หนุ่มพิการยอดกตัญญู ใช้มือโยก 3 ล้อ นับ 10 กิโล ขายสินค้าช่วยครอบครัว

หนุ่มพิการยอดกตัญญู ใช้มือโยก 3 ล้อ นับ 10 กิโล ขายสินค้าช่วยครอบครัว

พบชายพิการยอดกตัญญู ใช้มือโยก 3 ล้อแทนเท้า นับ 10 กิโลเมตร ตระเวนขายสินค้าช่วยเหลือครอบครัว มีรายได้เพียงวันละ 100 บาท แต่ไม่ย่อท้อต่อชีวิต เผย วัยเด็กถูกบอลอัดศีรษะ จนเลือดคั่งในสมองจนต้องผ่าตัด

สำหรับเรื่องชายพิการยอดกตัญญูคนดังกล่าว คือ นายอิสมาแอ สาและ หรือ ปีเดะ อายุ 31 ปี พักอาศัยอยู่ที่บ้านปูนชั้นเดียว เลขที่ 40 ม.5 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ที่เป็นผู้พิการขาทั้ง 2 ข้างและมือซ้าย ที่พักอาศัยอยู่กับบิดา คือ นายมามะ สาและ อายุ 57 ปี นางมาซือนะ อารง มารดา อายุ 42 ปี ซึ่งยึดอาชีพรับจ้างกรีดยางพารา และสมาชิกในครอบครัว รวม 8 คน ที่มีรายได้ไม่เพียงพอมาจุนเจือครอบครัวในแต่ละเดือน

โดย นายอิสมาแอ ชายพิการยอดกตัญญู ได้เล่าให้ฟังว่า เดิมทีตนมีร่างกายปกติเหมือนคนทั่วไป โดยในช่วงอายุ 9 ปี ซึ่งเรียนหนังสืออยู่ชั้น ป.3 โรงเรียนบ้านโต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี ได้เกิดอุบัติเหตุแบบไม่คาดคิด ขณะนั่งดูเพื่อนๆ แถวบ้านอายุรุ่นราวคราวเดียวกันเตะฟุตบอล เกิดพลาดฟุตบอลมาโดนศีรษะทำให้ตนเองล้มลงศีรษะฟาดกับพื้น แต่ตนเองไม่ได้บอกทางบ้านเนื่องจากสมาชิกในครอบครัวออกไปทำงาน จนกระทั่งเวลาผ่านไป 1 วัน ตนเกิดอาการปวดศีรษะขึ้นมาอย่างรุนแรง บิดาและมารดาได้ไปหาหมอบ้านเพื่อนำยามาต้มกิน แต่แล้วอาการตนไม่ทุเลาแถมปวดศีรษะรุนแรงกว่าเดิม บิดาและมารดาซึ่งพอมีเงินเหลืออยู่บ้าง จึงได้ตัดสินใจพาตนไปหาหมอที่โรงพยาบาลสุไหงปาดี และหมอได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ซึ่งหมอลงความเห็นต้องทำการเอกซเรย์สมองอย่างละเอียด แต่เครื่องมือในสมัยนั้นยังไม่ทันสมัยพอ จึงได้ส่งตัวต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ จ.ยะลา เมื่อแพทย์ทำการตรวจอย่างละเอียดแล้ว พบว่าเลือดคั่งในสมองต้องทำการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน ซึ่งการผ่าตัดอาจจะมีผลกระทบต่อระบบการสั่งงานทางสมอง เนื่องจากอาการของตนอยู่ในขั้นอันตรายที่ไม่ได้เข้าทำการรักษาตั้งแต่เนินๆ

