ตร.โชว์บัตรผู้ป่วย ยันป้าเสื้อฟ้ามีอาการทางจิต รักษาตัวนานกว่า 10 ปี เตือนสติปชช.อย่าวู่วาม

แสดงความคิดเห็น

ส.ต.ท.ชินกร สมละออ ผบ.หมู่จร.สน.นางเลิ้ง

จากกรณีบนโลกสังคมออนไลน์มีการแชร์คลิปวีดีโอความยาวประมาณ 3.18 นาที โดยปรากฏภาพขณะที่กลุ่มผู้ใช้บริการบนรถประจำทางร่วมกันตะโกนด่าทอผู้หญิงวัยกลางคน สวมชุดกระโปรงลาย สีฟ้า เนื่องจากแสดงวาจาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง พร้อมทั้งถูกเชิญลงมาจากรถก่อนถูกผู้หญิงสวมชุดดำตบเข้าที่ใบหน้าอย่างจัง จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารต้องช่วยกันเข้ามาระงับเหตุเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุร้าย

คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 ต.ค. ส.ต.ท.ชินกร สมละออ ผบ.หมู่จร.สน.นางเลิ้ง เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสัญญาณไฟจราจรอยู่บริเวณแยกสะพานขาว ถ.กรุงเกษม แขวงสี่แยกมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. กระทั่งมีผู้หญิงสวมชุดดำที่ปรากฏในคลิปวีดีโอวิ่งลงมาจากรถประจำทางสาย 53 โดยวิ่งระหว่างเทเวศร์-รอบเมือง ซึ่งจอดติดสัญญาณไฟจราจรอยู่ด้านหน้ากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก่อนมาแจ้งตนว่าให้ไปช่วยนำผู้หญิงวัยกลางคน สวมชุดกระโปรงลายสีฟ้า ลงมาจากรถประจำทางคันดังกล่าวเนื่องจากใช้วาจาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง

จากนั้น ตนจึงตัดสินใจรีบเดินขึ้นไปพบตัวพร้อมทั้งสอบถามกลุ่มผู้ใช้บริการว่ามีหลักฐานมาแสดงยืนยันหรือไม่ แต่กลับได้รับคำตอบว่าขณะนั้นไม่มีผู้ใดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ ตนจึงพาตัวผู้ที่ถูกกล่าวถึงลงมาด้านล่างเพื่อทำการสอบถามถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งระหว่างพาผู้หญิงวัยกลางคนเดินอยู่บริเวณบาทวิถี จู่ๆผู้หญิงสวมชุดดำที่วิ่งไปแจ้งตนกลับเกิดบันดาลโทสะใช้มือตบที่ใบหน้าของคู่กรณีเข้าอย่างจัง โดยมีเสียงของกลุ่มประชาชนพากันด่าทอสาปแช่งไปต่างๆนานา จากนั้นตนจึงรีบแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดร.1 พัน.1 รอ. ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ ดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่บริเวณแยกสะพานขาวให้เข้ามาช่วยระงับเหตุเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงก่อนประสานให้ร.ต.ท.วีระยุทธ ศรีสุพัฒน์ รอง สว.(สอบสวน) สน.นางเลิ้ง นำตัวคู่กรณีไปสอบสวนเพิ่มเติม

ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่สน.นางเลิ้ง ร.ต.ท.วีระยุทธ กล่าวว่า ภายหลังจากเกิดเหตุตนได้เชิญตัวทั้งสองฝ่ายรวมทั้งญาติผู้ได้รับบาดเจ็บมาสอบสวนถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นเพิ่มเติมซึ่งจากสอบถามญาติให้การว่า ผู้ที่ถูกทำร้ายร่างกายคือน.ส.เอ(นามสมมติ) อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยอาการทางจิตเนื่องจากมีผลกระทบมาจากประสบปัญหาด้านธุรกิจล้มละลายซึ่งอยู่ระหว่างการรักษาตัว โดยปกตินั้นจะมีอาการเพ้อให้ร้ายผู้อื่นและส่งเสียงดังอยู่ตลอดเวลาและมักจะหนีออกจากบ้านอยู่เป็นประจำ ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมาทางญาติได้นำมารดาที่ป่วยเป็นอัมพาตไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลจึงต้องปล่อยให้น.ส.เอ อยู่บ้านเพียงลำพังก่อนจะหนีออกไปอีกครั้งจนเกิดเรื่องตามในคลิปวีดีโอที่ปรากฏดังกล่าว ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่จึงประสานให้ญาตินำหลักฐานเรื่องการรักษาตัวมาแสดงเพื่อยืนยันจนทราบว่าน.ส.เอ เป็นผู้ป่วยอาการทางจิตซึ่งอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา

