ให้หมู่บ้าน พ่อบอก ทำแล้วมีความสุข แก่แล้วดีกว่าอยู่เฉยๆ ตอนแรกห้าม ตอนหลังไม่ห้ามแล้ว เพราะเห็นพ่อทำแล้วมีความสุข ความสุขของพ่อคือการช่วยเหลือคนอื่น ก็มีคนชื่นชมพ่อ เคยชวนมาอยู่ กทม. ด้วยกันแต่พ่อไม่มา ตอนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพ เพราะพ่อ เป็นโปลิโอ ขาไม่เท่ากันตั้งแต่เกิด ข้อเท้าพลิก ทำให้ต้องเดินกะเผลก” บิวกล่าวถึงปัญหาสุขภาพของพ่อ

ตื่นตี 4 ทำความดี ยึดในหลวง ร.9 เป็นพลัง

การทำประโยชน์เพื่อสาธารณะของลุงประสิทธิ์ในแต่ละวัน จะเริ่มขึ้นเมื่อเวลา ตี 4 ของทุกวัน โดยมีอุปกรณ์คู่กาย อาทิ ไม้กวาด กรรไกรตัดหญ้า เลื่อยตัดไม้ มีดผ่าไม้เพื่อปักเสาหลักปลูกต้นไม้ ซ่อมป้ายวัดหมู่บ้าน แต่บางวันหากไม่สบาย หรือเหนื่อยก็จะออกมาทำสายๆ ตกเย็นจะขี่มอเตอร์ไซค์ตรวจดูผลงาน ไม่สกปรกมาก ก็ยังไม่ทำ หากมีจุดใดสกปรกก็จะทำความสะอาดทันที

“มาแต่เช้า ตีสี่ ตีห้า บางวันไม่สบายก็เว้นวันบ้าง มาทำตอนสายๆ ก็มี แต่ทำทุกวัน ตกแต่งตามถนนหนทางที่ไม่สวย จุดไหนดูแล้วเป็นขยะ รกรุงรัง มีต้นหญ้า ก็ตัดออก ปลูกต้นวาสนาแทน”

ลุงประสิทธิ์ เล่ากิจกรรมที่ทำเป็นอาจิณในหมู่บ้านโดยมีสิ่งที่เป็นพลังใจในการทำความดี คือ ในหลวง ร.9 ซึ่งลุงประสิทธิ์นอกจากยึดหลักความพอเพียง ตามในหลวง ร.9 แล้ว ทุกคืนขณะสวดมนต์จะมีรูปในหลวง ร.9 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ด้วย

“ลุงทำทั้งวันเพราะสบายใจ อากาศร้อนก็ทำครึ่งวัน แดดแรงก็พักผ่อนในร่ม ไม่ได้คิดอะไร จะทำต่อไปจนกว่าจะไม่มีแรง ช่วยให้อายุยืน และทำเพื่อพระเจ้าอยู่หัวองค์ที่ 9 ด้วย เพราะก่อนนอน สวดมนต์ให้พระองค์ทุกวัน”ลุงประสิทธิ์กล่าวทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข

ผู้ใหญ่บ้านยืนยัน ลุงประสิทธิ์ มุ่งทำดี ใช้งบส่วนตัวซื้อสี

ด้านนายเทียน กันทะลั่น ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านปง ก็ยืนยันกับทีมข่าวฯ และชื่นชม แม้ลุงประสิทธิ์จะไม่สะดวกในการเดิน ต้องเดินขากะเผลก และบางครั้งหากเดินไกลๆ ต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงเดินก็ตาม แต่ในทางกลับกัน ยังทำประโยชน์ให้กับหมู่บ้าน โดยไม่เคยบ่น ไม่เคยท้อ ไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนใด อีกทั้งยังใช้เงินส่วนตัวในการซื้อสี ทาป้ายวัด

