ตำรวจญี่ปุ่นสืบการตาย 48 รายที่โรงพยาบาล หลังพบสารพิษในยาหยดเข้าเส้นเลือด

แสดงความคิดเห็น

ถุงน้ำเกลือในโรงพยาบาล

เอเจนซีส์ - ตำรวจในญี่ปุ่นกำลังสืบสวนการตายที่น่าสงสัยของผู้สูงอายุ 48 รายในโรงพยาบาลเดียวกัน หลังจากมีการชันสูตรไป 2 รายแล้วพบว่าทั้งคู่ได้รับสารพิษ ซึ่งเป็นสารเคมีอันตรายที่พบในยาฆ่าเชื้อเจือปนในยาหยดเข้าสู่เส้นเลือด

การสืบสวนคดีฆาตกรรมนี้ ตอนแรกมุ่งเน้นไปที่ชาย 2 ราย ซึ่งเสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกัน เมื่อช่วงกลางเดือนที่แล้ว ทั้งคู่ได้รับสารพิษ โดยพบรูเล็กๆ จากการบริหารยาเข้าสู่เส้นเลือดผู้เสียชีวิต จากการรายงานของสำนักข่าวเกียวโด การสืบสวนได้ขยายวงมากขึ้นไปสู่ผู้เสียชีวิตอีก 46 รายก่อนหน้านั้น ที่ตายกันตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม พวกเขาทั้งหมดได้รับการดูแลรักษาในชั้นเดียวกันของโรงพยาบาลโองาซึ เมืองโยโกฮามา เช่นเดียวกับ2รายที่ถูกฆาตกรรม

นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังมีการพบรอยเจาะที่ถุงหยดยาเข้าเส้นเลือดที่ยังไม่ได้ใช้ 10 ถุง จากที่มีทั้งหมดประมาณ 50 ถุง ซึ่งถูกเก็บไว้ใกล้กับห้องทำงานของพยาบาลบนชั้นเดียวกัน ตำรวจยังไม่ได้ระบุตัวผู้ต้องสงสัยหรือแรงจูงใจ แต่ในวันจันทร์ (3 ต.ค.) สำนักข่าวเกียวโดได้อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการสืบสวน โดยระบุว่าผู้เสียชีวิต 2 รายหลังดูเหมือนจะถูกทำให้เสียชีวิตโดยใครสักคนที่มีความเชี่ยวชาญทางการแพทย์และมีความเกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลแห่งนี้

“โนบุโอะ ยามากิ” กับ “โซโซ นิชิคาวะ” อายุ 88 ปีทั้งคู่ พวกเขาเสียชีวิตในช่วงวันหยุด 3 วัน กลางเดือนกันยายน ซึ่งตอนนั้นทางโรงพยาบาลขนาด 85 เตียงแห่งนี้กำลังมีบุคลากรทำงานกันน้อย โดยทางโรงพยาบาลระบุว่าประตูทางเข้าถูกล็อคและตัวอาคารก็มียามเฝ้าตลอดคืน

ผลชันสูตรตรวจสอบการตายของยามากิและนิชิคาวะพบว่าพวกเขาได้รับสารพิษ ซึ่งเป็นสารเคมีที่ใช้ในยาฆ่าเชื้อ แบบที่พบในห้องทำงานของพยาบาล บุคลากรของโรงพยาบาลนั้นพบกับความล่าช้าในการหาความเชื่อมโยงระหว่างผู้เสียชีวิตอีก46รายเพราะที่นั่นต้องดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม มีการระบุว่าอาการปอดบวมหรือการติดเชื้อจากในโรงพยาบาลได้ถูกตัดออกไปจากสาเหตุของการเสียชีวิตจำนวนมากแบบผิดปกติครั้งนี้ “เราเห็นคนมากมายตายจากไป ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาของโรงพยาบาลนี้ แต่ก็รู้สึกตะขิดตะขวงใจอยู่บ้างที่จำนวนผู้เสียชีวิตมันเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อย” เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลรายหนึ่งกล่าว

ตำรวจยอมรับว่าพวกเขาคงไม่อาจกำหนดสาเหตุการตายได้ในทุกราย เพราะมีหลายรายที่ศพถูกเผาไปแล้วเมื่อ 2 เดือนก่อน เคยเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ เมื่ออดีตคนงานดูแลผู้พิการ “ซาโตชิ อูเอมัตซึ” ได้ทำการสังหารคนไป 19 ราย ทำให้บาดเจ็บอีก 27 ราย ที่ศูนย์ดูแลผู้พิการแห่งหนึ่ง ถือเป็นการสังหารหมู่ครั้งเลวร้ายที่สุดในญี่ปุ่นนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่2

ก่อนหน้านั้น อูเอมัตซึ ได้เคยเขียนจดหมายไปหาประธานสภาผู้แทนราษฎรของญี่ปุ่น เรียกร้องให้รัฐบาลอนุญาตให้มีการทำการุณยฆาต (ทำให้ตายอย่างสงบ) ต่อผู้พิการ หลังถูกจับ อูเอมัตซึได้บอกกับตำรวจว่า มันคงจะดีกว่าถ้าผู้พิการเหล่านี้หายไป

ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000099529 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: manager.co.thออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 3 ต.ค.59
วันที่โพสต์: 4/10/2559 เวลา 10:33:10 ดูภาพสไลด์โชว์ ตำรวจญี่ปุ่นสืบการตาย 48 รายที่โรงพยาบาล หลังพบสารพิษในยาหยดเข้าเส้นเลือด

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ถุงน้ำเกลือในโรงพยาบาล เอเจนซีส์ - ตำรวจในญี่ปุ่นกำลังสืบสวนการตายที่น่าสงสัยของผู้สูงอายุ 48 รายในโรงพยาบาลเดียวกัน หลังจากมีการชันสูตรไป 2 รายแล้วพบว่าทั้งคู่ได้รับสารพิษ ซึ่งเป็นสารเคมีอันตรายที่พบในยาฆ่าเชื้อเจือปนในยาหยดเข้าสู่เส้นเลือด การสืบสวนคดีฆาตกรรมนี้ ตอนแรกมุ่งเน้นไปที่ชาย 2 ราย ซึ่งเสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกัน เมื่อช่วงกลางเดือนที่แล้ว ทั้งคู่ได้รับสารพิษ โดยพบรูเล็กๆ จากการบริหารยาเข้าสู่เส้นเลือดผู้เสียชีวิต จากการรายงานของสำนักข่าวเกียวโด การสืบสวนได้ขยายวงมากขึ้นไปสู่ผู้เสียชีวิตอีก 46 รายก่อนหน้านั้น ที่ตายกันตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม พวกเขาทั้งหมดได้รับการดูแลรักษาในชั้นเดียวกันของโรงพยาบาลโองาซึ เมืองโยโกฮามา เช่นเดียวกับ2รายที่ถูกฆาตกรรม นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังมีการพบรอยเจาะที่ถุงหยดยาเข้าเส้นเลือดที่ยังไม่ได้ใช้ 10 ถุง จากที่มีทั้งหมดประมาณ 50 ถุง ซึ่งถูกเก็บไว้ใกล้กับห้องทำงานของพยาบาลบนชั้นเดียวกัน ตำรวจยังไม่ได้ระบุตัวผู้ต้องสงสัยหรือแรงจูงใจ แต่ในวันจันทร์ (3 ต.ค.) สำนักข่าวเกียวโดได้อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการสืบสวน โดยระบุว่าผู้เสียชีวิต 2 รายหลังดูเหมือนจะถูกทำให้เสียชีวิตโดยใครสักคนที่มีความเชี่ยวชาญทางการแพทย์และมีความเกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลแห่งนี้ “โนบุโอะ ยามากิ” กับ “โซโซ นิชิคาวะ” อายุ 88 ปีทั้งคู่ พวกเขาเสียชีวิตในช่วงวันหยุด 3 วัน กลางเดือนกันยายน ซึ่งตอนนั้นทางโรงพยาบาลขนาด 85 เตียงแห่งนี้กำลังมีบุคลากรทำงานกันน้อย โดยทางโรงพยาบาลระบุว่าประตูทางเข้าถูกล็อคและตัวอาคารก็มียามเฝ้าตลอดคืน ผลชันสูตรตรวจสอบการตายของยามากิและนิชิคาวะพบว่าพวกเขาได้รับสารพิษ ซึ่งเป็นสารเคมีที่ใช้ในยาฆ่าเชื้อ แบบที่พบในห้องทำงานของพยาบาล บุคลากรของโรงพยาบาลนั้นพบกับความล่าช้าในการหาความเชื่อมโยงระหว่างผู้เสียชีวิตอีก46รายเพราะที่นั่นต้องดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม มีการระบุว่าอาการปอดบวมหรือการติดเชื้อจากในโรงพยาบาลได้ถูกตัดออกไปจากสาเหตุของการเสียชีวิตจำนวนมากแบบผิดปกติครั้งนี้ “เราเห็นคนมากมายตายจากไป ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาของโรงพยาบาลนี้ แต่ก็รู้สึกตะขิดตะขวงใจอยู่บ้างที่จำนวนผู้เสียชีวิตมันเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อย” เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลรายหนึ่งกล่าว ตำรวจยอมรับว่าพวกเขาคงไม่อาจกำหนดสาเหตุการตายได้ในทุกราย เพราะมีหลายรายที่ศพถูกเผาไปแล้วเมื่อ 2 เดือนก่อน เคยเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ เมื่ออดีตคนงานดูแลผู้พิการ “ซาโตชิ อูเอมัตซึ” ได้ทำการสังหารคนไป 19 ราย ทำให้บาดเจ็บอีก 27 ราย ที่ศูนย์ดูแลผู้พิการแห่งหนึ่ง ถือเป็นการสังหารหมู่ครั้งเลวร้ายที่สุดในญี่ปุ่นนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่2 ก่อนหน้านั้น อูเอมัตซึ ได้เคยเขียนจดหมายไปหาประธานสภาผู้แทนราษฎรของญี่ปุ่น เรียกร้องให้รัฐบาลอนุญาตให้มีการทำการุณยฆาต (ทำให้ตายอย่างสงบ) ต่อผู้พิการ หลังถูกจับ อูเอมัตซึได้บอกกับตำรวจว่า มันคงจะดีกว่าถ้าผู้พิการเหล่านี้หายไป ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000099529

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...