พบชีวิตใหม่หนุ่มพิการเลี้ยงพ่อแม่

แสดงความคิดเห็น

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่าเพื่อการกุศลพร้อมด้วยทีมงานเข้าให้การช่วยเหลือ ครอบครัว นายชาญ กันทะเนตร ตามที่เดลินิวส์เสนอข่าว วอนช่วยหนุ่มพิการเลี้ยงพ่อ-แม่ ที่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 12 บ้านทุ่งรวงทอง ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา ซึ่งเป็นครอบครัวรันทด โดยมีนายชาญ กันทะเนตร อายุ 50 ปี ซึ่งพิการขาทั้งสองข้างต้องคลานป้อนข้าว ปรนนิบัติ พ่อ วัยชรา อายุ 98 ปี พิการเดินไม่ได้และแม่วัย 87 ปี นอนป่วย โดยไม่มีหน่วยงานภาครัฐให้การเหลียวแล นั้น

เมื่อ วันที่10 มี.ค.56 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่าเพื่อการกุศล พร้อมด้วยทีมงานประกอบด้วย นายเข้ม อัศราช นายอินเต้า ปัญจขันธ์ รองประธานสภา อบจ.พะเยา นายธวัช สุทธวงศ์ สจ.เขต อ.ปง เดินทางไปที่บ้านของนายชาญ กันทะเนตร หนุ่มพิการยอดกตัญญู เพื่อให้การช่วยเหลือ เมื่อไปถึงได้มี ส.อ.สมจิตร์ ฟูธรรม นายก อบต.ร่มเย็ต อ.เชียงคำ นายสรวิทย์ ต่างใจ ผญบ.หมู่ 12 บ้านทุ่งรวงทอง และชาวบ้านกว่า 30 คน รอให้การต้อนรับ จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส ได้เดินขึ้นบ้านไม้ยกพื้นสูง ฝาบ้านมุงด้วยแฝก โดยมีนายชาญ กันทะเนตร หนุ่มพิการ พร้อมกับพ่ออุ้ยติ๊บ ที่นั่งอยู่ข้าง และแม่อุ้ยติ๊บ นอนอยู่บนที่นอน โดย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ได้ทราบข่าวจาก นสพ.เดลินิวส์ ถึงความรันทดของครอบครัวนายชาญ จึงเดินทางเข้ามาดูข้อเท็จจริง และเมื่อเห็นกับตาแล้วความทุกข์ยากของครอบครัวนี้ลำบากกว่าที่อ่านพบในเดลินิวส์ โดยเฉพาะบ้านที่อาศัย เป็นบ้านยกพื้นสูงในขณะที่เจ้าของบ้านพิการเดินไม่ได้ จึงเป็นความยากลำบากต่อการขึ้นลงบ้าน อีกทั้งตัวบ้านนั้นหากร้อนก็ร้อนอบอ้าว ถ้าหนาวก็จะหนาวเข้ากระดูก ต้องยอมรับว่าทั้งพ่ออุ้ยติ๊บ กับแม่อุ้ยติ๊บ นั้นมีความอดทนสูงมากที่ทนอยู่ในบ้านที่สภาพไม่เอื้ออำนวยต่อคนพิการ ซึ่งยังไม่รวมถึงนายชาญ ที่ยังสามารถคลานไปมาบนบ้าน และยังลงมาเดินด้วยไม้ค้ำยัน

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่าเพื่อการกุศลพร้อมด้วยทีมงานเข้าให้การช่วยเหลือ ครอบครัว นายชาญ กันทะเนตร ประธานมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่าเพื่อการกุศล กล่าวต่อว่า ในนามมูลนิธิฯ จะขอรับดุแลครอบครัวนี้ ด้วยการสร้างบ้านให้ใหม่ตามแบบบ้านเอื้ออาทรของมูลนิธิฯ ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวมีห้องน้ำห้องครัวพร้อมสรรพ เพื่อความสะดวกต่อผู้พิการทั้งสามคน นอกจากนี้จะให้เงินเบี้ยเลี้ยงกับครอบครัวนี้ตลอดชีวิต ซึ่งจะเป็นเบี้ยเลี้ยงที่สามารถดูแลตนเองได้อย่างดี พร้อมกันนี้จะซื้อเตียงผู้ป่วยที่สามารถหมุนขึ้นลงได้เพื่อมอบให้กับแม่อุ้ยติ๊บ เพื่อสะดวกต่อการป้อนข้าว ป้อนน้ำ ของนายชายโดยใช้หมุนขึ้นลงซึ่งเป็นเตียงที่ใช้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาล นอกจากนี้จะซื้อรถจักรยานยนต์พ่วง สำหรับผู้พิการมอบให้กับนาชายเพื่อไว้ใช้ในการเดินทางไปไหนมาไหน โดยไม่ต้องใช้รถโยกที่ต้องใช้แรงมาก