หนุ่มพิการยอดกตัญญู ใช้มือโยก 3 ล้อ นับ 10 กิโล ขายสินค้าช่วยครอบครัว

นอกจากนี้ นายอิสมาแอ ได้เล่าให้ฟังเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ในที่สุดแพทย์โรงพยาบาลศูนย์ จ.ยะลา จึงได้ส่งตัวไปทำการผ่าตัดที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ ซึ่งกระบวนการต่างๆ ตั้งแต่เริ่มมีอาการเจ็บป่วยเข้ารับการผ่าตัดและพักฟื้นต้องใช้ระยะเวลานานเกือบ 2 ปี จนตนได้กลับมาอาศัยอยู่ที่บ้านตามเดิม โดยขาทั้ง 2 ข้าง รวมทั้งมือซ้าย มีอาการชาและไม่มีแรง แต่ก็พยายามฝืนเดินและหยิบฉวยสิ่งของ แล้วตนก็กลับไปสู่การเรียนหนังสือที่โรงเรียนดังเดิมเช่นกัน และจู่ๆ ขาทั้ง 2 ข้างรวมทั้งมือซ้ายเริ่มมีอาการชามากขึ้น ทางโรงเรียนจึงแนะนำให้ตนหยุดการเรียนเป็นการชั่วคราว เนื่องจากไม่ต้องการให้ตนใช้ชีวิตที่ลำบากมาเรียนหนังสือ จากนั้นตนจึงหยุดเรียนหนังสือแบบถาวร และกลายเป็นคนพิการ ต้องใช้หัวเข่าทั้ง 2 ข้างเดินแทนเท้า และมีมือขวาข้างเดียวที่ใช้ช่วยเหลือตัวเองในการดำรงชีวิตประจำวัน หลังจากนั้นตนก็ใช้ชีวิตอาศัยอยู่แต่ในบ้านพัก ต้องให้บิดาและมารดาทำงานเลี้ยงดูมาโดยตลอด ส่วนเงินช่วยเหลือผู้พิการที่ตนได้รับในแต่ละเดือน 800 บาท ตนก็ให้บิดาและมารดาเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว โดยถือว่าอย่างน้อยก็สามารถช่วยเหลือบิดามารดาได้ระดับหนึ่ง เป็นค่าไฟฟ้าที่ใช้ในแต่ละเดือน

และชีวิตของนายอิสมาแอได้เริ่มพลิกผันในช่วงปี พ.ศ.2558 เมื่ออายุ 28 ปี หรือ 4 ปีให้หลัง เมื่อนายสุทธิพงษ์ บินเจ๊ะมุ นายก อบต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี ได้มอบรถจักรยาน 3 ล้อแบบใช้มือโยกแทนการใช้เท้าถีบให้กับนายอิสมาแอ และนายอิสมาแอ ได้ใช้เป็นพาหนะในการประกอบอาชีพเรื่อยมา ด้วยการไปรับสินค้าจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน อาทิ ผักผลไม้ตามฤดูกาล รวมไปถึงข้าวเกรียบและถั่วทอด ที่ชาวบ้านได้แบ่งเปอร์เซ็นต์ให้จากรายได้ที่ขายในแต่ละวันคิดเป็นร้อย 20 ซึ่งในแต่ละวันนายอิสมาแอจะมีรายได้โดยเฉลี่ยประมาณ 100 บาท

