แห่ช่วย'ตาแพน' ทำเงินเบี้ยผู้สูงอายุคนพิการหล่นหาย

แสดงความคิดเห็น

คุณตาแพน แผ้วพลสง อายุ 72 ปี กำลังนั่งกินข้าวพร้อมภรรยาและหลานสาว

คนไทยไม่ทิ้งกัน! แห่ช่วย "ตาแพน" ทำเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเบี้ยคนพิการ 1.5 หมื่นบาทหล่นหาย ยังไม่ได้คืน

(5 ต.ค.59) ความคืบหน้ากรณีที่มีการนำเสนอข่าวเรื่องราว ของคุณตาแพน แผ้วพลสง อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 ม.8 ต.สะแกซำ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ทำกระเป๋าสตางค์ที่มีเงินสดอยู่กว่า 15,000 บาท ซึ่งคุณตาเก็บสะสมจากเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทั้งของตนเอง และภรรยารวมถึงเบี้ยคนพิการของหลานสาว และเงินที่ลูกชายส่งมาเป็นค่าเล่าเรียน พร้อมบัตรประจำประชาชนของตนเองและภรรยาหล่นหายโดยไม่รู้ตัว ขณะพา ด.ญ.อริสา แผ้วพลสง หรือน้องแพม วัย 6 ขวบ หลานสาวซึ่งพิการเป็นเด็กพิเศษ ดาวซินโดรม พูดไม่ได้มาตั้งแต่กำเนิด ไปทำเรื่องต่ออายุบัตรคนพิการที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ชาวสังคมออนไลน์ก็ได้มีการแชร์ต่ออย่างแพร่หลาย พร้อมเข้ามาแสดงความเห็นส่วนใหญ่ต่างเห็นใจและสงสารคุณตา ทั้งได้มีผู้ใจบุญติดต่อผ่านโลกโซเชียล ต้องการจะช่วยเหลือคุณตาแพน เป็นจำนวนมากด้วย

ล่าสุดผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังบ้านของคุณตา โดยพบว่าสภาพบ้านของคุณตาที่อาศัยเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นยกพื้นสูง หลังคามุงด้วยสังกะสีเก่า ฝาบ้านล้อมด้วยสังกะสี และไม้เก่าผุพังทรุดโทรมเป็นรู หน้าฝนน้ำรั่วตามรูหลังคาและสาดเข้าตามรูฝาบ้าน ปัจจุบันคุณตาแพน

อาศัยอยู่กับนางเสงี่ยม เรืองรัมย์ อายุ 67 ปี ภรรยา และ ด.ญ.อริสา หลานสาวพิการ เพียง 3 คน เนื่องจากลูกก็แยกย้ายไปอยู่กับครอบครัว ส่วนพ่อแม่ของน้องแพม ก็ไปทำงานรับจ้างที่ จ.ชลบุรี ส่งเงินมาเป็นค่าเล่าเรียนเดือนละ 3,000 บาท และนานๆ จะกลับมาเยี่ยมบ้านสักครั้ง

ผู้สื่อข่าวพบตา ยาย และหลานกำลังนั่งกินข้าวกับทอดปูปลา และไข่ต้ม ตามอัตภาพ ท่ามกลางเพื่อนบ้านที่มาสอบถามและให้กำลังใจ เพราะเงินที่คุณตา ทำหล่นหายเป็นเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 700 บาท และเบี้ยคนพิการทั้งของตนเอง ภรรยา และหลานสาว เดือนละ 800 บาท ที่เก็บสะสมไว้เพียงก้อนเดียวที่ใช้เลี้ยงหลาน ตัวเองและภรรยา ทั้งไว้ใช้ในยามจำเป็นด้วย