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการสร้างบ้านตนจะมอบให้นายธวัช สุทธวงศ์ สจ.เขต อ.ปง มาดำเนินการทั้งหมดในวันที่ 11 มี.ค.56 โดยประสานกับ นายก อบต.ร่มเย็น และ ผญบ.หมู่ที่ 12 บ้านทุ่งรวงทอง โดยมีข้อแม้ว่าทางท้องถิ่นจะต้องจัดหาแรงงานในหมู่บ้านมาช่วยสร้าง ส่วนค่าวัสดุต่างๆ นั้นทางมูลนิธิฯ รับผิดชอบทั้งหมด เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน เพื่อความเข้มแข็งของชุมชนเอง สำหรับสิ่งของอื่นๆ นั้นตนจะเร่งดำเนินการให้เจ้าหน้าที่นำมามอบให้โดยเร็วที่สุด สำหรับบ้านนั้นจะต้องสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน ก่อนปีใหม่เมือง (สงกรานต์) จะต้องทำบุญขึ้นบ้านใหม่หลังนี้ให้ทัน

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่าเพื่อการกุศลพร้อมด้วยทีมงานเข้าให้การช่วยเหลือ ครอบครัว นายชาญ กันทะเนตร ประธานมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่าเพื่อการกุศล กล่าวต่อว่า ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะครอบครัวพิการเช่นนี้ ทางราชการสมควรที่จะให้ความสำคัญเข้ามาช่วยเหลือ แต่กลับไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาเยี่ยวยา เรื่องนี้รัฐบาลไม่ควรนิ่งเฉยต้องเร่งกำชับกระทรวง ทบวงกรม ที่เกี่ยวข้องปรับปรุงการทำงานให้เข้าถึงผู้เดือดร้อนเร็วกว่านี้ ซึ่งรวมถึงกรณีผู้ประสบภัยธรรมชาติด้วย ซึ่งทางมูลนิธิฯ เราจะให้ความสำคัญต่อความเดือดร้อนของพี่น้องชาวพะเยาทุกหย่อมหญ้า เพื่อให้ผู้ด้อยโอกาสเหล่านั้นได้มีชีวิตอยู่ในสังคมอย่างเสมอภาคและมีความสุข เพื่อความสมานฉันท์ของคนในสังคมเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ด้านนายชาญ กันทะเนตร หนุ่มพิการยอดกตัญญู กล่าวว่า ในชีวิตไม่เคยคิดว่าจะมีผู้ใจบุญให้ความช่วยเหลือครอบครัวตนถึงขนาดนี้ ซึ่งที่จริงแล้วขอเพียงเงินอีกสัก 2-3,000 ต่อเดือน สำหรับดูและพ่อแม่ผู้ชรา ตนก็ภูมิใจแล้วเพราะสามารถจุนเจือครอบครัวอยู่ตามอัตภาพได้ ตนไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณนี้อย่างไร นอกจากคำขอบคุณและขอให้มลนิธิธรรมนัสพรหมเผื่อเพื่อการกุศล เจริญรุ่งเรืองเป็นที่พึ่งของผู้ด้อยโอกาสในจังหวัดพะเยาต่อไปอย่างยั่งยืน กล่าวถึงตรงนี้น้ำตาไหลมาเอ่อเบ้าตานายชาญ

นายชาญกล่าวต่อว่า หลังที่ นสพ.เดลินิวส์ เสนอข่าวไปแล้ว นายก อบจ.นครปฐม ส่งเงินมาช่วยเหลือ 3,000 บาท และมีพระจาก จ.เชียงรายมาพบพร้อมมอบเงินช่วยอีก 500 บาท ยังเสนอตัวอาสารับใช้หากทางครอบครัวตนมีความจำเป็นเร่งด่วนในการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ต้องขอขอบคุณ เดลินิวส์ ที่ทำให้ครอบครัวตนได้มีวันนี้ มีบ้านใหม่ มีผู้ดูแลตลอดชีวิต ขอให้เดลินิวส์จงเจริญรุ่งเรืองขายดี เป็นสื่อกลางสำหรับผู้ด้อยโอกาสในสังคมตลอดไป นายชาญกล่าวด้วยเสียงปนสะอื้น

ด้านนายสรวิทย์ ต่างใจ ผญบ.หมู่ 12 กล่าวว่า ในการหาแรงงานมาช่วยสร้างบ้านให้กับครอบครัวนายชาญ นั้น เย็นนี้ตนจะเรียกประชุมคณะกรรมการและชาวบ้านที่เป็นช่างฝีมือ เพื่อมาร่วมกันสร้างบ้านหลังใหม่ให้แก่ครอบครัวรันทด ที่โชคดีมีผู้ใจบุญเข้ามาช่วยเหลือ ขณะที่เพื่อนบ้านซึ่งมาร่วมลุ้นว่าครอบครัวรันทด พอทราบว่าจะได้บ้านใหม่ พร้อมมีการดูแลด้วยเบี้ยเลี้ยงตลอดชีวิตต่างปรบมือให้กับมลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่าเพื่อการกุศลดังสนั่น โดยเฉพาะนางบรรจง นรรัตน์ เพื่อนบ้านที่ให้การจุนเจือด้านอาชีพแก่นายชาญ ที่วันนี้มีใบหน้ายิ้มแย้มแสดงดีใจกับนาชาญที่รักเหมือนน้องชาย ผิดกับวันที่ผู้สื่อข่าวประจำ จ.พะเยา เข้าไปนำเสนอข่าว ที่นางบรรจบเล่าชีวิตรันทดของนายชาญไปพร้อมๆ กับน้ำตาที่ไหลพราก...

ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/thailand/189684 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 10 มี.ค.56
วันที่โพสต์: 11/03/2556 เวลา 03:03:41 ดูภาพสไลด์โชว์  พบชีวิตใหม่หนุ่มพิการเลี้ยงพ่อแม่

