เพลิงไหม้กุฏิแม่ชีวัดอโศการาม สาวพิการถูกไฟคลอกดับ
เพลิงเผาไหม้บ้านพักแม่ชีภายในวัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ สาวพิการถูกไฟคลอกดับคากองเพลิง เมื่อกลางดึกคืนวันที่ (7ก.ย.) ร.ต.อ.ปัญญวัฒน์ คำศรี ร้อยเวร สภ.เมือง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้กุฎิแม่ชีหรือบ้านพักแม่ชี ที่ตั้งอยู่ภายในวัดอโศการาม เลขที่ 9/16 หมู่ 2 ซอย 9 ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง สมุทรปราการ มีผู้เสียชีวิต หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยรถดับเพลิงเทศบาลตำบลบางปู 4 คัน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้นที่ปลูกสร้างใกล้กันอยู่หลายหลังได้พบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านหลังดังกล่าวจนวอดเกือบหมดทั้งหลังและกำลังจะลุกลามไปลุกไหม้บ้านหลังอื่นๆ ที่อยู่ใกล้กันโดยมีพระลูกวัดดังกล่าวพร้อมด้วยแม่ชีและชาวบ้านได้ช่วยกันเอาถังตักน้ำมาสาดเพื่อสกัดเพลิง ก่อนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะช่วยกันฉีดน้ำสกัดเพลิงอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบพบว่าเพลิงได้ลุกไหม้บ้านหลังดังกล่าวจนเหลือเพียงเถ้าถ่าน
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้รับแจ้งจากแม่ชีว่า มีคนที่พักอาศัยอยู่ในบ้านซึ่งพิการหูไม่ได้ยินและเป็นใบ้ ได้สูญหายไปคาดว่าน่าจะถูกไฟคลอกเสียชีวิตในกองเพลิง ชื่อนางลัดดา รวยร่ำ อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจึงได้ระดมกำลังกันค้นหาอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมงจึงได้พบศพของนางลัดดา นอนคว่ำหน้าอยู่ใต้กองซากปลักหักพังของตัวบ้านที่ถล่มลงมาขณะเกิดเหตุไฟลุกไหม้
จากการสอบถามนางสาวณัฐธิดา จงภัทรนิชพันธ์ อายุ 32 ปี ซึ่งมีบ้านพักอยู่ติดกับบ้านที่เกิดเหตุ ได้เล่าว่า นางลัดดา ได้มาพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังที่เกิดเหตุมานานกว่า 20 ปี โดยแรกๆ มาพักอาศัยอยู่กับแม่ชี แต่ด้วยที่ผู้ตายพิการทางหูและเป็นใบ้ เป็นคนพิการและชอบตระเวนเก็บของเก่าประเภทขวดน้ำพลาสติกและอื่น ๆ เอามาไว้ในบ้านเพื่อคัดแยกขาย จนทำให้บ้านเต็มไปด้วยของเก่า แม่ชีทนอยู่ด้วยไม่ไหวจึงได้ย้ายออกไปอยู่กับแม่ชี รูปอื่น และผู้ตายยังได้เลี้ยงสุนัขเอาไว้ 6 ตัว แมว 1 ตัว
วันนี้ก่อนเกิดเหตุในขณะที่ตนกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในบ้านได้กลิ่นควันไฟลอยฟุ้งกระจายเข้ามาในบ้าน ตนจึงวิ่งมาดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่หน้าบ้าน ได้พบเห็นไฟกำลังลุกไหม้บ้านของผู้ตายอย่างรุนแรง ตนจึงวิ่งออกมาก่อนตะโกนเรียนชาวบ้านและแม่ชีที่พักอยู่ในละแวกใกล้เคียงออกมาช่วยกันดับไฟ โดยเพลิงได้ลุกไหม้ขึ้นจากชั้นล่างและประตูทางเข้าบ้านของผู้ตายก็ล๊อกจากด้านใน ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันพังประตูเข้าไปเพื่อที่จะช่วยเหลือผู้ตายออกมา แต่พอประตูเปิดออกเปลวไฟได้พวงพุ่งออกมาอย่างรุนแรง ชาวบ้านและพระลูกวัดรวมทั้งแม่ชีกันช่วยกันเอาถังมาตักน้ำสาดเพื่อสกัดเพลิง แต่สกัดไม่อยู่ตนจึงรีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่
ส่วนสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้น่าจะเกิดจากที่ผู้ตายมักจะก่อเตาถ่านไว้ที่ชั้นล่างอยู่เป็นประจำเพื่อไล่ยุงให้สุนัข คาดว่าวันเกิดเหตุเช่นกันผู้ตายอาจก่อเตาถ่านเอาไว้ที่ชั้นล่างเหมือนเคย และสุนัขอาจจะวิ่งเข้าไปชนจะเตาถ่านล้มทำให้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังสรุปไปว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้เกิดจากอะไรซึ่งจะได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/news/crime/241371 (ขนาดไฟล์: 167)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเหตุเพลิงไหม้ เพลิงเผาไหม้บ้านพักแม่ชีภายในวัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ สาวพิการถูกไฟคลอกดับคากองเพลิง เมื่อกลางดึกคืนวันที่ (7ก.