จากนั้น จึงนำตัวผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลพร้อมทั้งทำหนังสือไปยื่นต่อแพทย์เพื่อให้ช่วยตรวจสอบข้อมูลก่อนพบว่า น.ส.เอ เป็นผู้ป่วยจริงเข้ารับการรักษามานานกว่า 10 ปี โดยทุกๆ 2-3 เดือน จะต้องเดินทางเข้ามาพบแพทย์และรับยากลับไปรับประทาน แต่เมื่อ 5 วัน ที่ผ่านมา ไม่ได้มาตามที่แพทย์นัดไว้จนส่งผลให้เกิดอาการกำเริบดังกล่าว นอกจากนี้จากการสอบสวนน.ส.บี อายุ 35 ปี ผู้ลงมือก่อเหตุ ให้การว่า โดยก่อนเกิดเหตุพบคู่กรณีนั่งอยู่บนรถประจำทาง ซึ่งพูดจาหมิ่นสถาบันเบื้องสูงมาตั้งแต่ถนนเยาวราชจนกระทั่งมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุจนทนพฤติกรรมไม่ไหว จึงรีบลงไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณแยกสะพานขาวเข้ามาตรวจสอบจากนั้นได้ตัดสินใจลงมือก่อเหตุดังกล่าว ก่อนที่ตนจะได้รับการประสานให้พาตัวคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาสอบสวนเพิ่มเติมพร้อมทั้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

“อยากฝากเตือนผู้ที่โพสต์หรือแชร์ข้อมูลข่าวสารในโลกสังคมออนไลน์ อย่ารีบร้อนให้ช่วยกันตรวจสอบหรือศึกษาข้อมูลที่แท้จริงให้ดีเสียก่อน เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละสถานการณ์นั้นไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าฝ่ายใดถูกหรือผิดจริงซึ่งอาจเกิดความสูญเสียได้ทุกฝ่าย” ร.ต.ท.วีระยุทธ กล่าว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ขอบคุณ... https://www.khaosod.co.th/featured/news_59373

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 18 ต.ค.59
วันที่โพสต์: 19/10/2559 เวลา 10:43:22 ดูภาพสไลด์โชว์ ตร.โชว์บัตรผู้ป่วย ยันป้าเสื้อฟ้ามีอาการทางจิต รักษาตัวนานกว่า 10 ปี เตือนสติปชช.อย่าวู่วาม

