CSR ไทยประกันชีวิต ดูแลกำลังพลจนปลดพิการ /ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล

CSR ไทยประกันชีวิต ดูแลกำลังพลจนปลดพิการ /ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล

ผู้เข้าสู่วิชาชีพทหาร มักถูกกล่าวถึงว่าเป็น “รั้วของชาติ” เพราะมีหน้าที่และความรับผิดชอบเป็นกำลังพลในการปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงปลอดภัยให้กับประเทศ การได้รับเกียรติและมีระบบระเบียบการดูแลให้มีคุณภาพชีวิตและสวัสดิการที่เหมาะสมจึงสมควรอย่างยิ่ง

น่ายินดีที่ภาคเอกชนหลายแห่งได้แสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ในการสนับสนุนราชการทหารในลักษณะต่างๆ

บมจ.ไทยประกันชีวิต นับเป็นตัวอย่างที่ดีในการดำเนินโครงการส่งเสริมสังคม ที่ส่งผลลัพธ์ที่ยั่งยืน (Social Impact) เฉพาะที่เกี่ยวกับชีวิตทหารที่เริ่มด้วยการรับประกันชีวิตทหารต่อเนื่องมาถึง 32 ปีแล้ว ทั้งๆ ที่ไม่มีบริษัทใดในวงการกล้าทำ

CSR ไทยประกันชีวิต ดูแลกำลังพลจนปลดพิการ /ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล

CSR ไทยประกันชีวิต ดูแลกำลังพลจนปลดพิการ /ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล

CSR ไทยประกันชีวิต ดูแลกำลังพลจนปลดพิการ /ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล

ปีนี้ บมจ.ไทยประกันชีวิตได้เริ่มเข้าร่วมสนับสนุนโครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตทหารในกลุ่มกำลังพลที่ทุพพลภาพจนต้องปลดประจำการ ไม่ทอดทิ้งบุคคลที่ควรยกย่องของกองทัพผู้ที่เสียสละทำหน้าที่ปกป้องประเทศ โดยการดูแล ผลักดันและช่วยเหลือให้สามารถประกอบอาชีพตามทักษะ เพื่อให้กำลังพลเหล่านั้นและครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตลอดจนสร้างประโยชน์และคุณค่าให้กับสังคม

โครงการนี้เริ่มขึ้นในปี 2560 โดยกองทัพบกมุ่งช่วยเหลือกำลังพลที่ปลดพิการทุพพลภาพและครอบครัว โดยดำเนินการภายใต้ความร่วมมือของสมาคมแม่บ้านทหารบก กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน มูลนิธินวัตกรรมทางสังคมได้ร่วมมือกับกิจการภาคเอกชนในการจัดหาทุนสนับสนุนการประกอบอาชีพแก่กำกำลังพลปลดปลดพิการหรือครอบครัว

สำหรับปี 2561 มีครอบครัวทหารปลดพิการเสนอโครงการ 164 ราย ในจำนวนนี้ไทยประกันชีวิตได้สนับสนุนโครงการจ้างงานคนพิการฯ รวมทั้งสิ้น 54 โครงการ

ปัจจุบันมีบุตรหลานกำลังพลนำเงินสนับสนุนไปเป็นทุนตั้งต้นในการประกอบอาชีพ สามารถสร้างรายได้ให้ครอบครัว เช่น โครงการร้านถ่ายเอกสาร โดยเด็กชายพสิษฐ์ พิบูลย์, โครงการผลิตธูปหอม โดยนายมนตรี ไล้เลิศ, โครงการร้านเสริมสวย โดยเด็กหญิงมุฐิตา ขันจันทร์ เป็นต้น

ภาสินี ปรีชาธนาพล ผู้อำนวยการฝ่าย กลุ่มองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราดำเนินธุรกิจในลักษณะ People Business โดยให้ความสำคัญกับคุณค่าของชีวิตและคุณค่าของมนุษย์ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า, พนักงานหรือคนในสังคม รวมถึงปลูกฝังให้บุคลากรมีความเข้าใจ จริงใจและไม่ทิ้งกัน ทั้งต่อลูกค้าและคนในสังคม พร้อมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในด้านต่างๆ อย่างเต็มที่

“บริษัทฯ ตระหนักดีว่าทหารเป็นบุคคลที่เสียสละเพื่อชาติ แม้ปลดพิการออกจากราชการไปก็ยังมีความสามารถในการประกอบอาชีพอื่นได้ ซึ่งโครงการจ้างงานคนพิการเพื่อทำงานในชุมชนหรือองค์กรสาธารณประโยชน์ นับเป็นการสร้างโอกาสให้ทหารปลดพิการและครอบครัวสามารถดำรงชีวิตได้อย่างยั่งยืน “

ขณะที่ อภิชาติ การุณกรสกุล ประธานมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม กล่าวว่า ในฐานะเป็นที่ปรึกษา ช่วยดูแล ให้คำแนะนำการเขียนโครงการเพื่อการประกอบอาชีพให้สามารถดำเนินงานได้จริงและต่อเนื่อง โดยผู้ใช้สิทธิ์ในโครงการฯ จะต้องเป็นกำลังพล หรือบุตรหลานที่พิการไร้สภาพ อายุระหว่าง 18-70 ปี หรือเป็นผู้เยาว์ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความถนัดของผู้พิการ และสนใจประกอบอาชีพอะไร ซึ่งโครงการฯ ที่ผ่านการพิจารณาจะได้รับเงินสนับสนุน 109,500 บาทต่อปี โดยสมาคมแม่บ้านทหารบกและกรมการจัดหางานจะเป็นผู้ช่วยตรวจสอบและติดตามผลงานเป็นระยะ

