แม่ผู้ทรหด เลี้ยงลูกชายพิการ 2 ชีวิต มานาน 26 ปีเต็ม
แม่สู้ชีวิตที่ราชบุรี ต้องดูแลลูกพิการเหมือนกัน 2 คนมา 26 ปี และไม่เคยคิดท้อแท้ต่อชะตาชีวิต นับเป็นแบบอย่างที่ดีของแม่ที่มีต่อลูกๆ
(12 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้พบกับหญิงสู้ชีวิตคนหนึ่ง ที่บ้านเลขที่ 9849 หมู่ 2 ต.พงสวาย อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างโครงการบ้านท้องถิ่นไทยเทิดไท้องค์ราชัน 84 พรรษา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ
ผู้อาศัยคือ นายเอกสิทธิ์ จันทร์สนิท อายุ 53 ปี และ นางบงกช จันทร์สนิท อายุ 45 ปี สองสามีภรรยาที่มีลูก 2 คน ป่วยเป็นโรคลมชักจนพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มาตั้งแต่คลอดได้ปีเศษ ปัจจุบันเด็กทั้ง 2 คนโตเป็นผู้ใหญ่แล้วคนพี่อายุ 26 ปี ส่วนคนน้อง 21 ปี แต่ผู้เป็นพ่อแม่ดูแลตลอดมาไม่เคยทอดทิ้งแม้ว่าลูกจะพิการ
นางบงกช ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า คลอดลูกคนแรกคือ น้องอาม หรือ นายอภิสิทธิ์ จันทร์สนิท ปัจจุบันอายุ 26 ปีแล้ว และ น้องอ๊อฟ หรือ นายณัฐวัฒน์ จันทร์สนิท อายุ 21 ปี ช่วงเพิ่งคลอดก็ยังเป็นคนปกติดีทุกอย่าง แต่พออายุได้ประมาณ 1 ปี 8 เดือน ลูกคนโตเกิดไม่สบาย มีไข้ขึ้นสูง มีอาการชัก ต้องส่งรักษาตัวโรงพยาบาลราชบุรี หมอเจาะดูไขกระดูกสันหลังไปตรวจแพทย์ระบุไม่มีอะไร
ต่อมาอากาศเริ่มชัดขึ้นร่างกายผิดปกติพิการพูดไม่ได้ เดินไม่ได้ 5 ปี ต่อมามีลูกคนที่ 2 ก็มาล้มป่วยตอนอายุได้ประมาณ 1 ปี 8 เดือนอีกครั้ง เกิดอาการชักจนต้องพาเข้าโรงพยาบาล แพทย์ได้ส่งตัวตรวจที่โรงพยาบาลศิริราช พอตรวจเช็คแล้วเสร็จ แพทย์แนะนำให้ตนกับสามีเข้าไปตรวจหาความเชื่อมโยง หลังตรวจแล้วแพทย์ระบุว่ายีนพ่อกับแม่เข้ากันไม่ได้ เพราะยีนพ่อไม่สมบูรณ์ แต่ยีนของแม่ไม่เป็นอะไร และยังบอกว่าถ้ามีลูกอีกก็จะเป็นแบบนี้อีก ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็จะเป็นโรคแบบนี้เหมือนกัน
ตั้งแต่เขาเกิดมาจนล้มป่วยและพิการก็จะดูแลเลี้ยงดูมาตลอด ส่วนสามีมีอาชีพขับรถ และจะให้เงินไว้ใช้จ่ายค่ากับข้าวเลี้ยงดูลูกทุกวัน ตั้งแต่เช้าจะหาข้าวให้ลูกกิน จากนั้นก็จะพาขึ้นหลังนำขึ้นรถเข็นทั้ง 2 คน ซึ่งจะให้นั่งรถเข็นคันเดียวกัน พานั่งไปด้วยกันเพื่อให้ทั้งสองคนได้นั่งรถเล่นไปรอบๆ บ้าน แล้วจึงกลับเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าเช็ดตัวทาแป้งและนอนเล่น บางวันจะไปซื้อกับข้าวนอกบ้านก็ต้องปิดประตูขังลูกเอาไว้ก่อน ต้องรีบไปรีบกลับเพราะห่วงลูก กว่า 20 ปีที่เลี้ยงลูกด้วยความรักและห่วงใยเขาตลอดมา
สำหรับบ้านหลังนี้ทางพี่สาวซึ่งเป็นญาติห่างๆ ได้ทำเรื่องไปที่จังหวัดในโครงการบ้านท้องถิ่นไทย เทิดไท้องค์ราชัน สมัยก่อนเดือดร้อนต้องไปหาบ้านเช่าอยู่ตอนที่ลูก ๆ ยังเล็กอยู่ แต่บ้านในโครงการนี้จะต้องเป็นที่ของเราเอง ไม่อย่างงั้นก็จะไม่สามารถได้สิทธิ์ในโครงการนี้ได้ พอดีมีคนใจบุญที่มีจิตศรัทธาให้เช่าที่ดิน จ่ายค่าเช่าเดือนละ 200 บาท ทางจังหวัดจึงอนุญาตให้สร้างบ้านได้