จากการสอบถามคุณตาแพน บอกว่า หลังทำเงินหล่นหายโดยไม่รู้ตัวกลับมาถึงบ้านก็เครียดนอนไม่หลับ เพราะนอกจากจะไม่มีเงินเก็บไว้ดูแลครอบครัวแล้ว ยังตั้งใจว่าเงินบางส่วนที่เก็บไว้จะเจียดไปซ่อมฝาบ้านที่ผุพังเป็นรู เพื่อป้องกันลมหนาวที่ใกล้จะมาเยือน เพราะเป็นห่วงกลัวหลานจะหนาว จึงอยากวอนให้ผู้ที่เก็บได้นำมาส่งคืนด้วย พร้อมทั้งขอบคุณผู้ที่มาให้กำลังใจทั้งที่บ้าน และผ่านโลกโซเชียลต่างๆด้วย รวมถึงขอขอบคุณล่วงหน้าผู้ใจบุญที่ติดต่อมาจะบริจาคช่วยเหลือด้วย แม้ตอนนี้จะยังไม่มีใครบริจาคมาก็ตามในน้ำใจ ซึ่งหากมีผู้บริจาคช่วยเหลือเบื้องต้นก็จะนำมาซ่อมบ้านก่อน ที่เหลือก็เก็บไว้ในบัญชีเพื่อใช้จ่ายเลี้ยงดูหลาน ตัวเอง และภรรยาที่แก่ชราแล้ว

พ.ต.อ.บัณฑิต อ่อนสาคร ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ ร.ต.ท.สุระ ศรีจินดา พนักงานสอบสวน สภ.เมือง พร้อม ด.ต.พิทยาวุฒิ จันทร์ประโคน สายตรวจตำบลสะแกซำ ให้เข้าไปสอบถามข้อมูล และดูแลเรื่องการบริจาคเงินช่วยเหลือเพื่อป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจจะแอบอ้างหรือสวมรอยสร้างความเดือดร้อนเสียหายซ้ำเติมตา ยาย และหลาน อย่างใกล้ชิดด้วย ส่วนเรื่องเงินของคุณตาที่หล่นหายนั้น ทางตำรวจก็จะได้ช่วยติดตามและประชาสัมพันธ์ หากมีผู้พบเห็นก็ให้นำมาคืนให้กับคุณตา ด้วย หากผู้ใจบุญ หรือผู้มีจิตศรัทธาต้องการจะช่วยเหลือ ตา ยาย และหลาน ก็สามารถบริจาคได้ที่ ชื่อบัญชี นายแพน แผ้วพลสง หมายเลขบัญชี 040-2-68475-9 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาบุรีรัมย์ ได้

ขอบคุณ... http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/721411 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: bangkokbiznews.comออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 6 ต.ค.59
วันที่โพสต์: 6/10/2559 เวลา 13:30:38 ดูภาพสไลด์โชว์ แห่ช่วย'ตาแพน' ทำเงินเบี้ยผู้สูงอายุคนพิการหล่นหาย

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

คุณตาแพน แผ้วพลสง อายุ 72 ปี กำลังนั่งกินข้าวพร้อมภรรยาและหลานสาว คนไทยไม่ทิ้งกัน! แห่ช่วย "ตาแพน" ทำเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเบี้ยคนพิการ 1.5 หมื่นบาทหล่นหาย ยังไม่ได้คืน (5 ต.ค.59) ความคืบหน้ากรณีที่มีการนำเสนอข่าวเรื่องราว ของคุณตาแพน แผ้วพลสง อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 ม.8 ต.สะแกซำ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ทำกระเป๋าสตางค์ที่มีเงินสดอยู่กว่า 15,000 บาท ซึ่งคุณตาเก็บสะสมจากเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทั้งของตนเอง และภรรยารวมถึงเบี้ยคนพิการของหลานสาว และเงินที่ลูกชายส่งมาเป็นค่าเล่าเรียน พร้อมบัตรประจำประชาชนของตนเองและภรรยาหล่นหายโดยไม่รู้ตัว ขณะพา ด.ญ.อริสา แผ้วพลสง หรือน้องแพม วัย 6 ขวบ หลานสาวซึ่งพิการเป็นเด็กพิเศษ ดาวซินโดรม พูดไม่ได้มาตั้งแต่กำเนิด ไปทำเรื่องต่ออายุบัตรคนพิการที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ชาวสังคมออนไลน์ก็ได้มีการแชร์ต่ออย่างแพร่หลาย พร้อมเข้ามาแสดงความเห็นส่วนใหญ่ต่างเห็นใจและสงสารคุณตา ทั้งได้มีผู้ใจบุญติดต่อผ่านโลกโซเชียล ต้องการจะช่วยเหลือคุณตาแพน เป็นจำนวนมากด้วย ล่าสุดผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังบ้านของคุณตา โดยพบว่าสภาพบ้านของคุณตาที่อาศัยเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นยกพื้นสูง หลังคามุงด้วยสังกะสีเก่า ฝาบ้านล้อมด้วยสังกะสี และไม้เก่าผุพังทรุดโทรมเป็นรู หน้าฝนน้ำรั่วตามรูหลังคาและสาดเข้าตามรูฝาบ้าน ปัจจุบันคุณตาแพน อาศัยอยู่กับนางเสงี่ยม เรืองรัมย์ อายุ 67 ปี ภรรยา และ ด.ญ.อริสา หลานสาวพิการ เพียง 3 คน เนื่องจากลูกก็แยกย้ายไปอยู่กับครอบครัว ส่วนพ่อแม่ของน้องแพม ก็ไปทำงานรับจ้างที่ จ.ชลบุรี ส่งเงินมาเป็นค่าเล่าเรียนเดือนละ 3,000 บาท และนานๆ จะกลับมาเยี่ยมบ้านสักครั้ง ผู้สื่อข่าวพบตา ยาย และหลานกำลังนั่งกินข้าวกับทอดปูปลา และไข่ต้ม ตามอัตภาพ ท่ามกลางเพื่อนบ้านที่มาสอบถามและให้กำลังใจ เพราะเงินที่คุณตา ทำหล่นหายเป็นเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 700 บาท และเบี้ยคนพิการทั้งของตนเอง ภรรยา และหลานสาว เดือนละ 800 บาท ที่เก็บสะสมไว้เพียงก้อนเดียวที่ใช้เลี้ยงหลาน ตัวเองและภรรยา ทั้งไว้ใช้ในยามจำเป็นด้วย จากการสอบถามคุณตาแพน บอกว่า หลังทำเงินหล่นหายโดยไม่รู้ตัวกลับมาถึงบ้านก็เครียดนอนไม่หลับ เพราะนอกจากจะไม่มีเงินเก็บไว้ดูแลครอบครัวแล้ว ยังตั้งใจว่าเงินบางส่วนที่เก็บไว้จะเจียดไปซ่อมฝาบ้านที่ผุพังเป็นรู เพื่อป้องกันลมหนาวที่ใกล้จะมาเยือน เพราะเป็นห่วงกลัวหลานจะหนาว จึงอยากวอนให้ผู้ที่เก็บได้นำมาส่งคืนด้วย พร้อมทั้งขอบคุณผู้ที่มาให้กำลังใจทั้งที่บ้าน และผ่านโลกโซเชียลต่างๆด้วย รวมถึงขอขอบคุณล่วงหน้าผู้ใจบุญที่ติดต่อมาจะบริจาคช่วยเหลือด้วย แม้ตอนนี้จะยังไม่มีใครบริจาคมาก็ตามในน้ำใจ ซึ่งหากมีผู้บริจาคช่วยเหลือเบื้องต้นก็จะนำมาซ่อมบ้านก่อน ที่เหลือก็เก็บไว้ในบัญชีเพื่อใช้จ่ายเลี้ยงดูหลาน ตัวเอง และภรรยาที่แก่ชราแล้ว พ.ต.อ.บัณฑิต อ่อนสาคร ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ ร.ต.ท.สุระ ศรีจินดา พนักงานสอบสวน สภ.เมือง พร้อม ด.ต.พิทยาวุฒิ จันทร์ประโคน สายตรวจตำบลสะแกซำ ให้เข้าไปสอบถามข้อมูล และดูแลเรื่องการบริจาคเงินช่วยเหลือเพื่อป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจจะแอบอ้างหรือสวมรอยสร้างความเดือดร้อนเสียหายซ้ำเติมตา ยาย และหลาน อย่างใกล้ชิดด้วย ส่วนเรื่องเงินของคุณตาที่หล่นหายนั้น ทางตำรวจก็จะได้ช่วยติดตามและประชาสัมพันธ์ หากมีผู้พบเห็นก็ให้นำมาคืนให้กับคุณตา ด้วย หากผู้ใจบุญ หรือผู้มีจิตศรัทธาต้องการจะช่วยเหลือ ตา ยาย และหลาน ก็สามารถบริจาคได้ที่ ชื่อบัญชี นายแพน แผ้วพลสง หมายเลขบัญชี 040-2-68475-9 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาบุรีรัมย์ ได้ ขอบคุณ... http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/721411

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...