ย.) ร.ต.อ.ปัญญวัฒน์ คำศรี ร้อยเวร สภ.เมือง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้กุฎิแม่ชีหรือบ้านพักแม่ชี ที่ตั้งอยู่ภายในวัดอโศการาม เลขที่ 9/16 หมู่ 2 ซอย 9 ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง สมุทรปราการ มีผู้เสียชีวิต หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยรถดับเพลิงเทศบาลตำบลบางปู 4 คัน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้นที่ปลูกสร้างใกล้กันอยู่หลายหลังได้พบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านหลังดังกล่าวจนวอดเกือบหมดทั้งหลังและกำลังจะลุกลามไปลุกไหม้บ้านหลังอื่นๆ ที่อยู่ใกล้กันโดยมีพระลูกวัดดังกล่าวพร้อมด้วยแม่ชีและชาวบ้านได้ช่วยกันเอาถังตักน้ำมาสาดเพื่อสกัดเพลิง ก่อนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะช่วยกันฉีดน้ำสกัดเพลิงอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบพบว่าเพลิงได้ลุกไหม้บ้านหลังดังกล่าวจนเหลือเพียงเถ้าถ่าน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้รับแจ้งจากแม่ชีว่า มีคนที่พักอาศัยอยู่ในบ้านซึ่งพิการหูไม่ได้ยินและเป็นใบ้ ได้สูญหายไปคาดว่าน่าจะถูกไฟคลอกเสียชีวิตในกองเพลิง ชื่อนางลัดดา รวยร่ำ อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจึงได้ระดมกำลังกันค้นหาอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมงจึงได้พบศพของนางลัดดา นอนคว่ำหน้าอยู่ใต้กองซากปลักหักพังของตัวบ้านที่ถล่มลงมาขณะเกิดเหตุไฟลุกไหม้ จากการสอบถามนางสาวณัฐธิดา จงภัทรนิชพันธ์ อายุ 32 ปี ซึ่งมีบ้านพักอยู่ติดกับบ้านที่เกิดเหตุ ได้เล่าว่า นางลัดดา ได้มาพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังที่เกิดเหตุมานานกว่า 20 ปี โดยแรกๆ มาพักอาศัยอยู่กับแม่ชี แต่ด้วยที่ผู้ตายพิการทางหูและเป็นใบ้ เป็นคนพิการและชอบตระเวนเก็บของเก่าประเภทขวดน้ำพลาสติกและอื่น ๆ เอามาไว้ในบ้านเพื่อคัดแยกขาย จนทำให้บ้านเต็มไปด้วยของเก่า แม่ชีทนอยู่ด้วยไม่ไหวจึงได้ย้ายออกไปอยู่กับแม่ชี รูปอื่น และผู้ตายยังได้เลี้ยงสุนัขเอาไว้ 6 ตัว แมว 1 ตัว วันนี้ก่อนเกิดเหตุในขณะที่ตนกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในบ้านได้กลิ่นควันไฟลอยฟุ้งกระจายเข้ามาในบ้าน ตนจึงวิ่งมาดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่หน้าบ้าน ได้พบเห็นไฟกำลังลุกไหม้บ้านของผู้ตายอย่างรุนแรง ตนจึงวิ่งออกมาก่อนตะโกนเรียนชาวบ้านและแม่ชีที่พักอยู่ในละแวกใกล้เคียงออกมาช่วยกันดับไฟ โดยเพลิงได้ลุกไหม้ขึ้นจากชั้นล่างและประตูทางเข้าบ้านของผู้ตายก็ล๊อกจากด้านใน ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันพังประตูเข้าไปเพื่อที่จะช่วยเหลือผู้ตายออกมา แต่พอประตูเปิดออกเปลวไฟได้พวงพุ่งออกมาอย่างรุนแรง ชาวบ้านและพระลูกวัดรวมทั้งแม่ชีกันช่วยกันเอาถังมาตักน้ำสาดเพื่อสกัดเพลิง แต่สกัดไม่อยู่ตนจึงรีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ ส่วนสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้น่าจะเกิดจากที่ผู้ตายมักจะก่อเตาถ่านไว้ที่ชั้นล่างอยู่เป็นประจำเพื่อไล่ยุงให้สุนัข คาดว่าวันเกิดเหตุเช่นกันผู้ตายอาจก่อเตาถ่านเอาไว้ที่ชั้นล่างเหมือนเคย และสุนัขอาจจะวิ่งเข้าไปชนจะเตาถ่านล้มทำให้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังสรุปไปว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้เกิดจากอะไรซึ่งจะได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/news/crime/241371
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)