ระทึกตาวัย 83 ขับปิกอัพขนคนพิการ-ผู้สูงอายุ พุ่งชนท้ายรถบรรทุก บาดเจ็บระนาว 14 คน
ระทึกตาวัย 83 ขับปิกอัพขนคนพิการ-ผู้สูงอายุ พุ่งชนท้ายรถบรรทุก บาดเจ็บระนาว 14 คน
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 17 ก.พ.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะชนท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบนถนนปู่เจ้าสมิงพราย ใกล้เคียงสะพานคลองขุด ต.สำโรงกลาง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีเขียว ทะเบียน รล 2348 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ สภาพหน้ารถพังยับเยิน ใกล้กันพบผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 14 ราย ซึ่งเป็นผู้สูงอายุและคนพิการ เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาล ห่างออกไปพบรถบรรทุก 10 ล้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 70-9300 นครสวรรค์ จอดอยู่ สภาพด้านท้ายฝั่งขวามีร่องรอยการถูกชน และไฟท้ายหลุดห้อยลงมา
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของบ้านหลังหนึ่ง สามารถจับภาพรถบรรทุกขับมาในเลนซ้าย แล้วเลี้ยวขวาเข้าเลนกลาง เพื่อหลบรถกระบะตู้ทึบที่จอดอยู่ในเลนซ้าย ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่รถกระบะ ซึ่งเป็นรถที่คนเจ็บทั้งหมดนั่งมา ขับมาในเลนกลาง พุ่งชนท้ายรถบรรทุกช่วงฝั่งขวาอย่างจัง
จากการสอบถาม นายอ๊อด อายุ 83 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะ เล่าว่า รถกระบะคันนี้เป็นรถขนคนไข้ที่สูงอายุและพิการของสถาบันราชประชาสมาสัย เพิ่งกลับมาจากพาคนพิการสูงอายุกลุ่มนี้ทั้งหมด 13-15 คน กลับมาจากรับของบริจาคที่ย่านบางกะปิ กทม. และอยู่ระหว่างกลับที่พักในสถาบันดังกล่าว ซึ่งอีกไม่กี่กิโลเมตรก็จะถึง แต่พอมาถึงที่เกิดเหตุ รถบรรทุกคู่กรณีได้เปลี่ยนเลนปาดออกมาทำให้เบรกไม่ทัน พุ่งชนท้ายอย่างจังทำให้ผู้พิการสูงอายุที่นั่งอยู่ด้านหลังได้รับบาดเจ็บกันจำนวนมาก
ด้าน นายสนอม อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นคนที่นั่งมากับรถกระบะ เล่าว่า พวกตนเป็นคนพิการ ได้รวมตัวกันไปรับบริจาคข้าวกันมาที่บ้านของคุณผู้หญิง เสรีไทย สหกรณ์ กำลังจะกลับบ้านกันที่โรงพยาบาลพระประแดง (สถาบันราชประชาสมาสัย) ตนนั่งอยู่ท้ายรถ อยู่ดีๆ ก็เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
ขณะที่ นายสมหมาย อายุ 48 ปี คนขับรถบรรทุกสิบล้อ ให้การว่า ตนขับรถมาถึงที่เกิดเหตุและกำลังจะจอดรถชิดขอบทางด้านซ้าย เพราะเห็นว่าข้างหน้ามีรถจอดอยู่ก่อนหน้านี้ จึงจะจอดพักรถแต่พอจอดได้ไม่นานก็มีรถสองแถวคู่กรณีขับมาพุ่งชนในลักษณะไม่ได้เบรกแต่อย่างใด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะเคลื่อนย้ายรถเพื่อเปิดการจราจร อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้เชิญตัวคนขับรถบรรทุกไปให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมเดินทางไปสอบปากคำคนเจ็บที่โรงพยาบาล เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณ... https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_9638321