โดยทางผู้สื่อข่าวได้ติดตามชีวิตประจำวันของนายอิสมาแอ ตั้งแต่การตื่นนอนจากบ้านพักในช่วงเวลา 06.00 น. หลังจากนั้นได้ใช้มือขวาที่ใช้การได้ข้างเดียวใส่เสื้อผ้า และเดินด้วยเข่าแทนเท้ามาขึ้นรถจักรยาน 3 ล้อ ที่จอดไว้หน้าบ้านพัก จากนั้นได้ใช้มือโยกคันโยกของรถจักรยาน 3 ล้อ แทนการใช้เท้าถีบ ไปรับสินค้าจากชาวบ้านในหมู่บ้าน โดยชาวบ้านจะเป็นคนขนส่งสินค้ามาจัดวางไว้บริเวณต่างๆ ของรถ เมื่อแล้วเสร็จนายอิสมาแอจะใช้มือโยกรถจักรยาน 3 ล้อ ตระเวนขายสินค้าภายในหมู่บ้าน และมุ่งหน้าไปขายสินค้าที่ตลาดสดเทศบาลตำบลปะลุรู อ.สุไหงปาดี ซึ่งมีระยะทางประมาณ 15 กม. โดยนายอิสมาแอจะตะโกนประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านทราบว่า สินค้าในวันนี้มีอะไรจำหน่ายบ้าง และเมื่อถึงเวลาประมาณ 20.00 น. ของทุกวัน นายอิสมาแอ ก็จะโยกรถจักรยาน 3 ล้อ เพื่อไปเคลียร์สินค้าที่จำหน่ายได้ในแต่ละวันกับชาวบ้านที่เป็นเจ้าของสินค้า ก่อนที่จะโยกรถจักรยาน 3 ล้อกลับบ้านพักผ่อน

แต่ชีวิตของนายอิสมาแอ ถือว่ามีชีวิตโชคดีกว่าคนอื่นๆ ที่มีนายอาณัติ ปะลุรักษ์ อายุ 62 ปี ซึ่งเปิดร้านจำหน่ายข้าวแกง ที่มีความสนิทสนมกับครอบครัวของนายอิสมาแอ ตั้งแต่นายอิสมาแอ มีอายุเยาว์วัย โดยนายอิสมาแอ จะเรียกนายอาณัติว่า พ่อ อย่างเต็มปากเนื่องจากนายอาณัติได้ให้การช่วยเหลือครอบครัวยามขัดสน พร้อมทั้งได้อุดหนุนสินค้าของนายอิสมาแอที่นำมาตระเวนขาย เพื่อนำไปประกอบอาหารขายในแต่ละวัน แถมนายอิสมาแอ เมื่อหิวข้าวในแต่ละวันก็จะโยกรถจักรยาน 3 ล้อคู่ชีพไปรับประทานอาหารที่ร้านของนายอาณัติเป็นประจำ ซึ่งนายอาณัติก็รักนายอิสมาแอเหมือนลูกหลานคนหนึ่ง

ด้านนายอาณัติเปิดเผยว่า ปีเดะ เป็นเด็กที่น่าสงสาร เป็นคนกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ ตั้งแต่เด็กๆ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ตอนอายุประมาณ 9 ขวบ ปีเดะ ก็เกิดอุบัติเหตุทางร่างกายอย่างที่เห็น มีความอุตส่าห์เลี้ยงตนเองและครอบครัว ค้าขายผลไม้ตามฤดูกาล ถั่ว ข้าวเกรียบ เป็นต้น การค้าขายนั้นรถจักรยานก็เริ่มที่จะเสื่อมสภาพ จึงขอความอนุเคราะห์จากผู้ใจบุญ ช่วยเหลือเป็นทุนซื้อรถพาหนะ และทุนการในใช้จ่ายยามเจ็บป่วย

ซึ่งผู้ใจบุญและมีจิตศรัทธาสามารถร่วมกันบริจาคเงิน สามารถสอบถามได้ที่ นายอาณัติ ปะลุรักษ์ หมายเลขโทรศัพท์ 08-6955-8131 หรือ 09-6917-9419 หรือ บัญชีนายอาณัติ ปะลุรักษ์ ธนาคารกรุงเทพ สาขาสุไหงปาดี ประเภทออมทรัพย์ หมายเลขบัญชี 591-01517-77 จักขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

ขอบคุณ... https://www.thairath.co.th/content/1401066

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 22 ต.ค.61
วันที่โพสต์: 24/10/2561 เวลา 11:05:38 ดูภาพสไลด์โชว์ หนุ่มพิการยอดกตัญญู ใช้มือโยก 3 ล้อ นับ 10 กิโล ขายสินค้าช่วยครอบครัว