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ส.ต.ท.ชินกร สมละออ ผบ.หมู่จร.สน.นางเลิ้ง จากกรณีบนโลกสังคมออนไลน์มีการแชร์คลิปวีดีโอความยาวประมาณ 3.18 นาที โดยปรากฏภาพขณะที่กลุ่มผู้ใช้บริการบนรถประจำทางร่วมกันตะโกนด่าทอผู้หญิงวัยกลางคน สวมชุดกระโปรงลาย สีฟ้า เนื่องจากแสดงวาจาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง พร้อมทั้งถูกเชิญลงมาจากรถก่อนถูกผู้หญิงสวมชุดดำตบเข้าที่ใบหน้าอย่างจัง จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารต้องช่วยกันเข้ามาระงับเหตุเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุร้าย คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 ต.ค. ส.ต.ท.ชินกร สมละออ ผบ.หมู่จร.สน.นางเลิ้ง เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสัญญาณไฟจราจรอยู่บริเวณแยกสะพานขาว ถ.กรุงเกษม แขวงสี่แยกมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. กระทั่งมีผู้หญิงสวมชุดดำที่ปรากฏในคลิปวีดีโอวิ่งลงมาจากรถประจำทางสาย 53 โดยวิ่งระหว่างเทเวศร์-รอบเมือง ซึ่งจอดติดสัญญาณไฟจราจรอยู่ด้านหน้ากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก่อนมาแจ้งตนว่าให้ไปช่วยนำผู้หญิงวัยกลางคน สวมชุดกระโปรงลายสีฟ้า ลงมาจากรถประจำทางคันดังกล่าวเนื่องจากใช้วาจาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง จากนั้น ตนจึงตัดสินใจรีบเดินขึ้นไปพบตัวพร้อมทั้งสอบถามกลุ่มผู้ใช้บริการว่ามีหลักฐานมาแสดงยืนยันหรือไม่ แต่กลับได้รับคำตอบว่าขณะนั้นไม่มีผู้ใดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ ตนจึงพาตัวผู้ที่ถูกกล่าวถึงลงมาด้านล่างเพื่อทำการสอบถามถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งระหว่างพาผู้หญิงวัยกลางคนเดินอยู่บริเวณบาทวิถี จู่ๆผู้หญิงสวมชุดดำที่วิ่งไปแจ้งตนกลับเกิดบันดาลโทสะใช้มือตบที่ใบหน้าของคู่กรณีเข้าอย่างจัง โดยมีเสียงของกลุ่มประชาชนพากันด่าทอสาปแช่งไปต่างๆนานา จากนั้นตนจึงรีบแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดร.1 พัน.1 รอ. ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ ดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่บริเวณแยกสะพานขาวให้เข้ามาช่วยระงับเหตุเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงก่อนประสานให้ร.ต.ท.วีระยุทธ ศรีสุพัฒน์ รอง สว.(สอบสวน) สน.นางเลิ้ง นำตัวคู่กรณีไปสอบสวนเพิ่มเติม ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่สน.นางเลิ้ง ร.ต.ท.วีระยุทธ กล่าวว่า ภายหลังจากเกิดเหตุตนได้เชิญตัวทั้งสองฝ่ายรวมทั้งญาติผู้ได้รับบาดเจ็บมาสอบสวนถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นเพิ่มเติมซึ่งจากสอบถามญาติให้การว่า ผู้ที่ถูกทำร้ายร่างกายคือน.ส.เอ(นามสมมติ) อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยอาการทางจิตเนื่องจากมีผลกระทบมาจากประสบปัญหาด้านธุรกิจล้มละลายซึ่งอยู่ระหว่างการรักษาตัว โดยปกตินั้นจะมีอาการเพ้อให้ร้ายผู้อื่นและส่งเสียงดังอยู่ตลอดเวลาและมักจะหนีออกจากบ้านอยู่เป็นประจำ ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมาทางญาติได้นำมารดาที่ป่วยเป็นอัมพาตไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลจึงต้องปล่อยให้น.ส.เอ อยู่บ้านเพียงลำพังก่อนจะหนีออกไปอีกครั้งจนเกิดเรื่องตามในคลิปวีดีโอที่ปรากฏดังกล่าว ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่จึงประสานให้ญาตินำหลักฐานเรื่องการรักษาตัวมาแสดงเพื่อยืนยันจนทราบว่าน.ส.เอ เป็นผู้ป่วยอาการทางจิตซึ่งอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา จากนั้น จึงนำตัวผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลพร้อมทั้งทำหนังสือไปยื่นต่อแพทย์เพื่อให้ช่วยตรวจสอบข้อมูลก่อนพบว่า น.ส.เอ เป็นผู้ป่วยจริงเข้ารับการรักษามานานกว่า 10 ปี โดยทุกๆ 2-3 เดือน จะต้องเดินทางเข้ามาพบแพทย์และรับยากลับไปรับประทาน แต่เมื่อ 5 วัน ที่ผ่านมา ไม่ได้มาตามที่แพทย์นัดไว้จนส่งผลให้เกิดอาการกำเริบดังกล่าว นอกจากนี้จากการสอบสวนน.ส.บี อายุ 35 ปี ผู้ลงมือก่อเหตุ ให้การว่า โดยก่อนเกิดเหตุพบคู่กรณีนั่งอยู่บนรถประจำทาง ซึ่งพูดจาหมิ่นสถาบันเบื้องสูงมาตั้งแต่ถนนเยาวราชจนกระทั่งมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุจนทนพฤติกรรมไม่ไหว จึงรีบลงไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณแยกสะพานขาวเข้ามาตรวจสอบจากนั้นได้ตัดสินใจลงมือก่อเหตุดังกล่าว ก่อนที่ตนจะได้รับการประสานให้พาตัวคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาสอบสวนเพิ่มเติมพร้อมทั้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน “อยากฝากเตือนผู้ที่โพสต์หรือแชร์ข้อมูลข่าวสารในโลกสังคมออนไลน์ อย่ารีบร้อนให้ช่วยกันตรวจสอบหรือศึกษาข้อมูลที่แท้จริงให้ดีเสียก่อน เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละสถานการณ์นั้นไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าฝ่ายใดถูกหรือผิดจริงซึ่งอาจเกิดความสูญเสียได้ทุกฝ่าย” ร.ต.ท.วีระยุทธ กล่าว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ขอบคุณ... https://www.khaosod.co.th/featured/news_59373

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...