“ทุกเช้า ถ้าลุงไม่ป่วย ตื่นมาตี 4 ตีห้าก็จะไปกวาดถนน ดายหญ้า เวลาว่างตอนกลางวันก็จะไปตกแต่งต้นไม้ ปรับภูมิทัศน์ในหมู่บ้าน ตรงไหนมีป้ายก็เอาไม้มาตีเป็นระแนง ทาสีที่ซื้อมาเองด้วย กวาดขยะใบไม้ที่ร่วงตามริมถนนหนทางในหมู่บ้าน วัด โรงเรียน ทำทุกอย่างตามภาพที่เห็น ผมเคยถามว่าทำไมมาทำ ลุงบอกว่า มีเวลาว่างก็ทำ อยากให้หมู่บ้านสวยงาม ดูดี ลุงไม่เคยเรียกร้องอะไร วันไหนป่วยก็หยุด วันไหนไม่ป่วยก็ทำไปเรื่อยๆ” ผู้ใหญ่บ้านกล่าวถึงผลงานคุณความดีต่างๆ ของลุงประสิทธิ์

คนทั้งหมู่บ้านชื่นชม การันตีลุงประสิทธิ์คนดีเนื้อแท้ มอบใบประกาศนียบัตรเชิดชู

ผู้ใหญ่บ้านเท้าความว่า ก่อนที่ลุงประสิทธิ์จะกลับมาอยู่ที่บ้านเกิดนั้น ทำงานเป็น รปภ. อยู่ กทม. เมื่อเกษียณอายุก็กลับมาอยู่บ้านเกิด จากคุณงามความดีที่ทำด้วยหัวใจบริสุทธิ์ของลุงประสิทธิ์ ตลอดเกือบ 6 ปี

หมู่บ้านจึงมอบใบประกาศเกียรติคุณเป็นบุคคลทำประโยชน์ให้กับชุมชน โดยได้รับการยอมรับจากคนในหมู่บ้าน วัด โรงเรียน และผู้ใหญ่บ้านลงนามในใบประกาศ

“ผมเคยให้ลุงไปทำความสะอาดตรงนั้นตรงนี้ และให้เงิน ลุงก็ไม่เอา ตั้งแต่ลุงทำมา ไม่เคยมาขออะไรไปทำโน่น นี่นั่น ไม่เคยทำความเดือดร้อนให้ใคร ลุงอยากทำอะไร ตรงไหนก็ทำ คนในหมู่บ้านก็ไม่ได้กำหนดกฎเกณฑ์ว่าทำหรือไม่ทำตรงไหน

ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ลุงเป็นคนดี และผมก็เห็นตลอดมาหลายปีแล้ว หมู่บ้านจึงมอบใบประกาศเกียรติคุณ ชื่นชม ให้กำลังใจและเชิดชูคนทำดี” ผู้ใหญ่บ้านยืนยัน นอกจากนี้ลุงประสิทธิ์ยังเคยได้รับอีก 2 รางวัลจากพระพุทธศาสนา และ อบต. เชิดชูในฐานะผู้ที่ทำความดีให้กับสังคม

ความดีทำได้ไม่ยาก ทำแล้วดีกับทุกคน โดยเฉพาะการทำดีเพื่อสังคม จะช่วย ทำให้สภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวน่าอยู่ยิ่งขึ้น หากบ้านเมืองเรา มีคนดีเช่นลุงประสิทธิ์เยอะๆ สังคมก็จะเต็มไปด้วยความเอื้ออาทร และความมีไมตรีจิตต่อกัน

ขอบคุณ... https://www.thairath.co.th/content/1404072

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 27 ต.ค.61
วันที่โพสต์: 29/10/2561 เวลา 11:11:54 ดูภาพสไลด์โชว์ ขาพิการไม่เป็นอุปสรรค! ลุง 67 หัวใจนักบุญ เดินกะเผลกตี 4 ทำดี 6 ปีให้หมู่บ้าน