เด็กกตัญญู'ยอมออกจาก ร.ร.ดูแลแม่พิการ

แสดงความคิดเห็น

มี ด.ช.วีระพงษ์ ทิจิ หรือ "น้องโอ้บ" อายุ 15 ปี อาศัยอยู่กับแม่ พิการนั่งรถเข็น

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ได้รับข่าวมีเด็กกตัญญูเลี้ยงดูแลแม่ที่พิการ จึงได้ลงพื้นที่ พบที่บ้านเลขที่ 36/1 หมู่ 7 บ้านผาลาด ต.น้ำหมัน อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ยกสูง บ้านตีแปะ-หลังคามุงสังกะสีเก่าๆ ติดกับถนนในหมู่บ้าน มี ด.ช.วีระพงษ์ ทิจิ หรือ "น้องโอ้บ" อายุ 15 ปี อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ต้องคอยดูแลแม่ คือ นางเยาว์ ทิจิ อายุ 45 ปี ที่ถูกตัดขาขวาขนาดหัวเข่า สภาพภายในบ้านมีเพียงไฟฟ้าส่องสว่างเพียง 2 หลอด เครื่องใช้ไฟฟ้าก็ไม่มี หุงหาอาหารด้วยเตาฟืน ห้องน้ำก็อาศัยชาวบ้านสร้างให้แบบพอใช้ได้

ทั้งนี้ แต่ก่อนนางเยาว์มีอาชีพรับจ้างทั่วไป และเมื่อเดือน พ.ย. 2555 ได้เดินทางไปเยี่ยมลูกที่ทำงานอยู่กรุงเทพฯ จู่ๆ เกิดปวดขาขวาและมีรอยช้ำเลือด ลูกจึงพาไปพบหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แพทย์ลงความเห็นว่าเป็นไขมันอุดตันในเส้นเลือด เพื่อรักษาชีวิตจึงจำเป็นต้องตัดขาทิ้ง เพื่อไม่ให้ลุกลามไปทั่วร่างกาย

อย่างไรก็ตาม พอกลับมารักษาตัวที่บ้าน ช่วงแรกก็ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย เพราะสามีก็เสียชีวิตไปนานแล้ว ส่วนลูกสาวคนโตและคนกลางก็มีครอบครัวแล้ว กลับมาเยี่ยมปีละครั้ง โดยจะมาในช่วงเทศกาลต่างๆ มีเพียงลูกชายคนเล็ก คือ น้องโอ้บ ซึ่งต้องลาออกจากโรงเรียนมาคอยดูแลตน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอาบน้ำ ใส่เสื้อผ้า ซักผ้า และยังอุ้มไปทำธุระส่วนตัวด้วย โดยที่ลูกชายไม่เคยรังเกียจ หรือบ่นสักคำ แต่ทุกวันนี้แผลหายแล้ว ก็พอจะช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น

ด.ช.วีระพงษ์ หรือ "น้องโอ้บ" เผยว่า หลังแม่ถูกตัดขา ตนก็ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนจริมอนุสรณ์ (1) ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน เพื่อออกมาดูแลแม่ เพราะแม่เป็นผู้ให้กำเนิด สำคัญกว่าการเรียน แม่สามารถเลี้ยงดูลูกๆ ทั้ง 3 คนได้ พอแม่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของลูกๆ ที่จะต้องดูแลแม่ให้ดีที่สุดขณะที่แม่ยังมีชีวิตอยู่

"ทุกวันจะต้อง ตื่นนอนตั้งแต่เช้ามืด ก่อไฟหุงหาอาหาร ส่วนผักก็หาเก็บได้ตามหมู่บ้าน เพราะคนในหมู่บ้านจะไม่ว่า แล้วนำมาทำอาหารไว้ให้แม่กินมื้อเช้า กลางวัน บางครั้งก็จนถึงมื้อเย็น แล้วซักผ้าตากไว้ เสร็จจากทำงานที่บ้านแล้ว ก็ออกไปหาทำงานรับจ้างทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตัดอ้อย เกี่ยวข้าว หรือมีใครจ้างไปไหน ก็จะทำหมดทุกอย่าง เพราะอยากได้เงินมาใช้จ่าย ซึ่งได้เงินมาเพียงวันละ 150-200 บาท ก็ดีใจแล้ว"

นอกจากนี้ บางวันหากไม่มีคนจ้าง ตนก็จะอยู่บ้านคอยดูแลแม่ จะไปทำงานไกลๆ หรือที่อื่นก็ไปไม่ได้ ตนเห็นเพื่อนๆ ไปโรงเรียนก็อยากไปเรียนอีกครั้ง และในวันเด็กแห่งชาติ 11 ม.ค.นี้ ก็อยากไปเที่ยวกับเขาบ้างตามประสาเด็กๆ แต่ก็เป็นห่วงแม่ เพราะไม่มีใครดูแล จึงต้องตัดสินใจลาออกโรงเรียน ทั้งๆ ที่ใจอยากเรียนเหมือนเพื่อนๆ ในอนาคตหากมีโอกาส ก็อยากเรียนสายอาชีพที่ทำงานอยู่กับบ้านได้ เพื่อจะได้ดูแลแม่ไปด้วย ทั้งนี้ ตนตั้งใจแล้วว่าอาจจะไม่มีครอบครัว เพราะเกรงว่าจะทำให้ครอบครัวเดือดร้อน ซึ่งตนตั้งใจจะอยู่กับแม่ตลอด และจะไม่ทิ้งแม่ไปไหนเด็ดขาด.

ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/region/393626

( ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 4 ม.ค.57 )

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 4 ม.ค.57
วันที่โพสต์: 5/01/2557 เวลา 02:57:14 ดูภาพสไลด์โชว์ เด็กกตัญญู'ยอมออกจาก ร.ร.ดูแลแม่พิการ

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

มี ด.ช.วีระพงษ์ ทิจิ หรือ \"น้องโอ้บ\" อายุ 15 ปี อาศัยอยู่กับแม่ พิการนั่งรถเข็น เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ได้รับข่าวมีเด็กกตัญญูเลี้ยงดูแลแม่ที่พิการ จึงได้ลงพื้นที่ พบที่บ้านเลขที่ 36/1 หมู่ 7 บ้านผาลาด ต.น้ำหมัน อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ยกสูง บ้านตีแปะ-หลังคามุงสังกะสีเก่าๆ ติดกับถนนในหมู่บ้าน มี ด.ช.วีระพงษ์ ทิจิ หรือ "น้องโอ้บ" อายุ 15 ปี อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ต้องคอยดูแลแม่ คือ นางเยาว์ ทิจิ อายุ 45 ปี ที่ถูกตัดขาขวาขนาดหัวเข่า สภาพภายในบ้านมีเพียงไฟฟ้าส่องสว่างเพียง 2 หลอด เครื่องใช้ไฟฟ้าก็ไม่มี หุงหาอาหารด้วยเตาฟืน ห้องน้ำก็อาศัยชาวบ้านสร้างให้แบบพอใช้ได้ ทั้งนี้ แต่ก่อนนางเยาว์มีอาชีพรับจ้างทั่วไป และเมื่อเดือน พ.ย. 2555 ได้เดินทางไปเยี่ยมลูกที่ทำงานอยู่กรุงเทพฯ จู่ๆ เกิดปวดขาขวาและมีรอยช้ำเลือด ลูกจึงพาไปพบหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แพทย์ลงความเห็นว่าเป็นไขมันอุดตันในเส้นเลือด เพื่อรักษาชีวิตจึงจำเป็นต้องตัดขาทิ้ง เพื่อไม่ให้ลุกลามไปทั่วร่างกาย อย่างไรก็ตาม พอกลับมารักษาตัวที่บ้าน ช่วงแรกก็ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย เพราะสามีก็เสียชีวิตไปนานแล้ว ส่วนลูกสาวคนโตและคนกลางก็มีครอบครัวแล้ว กลับมาเยี่ยมปีละครั้ง โดยจะมาในช่วงเทศกาลต่างๆ มีเพียงลูกชายคนเล็ก คือ น้องโอ้บ ซึ่งต้องลาออกจากโรงเรียนมาคอยดูแลตน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอาบน้ำ ใส่เสื้อผ้า ซักผ้า และยังอุ้มไปทำธุระส่วนตัวด้วย โดยที่ลูกชายไม่เคยรังเกียจ หรือบ่นสักคำ แต่ทุกวันนี้แผลหายแล้ว ก็พอจะช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น ด.ช.วีระพงษ์ หรือ "น้องโอ้บ" เผยว่า หลังแม่ถูกตัดขา ตนก็ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนจริมอนุสรณ์ (1) ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน เพื่อออกมาดูแลแม่ เพราะแม่เป็นผู้ให้กำเนิด สำคัญกว่าการเรียน แม่สามารถเลี้ยงดูลูกๆ ทั้ง 3 คนได้ พอแม่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของลูกๆ ที่จะต้องดูแลแม่ให้ดีที่สุดขณะที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ "ทุกวันจะต้อง ตื่นนอนตั้งแต่เช้ามืด ก่อไฟหุงหาอาหาร ส่วนผักก็หาเก็บได้ตามหมู่บ้าน เพราะคนในหมู่บ้านจะไม่ว่า แล้วนำมาทำอาหารไว้ให้แม่กินมื้อเช้า กลางวัน บางครั้งก็จนถึงมื้อเย็น แล้วซักผ้าตากไว้ เสร็จจากทำงานที่บ้านแล้ว ก็ออกไปหาทำงานรับจ้างทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตัดอ้อย เกี่ยวข้าว หรือมีใครจ้างไปไหน ก็จะทำหมดทุกอย่าง เพราะอยากได้เงินมาใช้จ่าย ซึ่งได้เงินมาเพียงวันละ 150-200 บาท ก็ดีใจแล้ว" นอกจากนี้ บางวันหากไม่มีคนจ้าง ตนก็จะอยู่บ้านคอยดูแลแม่ จะไปทำงานไกลๆ หรือที่อื่นก็ไปไม่ได้ ตนเห็นเพื่อนๆ ไปโรงเรียนก็อยากไปเรียนอีกครั้ง และในวันเด็กแห่งชาติ 11 ม.ค.นี้ ก็อยากไปเที่ยวกับเขาบ้างตามประสาเด็กๆ แต่ก็เป็นห่วงแม่ เพราะไม่มีใครดูแล จึงต้องตัดสินใจลาออกโรงเรียน ทั้งๆ ที่ใจอยากเรียนเหมือนเพื่อนๆ ในอนาคตหากมีโอกาส ก็อยากเรียนสายอาชีพที่ทำงานอยู่กับบ้านได้ เพื่อจะได้ดูแลแม่ไปด้วย ทั้งนี้ ตนตั้งใจแล้วว่าอาจจะไม่มีครอบครัว เพราะเกรงว่าจะทำให้ครอบครัวเดือดร้อน ซึ่งตนตั้งใจจะอยู่กับแม่ตลอด และจะไม่ทิ้งแม่ไปไหนเด็ดขาด. ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/region/393626 ( ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 4 ม.ค.57 )

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...