ทุกวันนี้จะอยู่คอยดูแลป้อนข้าว อาบน้ำ คอยเป็นเพื่อน เปิดเพลงให้ฟัง ตามที่ลูกๆ ชอบ จะชอบดูลิเกเป็นพิเศษ พอเปิดได้ไม่นานก็จะเอานมกล่องให้กินคนละกล่อง ไม่นานก็จะง่วงและหลับไป จากนั้นจึงรีบไปซักเสื้อผ้าและจะมาหาข้าวให้กันอีกครั้ง
สำหรับความเป็นอยู่ขณะนี้แม้จะมีบ้านที่ทางภาครัฐได้จัดสร้างไว้ให้แล้ว แต่ความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน ทั้งค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูแลลูกยังคงอยู่กันอย่างลำบาก โดยลูกๆ 2 คน ต้องใช้แพมเพิสไว้สวมใส่ตลอดเวลาปัสสาวะ อุจจาระ วันละ 6 ชิ้น และนมที่ต้องซื้อให้ลูกกินทุกวัน กับรายได้ที่สามีนั้นมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ทำงานหาเงินมาจุนเจือครอบครัว
สำหรับลูกทั้งสองคนได้รับเบี้ยพิการคนละ 800 บาท รวม 1,600 บาท แต่ก็ยังไม่พอใช้ แม้จะเคยเอางานมาทำที่บ้านแต่ก็ถูกลูกชายรื้อค้นเสียหายจนต้องเลิกทำ ปัจจุบันก็ต้องคอยดูแลลูกชาย แม้เขาจะพิการแต่ก็ยังคงรักและจะคอยดูแลเขาอย่างนี้ให้ดีที่สุด สำหรับสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวันยังต้องการความช่วยเหลือเรื่องค่าอาหาร ค่าผ้าอ้อมที่ต้องใช้ทุกวัน ผู้ที่มีจิตศรัทธาช่วยเหลือได้ที่เบอร์บัญชีธนาคารออมสิน สาขาราชบุรี ชื่อ นางบงกช จันทร์สนิท หมายเลขบัญชีเลขที่ 020096054547
ที่มา: news.sanook.comออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 12 ส.ค.59
วันที่โพสต์: 16/08/2559 เวลา 11:18:04 
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
แม่สู้ชีวิตที่ราชบุรี ต้องดูแลลูกพิการเหมือนกัน 2 คนมา 26 ปี และไม่เคยคิดท้อแท้ต่อชะตาชีวิต นับเป็นแบบอย่างที่ดีของแม่ที่มีต่อลูกๆ (12 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้พบกับหญิงสู้ชีวิตคนหนึ่ง ที่บ้านเลขที่ 9849 หมู่ 2 ต.พงสวาย อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างโครงการบ้านท้องถิ่นไทยเทิดไท้องค์ราชัน 84 พรรษา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ นางบงกช จันทร์สนิท อายุ 45 ปี กำลังเข็นรถให้ลูกชายพิการทั้งสองคน ผู้อาศัยคือ นายเอกสิทธิ์ จันทร์สนิท อายุ 53 ปี และ นางบงกช จันทร์สนิท อายุ 45 ปี สองสามีภรรยาที่มีลูก 2 คน ป่วยเป็นโรคลมชักจนพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มาตั้งแต่คลอดได้ปีเศษ ปัจจุบันเด็กทั้ง 2 คนโตเป็นผู้ใหญ่แล้วคนพี่อายุ 26 ปี ส่วนคนน้อง 21 ปี แต่ผู้เป็นพ่อแม่ดูแลตลอดมาไม่เคยทอดทิ้งแม้ว่าลูกจะพิการ นางบงกช ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า คลอดลูกคนแรกคือ น้องอาม หรือ นายอภิสิทธิ์ จันทร์สนิท ปัจจุบันอายุ 26 ปีแล้ว และ น้องอ๊อฟ หรือ นายณัฐวัฒน์ จันทร์สนิท อายุ 21 ปี ช่วงเพิ่งคลอดก็ยังเป็นคนปกติดีทุกอย่าง แต่พออายุได้ประมาณ 1 ปี 8 เดือน ลูกคนโตเกิดไม่สบาย มีไข้ขึ้นสูง มีอาการชัก ต้องส่งรักษาตัวโรงพยาบาลราชบุรี หมอเจาะดูไขกระดูกสันหลังไปตรวจแพทย์ระบุไม่มีอะไร ต่อมาอากาศเริ่มชัดขึ้นร่างกายผิดปกติพิการพูดไม่ได้ เดินไม่ได้ 5 ปี ต่อมามีลูกคนที่ 2 ก็มาล้มป่วยตอนอายุได้ประมาณ 1 ปี 8 เดือนอีกครั้ง เกิดอาการชักจนต้องพาเข้าโรงพยาบาล แพทย์ได้ส่งตัวตรวจที่โรงพยาบาลศิริราช พอตรวจเช็คแล้วเสร็จ แพทย์แนะนำให้ตนกับสามีเข้าไปตรวจหาความเชื่อมโยง หลังตรวจแล้วแพทย์ระบุว่ายีนพ่อกับแม่เข้ากันไม่ได้ เพราะยีนพ่อไม่สมบูรณ์ แต่ยีนของแม่ไม่เป็นอะไร และยังบอกว่าถ้ามีลูกอีกก็จะเป็นแบบนี้อีก ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็จะเป็นโรคแบบนี้เหมือนกัน ตั้งแต่เขาเกิดมาจนล้มป่วยและพิการก็จะดูแลเลี้ยงดูมาตลอด ส่วนสามีมีอาชีพขับรถ และจะให้เงินไว้ใช้จ่ายค่ากับข้าวเลี้ยงดูลูกทุกวัน ตั้งแต่เช้าจะหาข้าวให้ลูกกิน จากนั้นก็จะพาขึ้นหลังนำขึ้นรถเข็นทั้ง 2 คน ซึ่งจะให้นั่งรถเข็นคันเดียวกัน พานั่งไปด้วยกันเพื่อให้ทั้งสองคนได้นั่งรถเล่นไปรอบๆ บ้าน แล้วจึงกลับเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าเช็ดตัวทาแป้งและนอนเล่น บางวันจะไปซื้อกับข้าวนอกบ้านก็ต้องปิดประตูขังลูกเอาไว้ก่อน ต้องรีบไปรีบกลับเพราะห่วงลูก กว่า 20 ปีที่เลี้ยงลูกด้วยความรักและห่วงใยเขาตลอดมา สำหรับบ้านหลังนี้ทางพี่สาวซึ่งเป็นญาติห่างๆ ได้ทำเรื่องไปที่จังหวัดในโครงการบ้านท้องถิ่นไทย เทิดไท้องค์ราชัน สมัยก่อนเดือดร้อนต้องไปหาบ้านเช่าอยู่ตอนที่ลูก ๆ ยังเล็กอยู่ แต่บ้านในโครงการนี้จะต้องเป็นที่ของเราเอง ไม่อย่างงั้นก็จะไม่สามารถได้สิทธิ์ในโครงการนี้ได้ พอดีมีคนใจบุญที่มีจิตศรัทธาให้เช่าที่ดิน จ่ายค่าเช่าเดือนละ 200 บาท ทางจังหวัดจึงอนุญาตให้สร้างบ้านได้ ทุกวันนี้จะอยู่คอยดูแลป้อนข้าว อาบน้ำ คอยเป็นเพื่อน เปิดเพลงให้ฟัง ตามที่ลูกๆ ชอบ จะชอบดูลิเกเป็นพิเศษ พอเปิดได้ไม่นานก็จะเอานมกล่องให้กินคนละกล่อง ไม่นานก็จะง่วงและหลับไป จากนั้นจึงรีบไปซักเสื้อผ้าและจะมาหาข้าวให้กันอีกครั้ง สำหรับความเป็นอยู่ขณะนี้แม้จะมีบ้านที่ทางภาครัฐได้จัดสร้างไว้ให้แล้ว แต่ความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน ทั้งค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูแลลูกยังคงอยู่กันอย่างลำบาก โดยลูกๆ 2 คน ต้องใช้แพมเพิสไว้สวมใส่ตลอดเวลาปัสสาวะ อุจจาระ วันละ 6 ชิ้น และนมที่ต้องซื้อให้ลูกกินทุกวัน กับรายได้ที่สามีนั้นมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ทำงานหาเงินมาจุนเจือครอบครัว สำหรับลูกทั้งสองคนได้รับเบี้ยพิการคนละ 800 บาท รวม 1,600 บาท แต่ก็ยังไม่พอใช้ แม้จะเคยเอางานมาทำที่บ้านแต่ก็ถูกลูกชายรื้อค้นเสียหายจนต้องเลิกทำ ปัจจุบันก็ต้องคอยดูแลลูกชาย แม้เขาจะพิการแต่ก็ยังคงรักและจะคอยดูแลเขาอย่างนี้ให้ดีที่สุด สำหรับสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวันยังต้องการความช่วยเหลือเรื่องค่าอาหาร ค่าผ้าอ้อมที่ต้องใช้ทุกวัน ผู้ที่มีจิตศรัทธาช่วยเหลือได้ที่เบอร์บัญชีธนาคารออมสิน สาขาราชบุรี ชื่อ นางบงกช จันทร์สนิท หมายเลขบัญชีเลขที่ 020096054547 ขอบคุณ... http://news.sanook.com/2047314/
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)