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่าเพื่อการกุศลพร้อมด้วยทีมงานเข้าให้การช่วยเหลือ ครอบครัว นายชาญ กันทะเนตร ตามที่เดลินิวส์เสนอข่าว วอนช่วยหนุ่มพิการเลี้ยงพ่อ-แม่ ที่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 12 บ้านทุ่งรวงทอง ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา ซึ่งเป็นครอบครัวรันทด โดยมีนายชาญ กันทะเนตร อายุ 50 ปี ซึ่งพิการขาทั้งสองข้างต้องคลานป้อนข้าว ปรนนิบัติ พ่อ วัยชรา อายุ 98 ปี พิการเดินไม่ได้และแม่วัย 87 ปี นอนป่วย โดยไม่มีหน่วยงานภาครัฐให้การเหลียวแล นั้น เมื่อ วันที่10 มี.ค.56 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่าเพื่อการกุศล พร้อมด้วยทีมงานประกอบด้วย นายเข้ม อัศราช นายอินเต้า ปัญจขันธ์ รองประธานสภา อบจ.พะเยา นายธวัช สุทธวงศ์ สจ.เขต อ.ปง เดินทางไปที่บ้านของนายชาญ กันทะเนตร หนุ่มพิการยอดกตัญญู เพื่อให้การช่วยเหลือ เมื่อไปถึงได้มี ส.อ.สมจิตร์ ฟูธรรม นายก อบต.ร่มเย็ต อ.เชียงคำ นายสรวิทย์ ต่างใจ ผญบ.หมู่ 12 บ้านทุ่งรวงทอง และชาวบ้านกว่า 30 คน รอให้การต้อนรับ จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส ได้เดินขึ้นบ้านไม้ยกพื้นสูง ฝาบ้านมุงด้วยแฝก โดยมีนายชาญ กันทะเนตร หนุ่มพิการ พร้อมกับพ่ออุ้ยติ๊บ ที่นั่งอยู่ข้าง และแม่อุ้ยติ๊บ นอนอยู่บนที่นอน โดย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ได้ทราบข่าวจาก นสพ.เดลินิวส์ ถึงความรันทดของครอบครัวนายชาญ จึงเดินทางเข้ามาดูข้อเท็จจริง และเมื่อเห็นกับตาแล้วความทุกข์ยากของครอบครัวนี้ลำบากกว่าที่อ่านพบในเดลินิวส์ โดยเฉพาะบ้านที่อาศัย เป็นบ้านยกพื้นสูงในขณะที่เจ้าของบ้านพิการเดินไม่ได้ จึงเป็นความยากลำบากต่อการขึ้นลงบ้าน อีกทั้งตัวบ้านนั้นหากร้อนก็ร้อนอบอ้าว ถ้าหนาวก็จะหนาวเข้ากระดูก ต้องยอมรับว่าทั้งพ่ออุ้ยติ๊บ กับแม่อุ้ยติ๊บ นั้นมีความอดทนสูงมากที่ทนอยู่ในบ้านที่สภาพไม่เอื้ออำนวยต่อคนพิการ ซึ่งยังไม่รวมถึงนายชาญ ที่ยังสามารถคลานไปมาบนบ้าน และยังลงมาเดินด้วยไม้ค้ำยัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่าเพื่อการกุศลพร้อมด้วยทีมงานเข้าให้การช่วยเหลือ ครอบครัว นายชาญ กันทะเนตร ประธานมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่าเพื่อการกุศล กล่าวต่อว่า ในนามมูลนิธิฯ จะขอรับดุแลครอบครัวนี้ ด้วยการสร้างบ้านให้ใหม่ตามแบบบ้านเอื้ออาทรของมูลนิธิฯ ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวมีห้องน้ำห้องครัวพร้อมสรรพ เพื่อความสะดวกต่อผู้พิการทั้งสามคน นอกจากนี้จะให้เงินเบี้ยเลี้ยงกับครอบครัวนี้ตลอดชีวิต ซึ่งจะเป็นเบี้ยเลี้ยงที่สามารถดูแลตนเองได้อย่างดี พร้อมกันนี้จะซื้อเตียงผู้ป่วยที่สามารถหมุนขึ้นลงได้เพื่อมอบให้กับแม่อุ้ยติ๊บ เพื่อสะดวกต่อการป้อนข้าว ป้อนน้ำ ของนายชายโดยใช้หมุนขึ้นลงซึ่งเป็นเตียงที่ใช้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาล นอกจากนี้จะซื้อรถจักรยานยนต์พ่วง สำหรับผู้พิการมอบให้กับนาชายเพื่อไว้ใช้ในการเดินทางไปไหนมาไหน โดยไม่ต้องใช้รถโยกที่ต้องใช้แรงมาก ร.อ.ธรรมนัส กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการสร้างบ้านตนจะมอบให้นายธวัช สุทธวงศ์ สจ.เขต อ.ปง มาดำเนินการทั้งหมดในวันที่ 11 มี.ค.56 โดยประสานกับ นายก อบต.ร่มเย็น และ ผญบ.