ล่า2.5หมื่นชื่อ'คดีชายพิการ'พลิกฆ่า'เจตนา'สู่'ไตร่ตรอง'!
จากกรณี เกิดคดีความที่ตกเป็นข่าวใหญ่ครึกโครม เมื่อแก๊งวัยรุ่นชาย 6 คน ก่อเหตุสะเทือนขวัญกลางกรุงเข้ารุมทำร้าย นายสมเกียรติ ศรีจันทร์ อายุ 36 ปี ผู้พิการทางขาจนเสียชีวิตอย่างสยดสยอง จากนั้นยังพบว่ามีถึง 4 ในจำนวนนั้น ที่เป็นลูกชายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ กระทั่งเป็นที่มาของการตั้งข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา"
แต่จากการตั้งข้อหาดังกล่าว ส่งผลให้เกิดความดราม่าภาคต่อมาอีก เมื่อผู้คนที่เสพข่าวทั้งจากสื่อหลักและสื่อโซเชี่ยลต่างแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา ผสมผสานกับดูคลิประหว่างเกิดเหตุที่แชร์ส่งต่อไปทั่ว ยิ่งทำให้มีกลุ่มคนจำนวนมากตั้งข้อสงสัยและข้อสังเกตุการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ให้ความยุติธรรมกับเหยื่อพิการจริงๆหรือไม่ แม้ว่าตำรวจจะยืนยันในความตรงไปตรงมาแล้วก็ตาม
ล่าสุด นายจักรกฤษณ์ มีชัย คนธรรมดาๆคนหนึ่ง ได้ผุดไอเดียทำการเชิญชวนผ่านทาง www.Change.org ในการรวบรวมรายชื่อ 25,000 รายชื่อ พร้อมตั้งชื่อแคมเปญว่า "ขอความเป็นธรรมในคดีลูกตำรวจรุมฆ่าคนพิการ" เพื่อหวังเปลี่ยนการแจ้งข้อหาจาก "ฆ่าโดยเจตนา" ให้เป็น "ฆ่าโดยไตร่ตรอง" ซึ่งผ่านมา 6 วัน มีผู้ร่วมลงชื่อถึงตอนนี้ประมาณ 23,000 รายชื่อแล้ว
นายจักรกฤษณ์ เผยแนวคิดนี้กับ “เดลินิวส์ออนไลน์” ว่า สาเหตุการรวบรวมรายชื่อนี้ เป็นช่องทางแสดงออกถึงพลังของผู้สนับสนุนที่ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ด้วยการให้ตำรวจสืบสวนคดีอย่างตรงไปตรงมา อีกทั้งยังเรียกร้องให้เปลี่ยนการตั้งข้อหาเบื้องต้นจากข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เป็นฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง ซึ่งมีโทษหนักกว่า หลังรวบรวมจำนวนรายชื่อ พร้อมความคิดเห็นจากประชาชนที่ร่วมลงชื่อเสร็จแล้ว จากนั้นก็จะทำหนังสือยื่นต่อสำนักนายกรัฐมนตรีในวันที่ 23 พ.ค. เวลา 10.00 นำโดย นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ และตัวแทนผู้รณรงค์ ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้นคงเป็นหน้าที่ของทนายความ
“ขณะนี้เรามีผู้ร่วมลงชื่อกว่า 23,000 หมื่นคน อาจจะไม่ถึง 25,000 รายชื่อ ตามที่ตั้งเป้าไว้ แต่ไม่เป็นไร พร้อมจะสู้ต่อ เพราะอย่างน้อยคงทำให้การเรียกร้องมีน้ำหนักมากขึ้น อยากให้คดีนี้เป็นกรณีศึกษากับอีกหลายคดี ถ้าเราไม่สร้างบรรทัดฐานการปฏิบัติงานอันดีของตำรวจ หากคดีต่อไปเกิดขึ้นกับคนใกล้ชิดหรือญาติพี่น้อง เราก็คงยอมรับไม่ได้ ที่จริงไม่ได้สร้างความคิดให้ประชาชนเกลียดชังตำรวจ แค่จะบอกว่า ตำรวจคือที่พึ่งของประชาชน อยากให้ดูแลคนที่เรารักด้วยการบังคับใช้กฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์ ส่งผลว่าหากผู้ที่กำลังคิดละเมิดหรือทำผิด จะได้ยับยั้งชั่งใจเมื่อรู้ว่าต้องได้รับผลอย่างไรตามมา"ผู้เริ่มแนวคิวเผยความในใจ.
ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/crime/399325 (ขนาดไฟล์: 167)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ผู้ต้องหา แก๊งวัยรุ่นชาย 6 คน รุมฆ่าคนพิการ จากกรณี เกิดคดีความที่ตกเป็นข่าวใหญ่ครึกโครม เมื่อแก๊งวัยรุ่นชาย 6 คน ก่อเหตุสะเทือนขวัญกลางกรุงเข้ารุมทำร้าย นายสมเกียรติ ศรีจันทร์ อายุ 36 ปี ผู้พิการทางขาจนเสียชีวิตอย่างสยดสยอง จากนั้นยังพบว่ามีถึง 4 ในจำนวนนั้น ที่เป็นลูกชายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ กระทั่งเป็นที่มาของการตั้งข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" แต่จากการตั้งข้อหาดังกล่าว ส่งผลให้เกิดความดราม่าภาคต่อมาอีก เมื่อผู้คนที่เสพข่าวทั้งจากสื่อหลักและสื่อโซเชี่ยลต่างแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา ผสมผสานกับดูคลิประหว่างเกิดเหตุที่แชร์ส่งต่อไปทั่ว ยิ่งทำให้มีกลุ่มคนจำนวนมากตั้งข้อสงสัยและข้อสังเกตุการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ให้ความยุติธรรมกับเหยื่อพิการจริงๆหรือไม่ แม้ว่าตำรวจจะยืนยันในความตรงไปตรงมาแล้วก็ตาม ล่าสุด นายจักรกฤษณ์ มีชัย คนธรรมดาๆคนหนึ่ง ได้ผุดไอเดียทำการเชิญชวนผ่านทาง www.Change.org ในการรวบรวมรายชื่อ 25,000 รายชื่อ พร้อมตั้งชื่อแคมเปญว่า "ขอความเป็นธรรมในคดีลูกตำรวจรุมฆ่าคนพิการ" เพื่อหวังเปลี่ยนการแจ้งข้อหาจาก "ฆ่าโดยเจตนา" ให้เป็น "ฆ่าโดยไตร่ตรอง" ซึ่งผ่านมา 6 วัน มีผู้ร่วมลงชื่อถึงตอนนี้ประมาณ 23,000 รายชื่อแล้ว นายจักรกฤษณ์ เผยแนวคิดนี้กับ “เดลินิวส์ออนไลน์” ว่า สาเหตุการรวบรวมรายชื่อนี้ เป็นช่องทางแสดงออกถึงพลังของผู้สนับสนุนที่ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ด้วยการให้ตำรวจสืบสวนคดีอย่างตรงไปตรงมา อีกทั้งยังเรียกร้องให้เปลี่ยนการตั้งข้อหาเบื้องต้นจากข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เป็นฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง ซึ่งมีโทษหนักกว่า หลังรวบรวมจำนวนรายชื่อ พร้อมความคิดเห็นจากประชาชนที่ร่วมลงชื่อเสร็จแล้ว จากนั้นก็จะทำหนังสือยื่นต่อสำนักนายกรัฐมนตรีในวันที่ 23 พ.ค. เวลา 10.00 นำโดย นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ และตัวแทนผู้รณรงค์ ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้นคงเป็นหน้าที่ของทนายความ “ขณะนี้เรามีผู้ร่วมลงชื่อกว่า 23,000 หมื่นคน อาจจะไม่ถึง 25,000 รายชื่อ ตามที่ตั้งเป้าไว้ แต่ไม่เป็นไร พร้อมจะสู้ต่อ เพราะอย่างน้อยคงทำให้การเรียกร้องมีน้ำหนักมากขึ้น อยากให้คดีนี้เป็นกรณีศึกษากับอีกหลายคดี ถ้าเราไม่สร้างบรรทัดฐานการปฏิบัติงานอันดีของตำรวจ หากคดีต่อไปเกิดขึ้นกับคนใกล้ชิดหรือญาติพี่น้อง เราก็คงยอมรับไม่ได้ ที่จริงไม่ได้สร้างความคิดให้ประชาชนเกลียดชังตำรวจ แค่จะบอกว่า ตำรวจคือที่พึ่งของประชาชน อยากให้ดูแลคนที่เรารักด้วยการบังคับใช้กฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์ ส่งผลว่าหากผู้ที่กำลังคิดละเมิดหรือทำผิด จะได้ยับยั้งชั่งใจเมื่อรู้ว่าต้องได้รับผลอย่างไรตามมา"ผู้เริ่มแนวคิวเผยความในใจ. ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/crime/399325
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)