จวกยับหนัง Me Before You !! เสนอภาพความพิการเป็นโศกนาฏกรรม “มีชีวิตอยู่ไปก็เท่านั้น”

แสดงความคิดเห็น

ภาพยนตร์ Me Before You

ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือชื่อดัง กำลังถูกกลุ่มองค์กรของผู้พิการวิจารณ์ และตำหนิอย่างรุนแรง ว่า หนังมีเนื้อหาที่พยายามบอกว่าชีวิตของคนพิการ “ไม่มีคุณค่า” Me Before You ดัดแปลงมาจากหนังสือของ โจโจ มอยส์ ที่เล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างหญิงสาว (เอมิเลีย คลาร์ก) กับชายหนุ่มผู้ใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็น(แซมคลาฟลิน)หลังประสบอุบัติเหตุหนัก

โดยหนังได้เข้าฉายในเมืองไทยไปตั้งแต่เมื่อวาน (2 มิ.ย.) และลงโรงในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลกในวันนี้ (3 มิ.ย) อย่างไรก็ตาม หนังรักโรแมนติกเรื่องนี้กลับต้องเผชิญกับกระแสวิจารณ์อย่างหนักมาตลอด โดยเฉพาะกลุ่มคนผู้พิการที่มีความเห็นว่าเนื้อหาของ Me Before You ไม่ได้เข้าใจความรู้สึกของพวกเขาเลย และยังมีแนวโน้นที่จะบอกว่าชีวิตของคนกลุ่มนี้“ไม่มีคุณค่าด้วย”

ภาพยนตร์ Me Before You

เอลเลน คลิฟฟอร์ด นักเคลื่อนไหวของกลุ่มรณรงค์เพื่อสิทธิของผู้พิการที่ใช้ชื่อว่า “ยังไม่ตาย” (Not Dead Yet) คือหนึ่่งคนที่ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อเนื้อหาของ Me Before You ที่เธอมองว่าเต็มไปด้วยการนำเสนอภาพชีวิตของผู้พิการแบบผิด ๆ “สารของหนังก็คือการบอกว่า ความพิการคือโศกนาฏกรรม และคนพิการก็ควรจะตายไปเลยซะดีกว่า ซึ่งมันก็คือแนวคิดแบบกระแสหลัก ที่สื่อต่าง ๆ พยายามบอกมาตลอดว่าความพิการเป็นเรื่องเลวร้ายมากๆ”

ส่วน คิม เซาเดอร์ ที่เป็นทั้งนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของผู้พิการ และยังศึกษาในระดับปริญญาเอกเกี่ยวกับด้านนี้ด้วย ก็ได้เขียนข้อความว่าเธอรู้สึก “มีปัญหาอย่างรุนแรง” กับเนื้อหาของ Me Before You ที่ไม่ได้สะท้อนความรู้สึกนึกคิดของผู้พิการได้อย่างแท้จริงแต่กลับส่งสารออกมาว่า“ตายซะยังดีกว่าหากต้องพิการ”

“สื่อลักษณะนี้มันอันตรายมาก ๆ เพราะมันคล้ายจะเป็นปากเป็นเสียงให้กับคนพิการ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย เพราะถ้าคุณลองฟังคำจากพวกเขาดูจริงๆ ไม่ใช่แค่ใช้เป็นเครื่องมือมาปกป้องหนัง คุณก็อาจจะได้รู้ว่าทำไมถึงมีบางคนที่อยากตาย และคุณก็จะได้รู้ว่ามีคนที่รักชีวิตของตัวเองมากด้วย อย่างไรก็ตามการมีตัวตนของคนอย่าง วิล เทรเนอร์ (ตัวละครในหนัง) ก็มาจากการนำเสนอของสื่อที่ชอบฉายภาพความรู้สึกที่เป็นนิยายแบบนี้มากจนคนคิดว่านี่คือความจริงไปแล้ว"

