สสจ.เปิดมหกรรมรณรงค์ เด็กอีสานจะฉลาด ถ้าไม่ขาดไอโอดีน

ภาพ นายสุรชัย เบ้าจรรยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีบันทึกข้อตกลง “เด็กอีสานจะฉลาด ถ้าไม่ขาดไอโอดีน”

วันที่ 28 ก.พ.2559 นายสุรชัย เบ้าจรรยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ได้มาเป็นประธานพิธีบันทึกข้อตกลง “เด็กอีสานจะฉลาด ถ้าไม่ขาดไอโอดีน” ณ โรงแรมพูลแมน ราชา ออคิด จ.ขอนแก่น โดย นพ.อภิชัย มงคล ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 7 เป็นผู้ดำเนินการในการทำพิธีบันทึกข้อตกลงร่วมกันที่จะพัฒนาสติปัญญาด้วยการแก้ไขปัญหาการขาดสารไอโอดีนให้กับประชาชนใน 4 จังหวัด อันได้แก่ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และ จ.กาฬสินธุ์ โดยการนำของผู้ว่าราชการ ( ผวจ.) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ( อบจ.) นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ที่จะบูรณาการ แผนงาน งบประมาณ คน และการจัดการร่วมกัน

นพ.อภิชัย มงคล ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 7 กล่าวว่า โรคขาดสารไอโอดีน มีผลต่อการสร้างไทรอยด์ฮอร์โมน ทำให้เกิดการเสียสมดุลในการควบคุมการทำงานของต่อมไทรอยด์ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการพัฒนาสมองและสติปัญญา ปัญหาที่เกิดจากการขาดสารไอโอดีน มีที่มองเห็นได้ชัด เช่น คอพอก เอ๋อ และที่มองไม่เห็นคือสติปัญญาต่ำกว่าธรรมชาติ ปัญหาเรื่องสติปัญญา ยังเป็นปัญหาสำคัญสำหรับประเทศไทยมาก ทั้งนี้ เพราะการขาดไอดีนทำให้สมองเสียหาย

นพ.อภิชัย มงคล กล่าวอีกว่า จากการสำรวจหลายครั้ง รวมทั้งที่กรมสุขภาพจิตได้ทำการสำรวจทั่วประเทศในต้นปี พ.ศ. 2554 พบว่า ไอคิวเฉลี่ยสำหรับเด็กนักเรียนไทยมีค่าเท่ากับ 98.59 จุด ในขณะที่ประเทศในภูมิภาคเอเชียที่เจริญแล้วส่วนใหญ่ไอคิวเฉลี่ยของเด็กนักเรียนมีค่าเท่าเกิน 100 จุดไปมากแล้ว และในการสำรวจทั่วประเทศครั้งนั้น พบว่า เด็กนักเรียนในภาคอีสานมีไอคิวเฉลี่ยต่ำที่สุดในประเทศไทย โดยมี 18 จังหวัด ไอคิวเฉลี่ยต่ำกว่า 100 จุด ขณะเดียวกัน ผลการสำรวจค่ามัธยฐานของระดับไอโอดีนในปัสสาวะหญิงตั้งครรภ์ของกรมอนามัยในปี พ.ศ. 2554 ได้รายงานว่า ภาคอีสานมีระดับค่ามัธยฐานไอโอดีนหญิงตั้งครรภ์ต่ำที่สุดเช่นกัน ดังนั้นจึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องแก้ปัญหานี้ โดยเน้นที่หญิงตั้งครรภ์ เพราะการขาดสารไอโอดีนในช่วงนี้ผลกระทบต่อสมองและสติปัญญารุนแรงที่สุด

“กลุ่มเป้าหมายที่จำเป็นต้องเสริมไอโอดีนเพราะมีผลกระทบมากที่สุดก่อน คือ หญิงตั้งครรภ์ที่มาฝากท้องครั้งแรกจะได้รับยาบำรุงเสริมไอดีน 2 เม็ด รับประทานทันทีเพียงครั้งเดียว ซึ่งจะมีผลปกป้องสมองมารดาและเด็กในครรภ์อย่างดีไปได้อย่างน้อย 1 ปี ตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก หรือ ยาบำรุงเสริมไอโอดีนแบบรับประทานทุกวัน ในขณะเดียวกันนี้เราก็จะพยายามเร่งบังคับใช้กฎหมายเกลือเสริมไอโอดีนเท่าที่มีอยู่ในกระทรวงสาธารณสุขอย่างเต็มที่ และร่วมกันผลักดันให้มีกฎหมายสมบูรณ์และบังคับใช้ให้ได้ในที่สุด” นพ.อภิชัยกล่าว

นายสุรชัย เบ้าจรรยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลกพบว่า การขาดสารไอโอดีน นำไปสู่ภาวะปัญญาอ่อนของประชากรโลก ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่มีการขาดไอโอดีนอย่างรุนแรง จะมีระดับสติปัญญาโดยเฉลี่ย ต่ำกว่าคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่มีไอโอดีนเพียงพอ ถึง 13.5 จุด IQ ซึ่งส่งผลถึงความสามารถในการเรียนรู้ของเด็ก คุณภาพชีวิตของคนหนุ่มสาว และเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ และการชะลอตัวในการพัฒนาสังคม และเศรษฐกิจ จากปัญหาดังกล่าว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 7 ขอนแก่น ร่วมกับสำนักตรวจราชการสาธารณสุข เครือข่ายที่ 7 จึงจัดทำโครงการพัฒนาสติปัญญาด้วยการแก้ไขปัญหาโรคขาดสารไอโอดีน โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคีเครือข่าย เพื่อกระตุ้นให้มาตรการเกลือเสริมไอโอดีนถ้วนหน้า (Universal salt Iodization) ประสบความสำเร็จและเพื่อให้หญิงมีครรภ์ทุกรายได้รับยาเม็ดเสริมไอโอดีนอย่างพอเพียงตลอดการตั้งครรภ์ (Iodine Oil Capsule)

http://www.dailynews.co.th/thailand/187503

เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 28 ก.พ.56

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 28 ก.พ.56
วันที่โพสต์: 2/03/2556 เวลา 03:48:07 ดูภาพสไลด์โชว์ สสจ.เปิดมหกรรมรณรงค์ เด็กอีสานจะฉลาด ถ้าไม่ขาดไอโอดีน