จับน้าพาหลานพิการเร่ขอทานเมืองพัทยา
พ.ต.ท.ออมสิน สุขการค้า พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ ช่วยราชการศูนย์พิทักษ์เด็ก เยาวชน และสตรี ตำรวจภูธรภาค ๒ (พดส.ภ.๒) สืบทราบว่ามีคนนำเด็กพิการมาเร่ร่อนขอทานอยู่ริมชายหาดพัทยาใต้ ตรงข้ามโรงแรมฮาร์ดร็อค พัทยา หมู่ ๙ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้ ร.ต.ท.วรากร บรรณสิทธิ์ ร.ต.ท.นิติพัฒน์ เหมะกุลเศรษฐ์ และ ร.ต.ต.สมเด็จ อนุโพจน์ รอง สว. นำกำลังตำรวจ พดส.ภ.๒ เดินทางไปตรวจสอบ
จากการตรวจสอบบริเวณริมชายหาด พบมีเด็กหญิง อายุประมาณ ๑๓ ปี ลักษณะพิการขาทั้งสองข้างลีบเล็ก, หลังโก่งงอ และที่หน้าอกมีก้อนเนื้องอกออกมาขนาดใหญ่โตผิดปกติ กำลังนั่งขอเศษสตางค์จากผู้ใจบุญทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เดินผ่านไปมา โดยมีแก้ว ๑ ใบวางอยู่ตรงหน้า ท่าทางน่าเวทนา หลายคนอดสงสารไม่ได้จึงควักเงินให้ แต่ระหว่างนั้นได้มีหญิงไทยลักษณะคล้ายทอมบอย ที่ทำทีนั่งเล่นอยู่ใกล้ๆ เดินมาเก็บเงินที่อยู่ในแก้วเรื่อยๆ ตำรวจที่ซุ่มอยู่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม สอบสวนทราบชื่อ น.ส.ราภรณ์ บุญจันทึก อายุ ๓๔ ปี ในตัวพบเงินเศษเหรียญและแบ๊งค์ย่อยนับรวมแล้วจำนวน ๑,๒๐๐ บาท จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนคุมตัว น.ส.ราภรณ์ ไปสอบปากคำ และนำตัวเด็กไปให้นายมงคล บุญทศ นักสังคมสงเคราะห์ ทำการสอบถามข้อมูล
เบื้องต้น น.ส.ราภรณ์ รับสารภาพว่า ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ ๑๓ ปี เป็นหลานสาว เมื่อเดือนม.ค.ไปรับมาจากจ.สุรินทร์ โดยอ้างกับมารดาของเด็กว่าจะพาไปอุปการะเลี้ยงดูที่เมืองพัทยา เพราะสงสารที่เด็กพิการ ซึ่งตอนแรกคิดว่าจะมาขายกุ้งและปลาหมึกแต่ไม่มีเงินลงทุน จึงให้หลานไปนั่งขอทานที่ริมชายหาดพัทยาเพื่อหาเงิน ซึ่งในวันหนึ่งๆ จะได้เงินประมาณ ๑,๐๐๐-๒,๐๐๐ บาท
เบื้องต้นจะได้ส่งเด็กไปพักฟื้นจิตใจชั่วคราวที่บ้านพักเด็กและครอบครัวบางละมุง ก่อนประสานนักสังคมสงเคราะห์ใน จ.สุรินทร์ เพื่อให้ลงพื้นที่ไปสำรวจความเป็นอยู่ที่บ้านของเด็กว่าสามารถเลี้ยงดูได้หรือไม่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ส่วน น.ส.ราภรณ์ ทางตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ค้ามนุษย์ และบังคับขู่เข็ญ, ชักจูง, ส่งเสริม, ยินยอม หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้เด็กมาขอทานเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ฯ (เนชั่นแชลแนลออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๙ ก.พ.๕๖)