ความจริงแล้ว Me Before You เคยถูกตำหนิตั้งแต่เมื่อครั้งตีพิมพ์ออกจำหน่ายในรูปแบบนิยายแล้ว ซึ่ง โจโจ มอยส์ ผู้เขียนก็ได้กล่าวปกป้องผลงานของตัวเอง ในการให้สัมภาษณ์กับ Goodreads เมื่อปี 2013 ว่างานของเธอมีเป้าหมายที่จะนำเสนอภาพของผู้พิการให้ออกมาดูเป็นคนปกติ ที่ไม่ได้แตกต่างกับคนทั่วไป เพียงแค่มีข้อจำกัดด้านร่างกายบาอย่างเท่านั้น

"ฉันมีลูกที่เกิดมาหูหนวก แต่เอาเข้าใจจริงๆ แล้วสิ่งที่ทำให้ฉันหงุดหงิดกับการเลี้ยงลูกกลับไม่ใช่เรื่องความพิการเลย เพราะเราสามารถปรับตัวกับเรื่องนี้ได้เร็วมาก สำหรับคนที่คุณรักแล้วมันกลายเป็นสิ่งเล็กน้อยไปเลย ฉันได้รับอีเมล์จากคนที่อ่านหนังสือ ทั้งจากผู้พิการ และคนที่ดูแลพวกเขา ที่บอกว่า "ขอบคุณจริงๆ ที่ช่วยสะท้อนชีวิตของพวกเราและขอบคุณมากที่เขียนนิยายที่มีพระเอกสุดเซ็กซีเป็นผู้ป่วยอัมพาต""ผู้เขียนกล่าว

ส่วนผู้กำกับ เธีย แชร์ร็อก ก็ยอมรับว่าหนังเจอกระแสวิจารณ์ในแง่ลบจากกลุ่มผู้พิการ แต่ก็ยืนยันว่าหนังสร้างด้วยการสะท้อนข้อเท็จจริง จริงๆ "เราไม่อยากจะละเลยต่อทั้งสองมุมมอง มีหลายๆ กรณีเลยที่ผู้ป่วยเลือกที่จะจบชีวิตตัวเอง และก็ยังมีผู้ป่วยที่เข้าใจโลก ซึ่งหนังก็คงไม่ใช่เรื่องราวของคนกลุ่มนี้"

ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9590000055768 (ขนาดไฟล์: 174)

ที่มา: ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 03 มิ.ย.59
วันที่โพสต์: 6/06/2559 เวลา 11:45:24 ดูภาพสไลด์โชว์ จวกยับหนัง Me Before You !! เสนอภาพความพิการเป็นโศกนาฏกรรม “มีชีวิตอยู่ไปก็เท่านั้น”