การประกันชีวิตทหาร เป็นโครงการเพื่อสังคมที่ไทยประกันชีวิตสร้างความฮือฮาในวงการตั้งแต่ปี 2530 เพราะเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกและแห่งเดียวในโลกที่รับประกันชีวิตทหาร ได้สร้างขวัญและกำลังใจแก่กำลังพลของกองทัพและครอบครัว เป็นการตอบแทนความเสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประเทศ

ล่าสุด กองทัพบกได้ร่วมกับบมจ. ไทยประกันชีวิตลงนามต่อสัญญาประกันชีวิตทหารต่อเนื่องเป็นปีที่ 32 เพื่อมอบความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพปลดประจำการให้กับกำลังพลของกองทัพบกทุกระดับชั้น ทั้งในยามสงบและยามปฏิบัติหน้าที่ภาคสนามด้วยกรมธรรม์ 3 แบบ ได้แก่

กรมธรรม์แบบภัยสงคราม ให้ความคุ้มครองกำลังพลที่ออกปฏิบัติหน้าที่ภาคสนามที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งในและนอกประเทศ ทั้งกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพจนถูกปลดประจำการ

กรมธรรม์แบบพิทักษ์พล ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ สำหรับนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ, นักเรียนแพทย์ทหาร, นักเรียนพยาบาลกองทัพบก, นักเรียนนายสิบ, นักเรียนดุริยางค์ทหารบก, นักเรียนผู้ช่วยพยาบาลทหารบกและพลทหารกองประจำการ

กรมธรรม์แบบพิทักษ์พลพิเศษ ให้ความคุ้มครองข้าราชการและลูกจ้างที่ปฏิบัติหน้าที่ในยามปกติ รวมถึงคุ้มครองกรณีปฏิบัติภารกิจการใช้อากาศยาน จะได้รับความคุ้มครองเป็น 2 เท่า

นอกจากนี้ ให้ความคุ้มครองแก่นักบินและกำลังพลที่อยู่ในแผนป้องกันประเทศ หรือเป็นผู้ได้รับเงินค่าฝ่าอันตราย กำลังพลที่สนับสนุนการปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงกำลังพลที่อยู่ตามพื้นที่เสี่ยงภัยอื่นๆ และขยายความคุ้มครองกำลังพลของกองทัพเรือ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนใต้ จังหวัดจันทบุรีและตราด และหน่วยเฉพาะกิจที่ปฏิบัติหน้าที่ตามพื้นที่ชายแดน รวมถึงกำลังพลของกองบัญชาการกองทัพไทยที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนใต้ และกำลังพลของหน่วยงานสังกัดกระทรวงกลาโหม

ไชย ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยประกันชีวิต กล่าวสรุปว่า “การรับประกันชีวิตทหาร ถือเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม โดยบริษัทฯ มิได้แสวงหากำไร หากปีใดมีการจ่ายสินไหมทดแทนต่ำกว่าเบี้ยประกันรับ บริษัทฯ จะคืนเงินส่วนเกินแก่กองทัพบกเพื่อนำไปใช้เป็นสวัสดิการต่อไป สอดคล้องกับพันธกิจของบริษัทฯ ในการเป็นองค์กรที่ดีของสังคมไทย”

ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้จ่ายสินไหมทดแทนแก่ทหารที่บาดเจ็บและเสียชีวิตรวมกว่า 16,700 นาย คิดเป็นเงินสินไหมทดแทนรวมกว่า 1,069 ล้านบาท

ข้อคิด...

ในแง่ CSR-in-process ไทยประกันชีวิตใช้ความเชี่ยวชาญในการบริหารธุรกิจการประกันชีวิตกล้ารับประกันชีวิตทหารเป็นแห่งเดียวของโลก

ที่นับว่า “ใจถึง พึ่งได้” ก็คือ ไม่ใช่แค่บริหารเบี้ยประกันที่รับจากกองทัพ กับการจ่ายคืนสินไหมทดแทนแก่กำลังพลที่เสียชีวิตแต่ละปี โดยไม่มุ่งทำกำไรจากธุรกรรมนี้ ก็คือ ถ้าปีใดจ่ายสินไหมน้อยกว่าเบี้ยประกันที่รับ ก็ส่งเงินคืนให้กองทัพเอาไปใช้เป็นสวัสดิการ แต่ถ้าต้องจ่ายเกินกว่าเบี้ยประกันที่รับ ไทยประกันก็ยอมรับภาระเอง ซึ่ง 4-5 ปีที่ผ่านมา ก็เป็นการจ่ายมากกว่ารับ

แต่โครงการล่าสุดที่สนับสนุนกำลังพลที่บาดเจ็บจนพิการและถูกปลดประจำการ ก็เป็นบทบาท CSR-after-process เป็นกิจกรรมส่งเสริมสังคมด้วยการสนับสนุนเงินทุนเพื่อช่วยให้กำลังพลปลดพิการหรือครอบครัวประกอบธุรกิจช่วยตัวเองแบบยั่งยืนได้

ขอบคุณ... https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9610000089421

ที่มา: mgronline.com /มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 6 ก.ย.61
วันที่โพสต์: 7/09/2561 เวลา 10:55:52 ดูภาพสไลด์โชว์ CSR ไทยประกันชีวิต ดูแลกำลังพลจนปลดพิการ /ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล