'จุดประทัด'!ระวัง'ตาบอด-นิ้วด้วน'

๗ ก.พ. ๕๖ นพ.ประจักษวิช เล็บนาค รักษาการเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีนถือเป็นเทศกาลหนึ่งที่มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินมาก โดยมีสาเหตุส่วนใหญ่จากเพลิงไหม้ และการบาดเจ็บจากการจุดประทัด ด้วยเพราะตามธรรมเนียมปฏิบัติคนไทยเชื้อสายจีน จะมีพิธีไหว้บรรพบุรุษ จุดประทัด เพื่อความเป็นสิริมงคลและความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาท จึงขอแนะนำวิธีป้องกันเบื้องต้น คือหากจุดธูปเทียนควรดูแลและดับไฟธูปเทียนให้สนิท ไม่ควรจุดธูปเทียนในปริมาณมากๆ ในคราวเดียว ส่วนการเผากระดาษเงิน กระดาษทอง ควรเผาในพื้นที่โล่งแจ้ง และควรเตรียมถังน้ำไว้ใกล้มือเพื่อป้องกันไฟลุกลาม แต่ทั้งนี้หากเกิดไฟลุกไหม้ ควรตั้งสติรีบโทรแจ้งดับเพลิง และหากมีควันในปริมาณมากให้หาผ้าชุบน้ำปิดจมูกไว้ หายใจผ่านผ้าชุบน้ำเพราะผ้าชุบน้ำจะช่วยกรองควันพิษไว้ได้

นอกจากนี้ อีกภัยที่น่าเป็นห่วงและมีสถิติการบาดเจ็บและความสูญเสียสูง คือการบาดเจ็บจากการจุดประทัด โดยการจุดประทัดนั้นจะต้องระมัดระวังอย่างมาก ไม่ควรจุดประทัดภายในบ้านเรือน ใกล้แนวสายไฟ เพราะประกายไฟอาจกระเด็นไปติดวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิง ทำให้เกิดเพลิงไหม้ และไม่จุดประทัดครั้งละจำนวนมาก เพราะแรงระเบิดจากประทัดอาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะการจุดประทัดที่มีสายชนวนสั้น จุดไม่ติดก็ไม่ควรจุดซ้ำ และที่สำคัญห้ามโยนประทัดใส่กลุ่มคนเด็ดขาด

"ประทัด พลุ และดอกไม้ไฟ เป็นวัตถุอันตรายที่จัดอยู่ในหมวดหมู่ของวัตถุระเบิดชนิดหนึ่ง ซึ่งอาจเกิดอันตรายต่อร่างกาย ๓ ทาง คือ ๑.ทางผิวหนัง คือเกิดแผลไหม้จากแรงระเบิด ๒.ทางนิ้วมือ คืออาจทำให้นิ้วมือ หรืออวัยวะขาด เนื่องจากแรงระเบิด และ๓.ทางตา ซึ่งเป็นอวัยวะที่บอบบางที่สุด คืออาจทำให้ตาดำไหม้ ขุ่นมัว เลือดออกช่องหน้าม่านตา และอาจทำให้ตาบอดถาวรได้"

นพ.ประจักษวิช ยังกล่าวถึงการช่วยเหลือเมื่อได้รับอันตรายจากเหตุประทัดว่า สำหรับการปฐมพยาบาลผู้ป่วยที่นิ้วหรืออวัยวะใดอวัยะหนึ่งขาดนั้น ให้รีบห้ามเลือดบริเวณที่อวัยวะขาด โดยใช้ผ้าสะอาดปิดบาดแผล พันแผลบริเวณเหนือแผลให้แน่นเพื่อป้องกันเลือดออก ทั้งนี้ไม่ควรใช้เชือกหรือสายรัดเพราะจะทำให้รัดเส้นประสาทหลอดเลือดเสียได้ นอกจากนี้ควรสังเกตอาการผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอย่างใกล้ชิด ควรงดอาหารทางปาก และจิบน้ำได้เล็กน้อย เพราะอาจจะต้องรับการผ่าตัดด่วน ส่วนวิธีการเก็บรักษาอวัยวะส่วนที่ขาดคือ ให้นำสิ่งสกปรกออกจากส่วนที่ขาด ล้างน้ำสะอาด ใส่ถุงพลาสติก ปิดปากถุงให้แน่น แล้วนำไปใส่ในน้ำแข็ง โดยอวัยวะที่มีกล้ามเนื้อมาก ๆ เช่น แขน ขา ต้องได้รับการผ่าตัดต่อเส้นเลือดให้เร็วที่สุด ภายใน ๖ ชม. ส่วนบริเวณที่ไม่มีกล้ามเนื้อ เช่น นิ้ว สามารถเก็บไว้ได้ ๑๒ - ๑๘ชม. ส่วนการบาดเจ็บทางตาให้รีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดในปริมาณมากทันที และการปฐมพยาบาลสำหรับแผลไฟไหม้นั้นให้ถอดเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่ถูกไฟเผาไหม้ออก โดยห้ามใช้น้ำมัน โลชั่น ยาสีฟันหรือยาปฏิชีวนะทาบนแผลเด็ดขาด แต่หากพบว่ามีบาดแผลไฟไหม้วิกฤติ คือมีแผลขนาดใหญ่ หรือไหม้ลวกทางเดินหายใจ และมีการอาการกลืนลำบาก เสียงแหบ หายใจใจลำบาก หรือมีอาการสูดควันจำนวนมาก ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว ให้รีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วน ๑๖๖๙ เพื่อขอความช่วยเหลือทางการแพทย์โดย ซึ่งจะมีทีมแพทย์ฉุกเฉิน และทีมกู้ชีพคอยให้ความช่วยเหลือและให้คำปรึกษาตลอด ๒๔ชั่วโมง (คมชัดลึกออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๗ ก.พ.๕๖)

ที่มา: คมชัดลึกออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๗ ก.พ.๕๖
วันที่โพสต์: 8/02/2556 เวลา 03:29:43