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ภาพยนตร์ Me Before You ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือชื่อดัง กำลังถูกกลุ่มองค์กรของผู้พิการวิจารณ์ และตำหนิอย่างรุนแรง ว่า หนังมีเนื้อหาที่พยายามบอกว่าชีวิตของคนพิการ “ไม่มีคุณค่า” Me Before You ดัดแปลงมาจากหนังสือของ โจโจ มอยส์ ที่เล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างหญิงสาว (เอมิเลีย คลาร์ก) กับชายหนุ่มผู้ใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็น(แซมคลาฟลิน)หลังประสบอุบัติเหตุหนัก โดยหนังได้เข้าฉายในเมืองไทยไปตั้งแต่เมื่อวาน (2 มิ.ย.) และลงโรงในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลกในวันนี้ (3 มิ.ย) อย่างไรก็ตาม หนังรักโรแมนติกเรื่องนี้กลับต้องเผชิญกับกระแสวิจารณ์อย่างหนักมาตลอด โดยเฉพาะกลุ่มคนผู้พิการที่มีความเห็นว่าเนื้อหาของ Me Before You ไม่ได้เข้าใจความรู้สึกของพวกเขาเลย และยังมีแนวโน้นที่จะบอกว่าชีวิตของคนกลุ่มนี้“ไม่มีคุณค่าด้วย” ภาพยนตร์ Me Before You เอลเลน คลิฟฟอร์ด นักเคลื่อนไหวของกลุ่มรณรงค์เพื่อสิทธิของผู้พิการที่ใช้ชื่อว่า “ยังไม่ตาย” (Not Dead Yet) คือหนึ่่งคนที่ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อเนื้อหาของ Me Before You ที่เธอมองว่าเต็มไปด้วยการนำเสนอภาพชีวิตของผู้พิการแบบผิด ๆ “สารของหนังก็คือการบอกว่า ความพิการคือโศกนาฏกรรม และคนพิการก็ควรจะตายไปเลยซะดีกว่า ซึ่งมันก็คือแนวคิดแบบกระแสหลัก ที่สื่อต่าง ๆ พยายามบอกมาตลอดว่าความพิการเป็นเรื่องเลวร้ายมากๆ” ส่วน คิม เซาเดอร์ ที่เป็นทั้งนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของผู้พิการ และยังศึกษาในระดับปริญญาเอกเกี่ยวกับด้านนี้ด้วย ก็ได้เขียนข้อความว่าเธอรู้สึก “มีปัญหาอย่างรุนแรง” กับเนื้อหาของ Me Before You ที่ไม่ได้สะท้อนความรู้สึกนึกคิดของผู้พิการได้อย่างแท้จริงแต่กลับส่งสารออกมาว่า“ตายซะยังดีกว่าหากต้องพิการ” “สื่อลักษณะนี้มันอันตรายมาก ๆ เพราะมันคล้ายจะเป็นปากเป็นเสียงให้กับคนพิการ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย เพราะถ้าคุณลองฟังคำจากพวกเขาดูจริงๆ ไม่ใช่แค่ใช้เป็นเครื่องมือมาปกป้องหนัง คุณก็อาจจะได้รู้ว่าทำไมถึงมีบางคนที่อยากตาย และคุณก็จะได้รู้ว่ามีคนที่รักชีวิตของตัวเองมากด้วย อย่างไรก็ตามการมีตัวตนของคนอย่าง วิล เทรเนอร์ (ตัวละครในหนัง) ก็มาจากการนำเสนอของสื่อที่ชอบฉายภาพความรู้สึกที่เป็นนิยายแบบนี้มากจนคนคิดว่านี่คือความจริงไปแล้ว" ความจริงแล้ว Me Before You เคยถูกตำหนิตั้งแต่เมื่อครั้งตีพิมพ์ออกจำหน่ายในรูปแบบนิยายแล้ว ซึ่ง โจโจ มอยส์ ผู้เขียนก็ได้กล่าวปกป้องผลงานของตัวเอง ในการให้สัมภาษณ์กับ Goodreads เมื่อปี 2013 ว่างานของเธอมีเป้าหมายที่จะนำเสนอภาพของผู้พิการให้ออกมาดูเป็นคนปกติ ที่ไม่ได้แตกต่างกับคนทั่วไป เพียงแค่มีข้อจำกัดด้านร่างกายบาอย่างเท่านั้น "ฉันมีลูกที่เกิดมาหูหนวก แต่เอาเข้าใจจริงๆ แล้วสิ่งที่ทำให้ฉันหงุดหงิดกับการเลี้ยงลูกกลับไม่ใช่เรื่องความพิการเลย เพราะเราสามารถปรับตัวกับเรื่องนี้ได้เร็วมาก สำหรับคนที่คุณรักแล้วมันกลายเป็นสิ่งเล็กน้อยไปเลย ฉันได้รับอีเมล์จากคนที่อ่านหนังสือ ทั้งจากผู้พิการ และคนที่ดูแลพวกเขา ที่บอกว่า "ขอบคุณจริงๆ ที่ช่วยสะท้อนชีวิตของพวกเราและขอบคุณมากที่เขียนนิยายที่มีพระเอกสุดเซ็กซีเป็นผู้ป่วยอัมพาต""ผู้เขียนกล่าว ส่วนผู้กำกับ เธีย แชร์ร็อก ก็ยอมรับว่าหนังเจอกระแสวิจารณ์ในแง่ลบจากกลุ่มผู้พิการ แต่ก็ยืนยันว่าหนังสร้างด้วยการสะท้อนข้อเท็จจริง จริงๆ "เราไม่อยากจะละเลยต่อทั้งสองมุมมอง มีหลายๆ กรณีเลยที่ผู้ป่วยเลือกที่จะจบชีวิตตัวเอง และก็ยังมีผู้ป่วยที่เข้าใจโลก ซึ่งหนังก็คงไม่ใช่เรื่องราวของคนกลุ่มนี้" ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9590000055768

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...