หมู่ที่ 12 บ้านทุ่งรวงทอง โดยมีข้อแม้ว่าทางท้องถิ่นจะต้องจัดหาแรงงานในหมู่บ้านมาช่วยสร้าง ส่วนค่าวัสดุต่างๆ นั้นทางมูลนิธิฯ รับผิดชอบทั้งหมด เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน เพื่อความเข้มแข็งของชุมชนเอง สำหรับสิ่งของอื่นๆ นั้นตนจะเร่งดำเนินการให้เจ้าหน้าที่นำมามอบให้โดยเร็วที่สุด สำหรับบ้านนั้นจะต้องสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน ก่อนปีใหม่เมือง (สงกรานต์) จะต้องทำบุญขึ้นบ้านใหม่หลังนี้ให้ทัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่าเพื่อการกุศลพร้อมด้วยทีมงานเข้าให้การช่วยเหลือ ครอบครัว นายชาญ กันทะเนตร ประธานมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่าเพื่อการกุศล กล่าวต่อว่า ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะครอบครัวพิการเช่นนี้ ทางราชการสมควรที่จะให้ความสำคัญเข้ามาช่วยเหลือ แต่กลับไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาเยี่ยวยา เรื่องนี้รัฐบาลไม่ควรนิ่งเฉยต้องเร่งกำชับกระทรวง ทบวงกรม ที่เกี่ยวข้องปรับปรุงการทำงานให้เข้าถึงผู้เดือดร้อนเร็วกว่านี้ ซึ่งรวมถึงกรณีผู้ประสบภัยธรรมชาติด้วย ซึ่งทางมูลนิธิฯ เราจะให้ความสำคัญต่อความเดือดร้อนของพี่น้องชาวพะเยาทุกหย่อมหญ้า เพื่อให้ผู้ด้อยโอกาสเหล่านั้นได้มีชีวิตอยู่ในสังคมอย่างเสมอภาคและมีความสุข เพื่อความสมานฉันท์ของคนในสังคมเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส กล่าว ด้านนายชาญ กันทะเนตร หนุ่มพิการยอดกตัญญู กล่าวว่า ในชีวิตไม่เคยคิดว่าจะมีผู้ใจบุญให้ความช่วยเหลือครอบครัวตนถึงขนาดนี้ ซึ่งที่จริงแล้วขอเพียงเงินอีกสัก 2-3,000 ต่อเดือน สำหรับดูและพ่อแม่ผู้ชรา ตนก็ภูมิใจแล้วเพราะสามารถจุนเจือครอบครัวอยู่ตามอัตภาพได้ ตนไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณนี้อย่างไร นอกจากคำขอบคุณและขอให้มลนิธิธรรมนัสพรหมเผื่อเพื่อการกุศล เจริญรุ่งเรืองเป็นที่พึ่งของผู้ด้อยโอกาสในจังหวัดพะเยาต่อไปอย่างยั่งยืน กล่าวถึงตรงนี้น้ำตาไหลมาเอ่อเบ้าตานายชาญ นายชาญกล่าวต่อว่า หลังที่ นสพ.เดลินิวส์ เสนอข่าวไปแล้ว นายก อบจ.นครปฐม ส่งเงินมาช่วยเหลือ 3,000 บาท และมีพระจาก จ.เชียงรายมาพบพร้อมมอบเงินช่วยอีก 500 บาท ยังเสนอตัวอาสารับใช้หากทางครอบครัวตนมีความจำเป็นเร่งด่วนในการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ต้องขอขอบคุณ เดลินิวส์ ที่ทำให้ครอบครัวตนได้มีวันนี้ มีบ้านใหม่ มีผู้ดูแลตลอดชีวิต ขอให้เดลินิวส์จงเจริญรุ่งเรืองขายดี เป็นสื่อกลางสำหรับผู้ด้อยโอกาสในสังคมตลอดไป นายชาญกล่าวด้วยเสียงปนสะอื้น ด้านนายสรวิทย์ ต่างใจ ผญบ.หมู่ 12 กล่าวว่า ในการหาแรงงานมาช่วยสร้างบ้านให้กับครอบครัวนายชาญ นั้น เย็นนี้ตนจะเรียกประชุมคณะกรรมการและชาวบ้านที่เป็นช่างฝีมือ เพื่อมาร่วมกันสร้างบ้านหลังใหม่ให้แก่ครอบครัวรันทด ที่โชคดีมีผู้ใจบุญเข้ามาช่วยเหลือ ขณะที่เพื่อนบ้านซึ่งมาร่วมลุ้นว่าครอบครัวรันทด พอทราบว่าจะได้บ้านใหม่ พร้อมมีการดูแลด้วยเบี้ยเลี้ยงตลอดชีวิตต่างปรบมือให้กับมลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่าเพื่อการกุศลดังสนั่น โดยเฉพาะนางบรรจง นรรัตน์ เพื่อนบ้านที่ให้การจุนเจือด้านอาชีพแก่นายชาญ ที่วันนี้มีใบหน้ายิ้มแย้มแสดงดีใจกับนาชาญที่รักเหมือนน้องชาย ผิดกับวันที่ผู้สื่อข่าวประจำ จ.พะเยา เข้าไปนำเสนอข่าว ที่นางบรรจบเล่าชีวิตรันทดของนายชาญไปพร้อมๆ กับน้ำตาที่ไหลพราก... ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/thailand/189684

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...