‘เบเกอรี่ดีอาเฟ่’ฝีมือเด็กหูหนวก

“คนหูหนวกเรามองว่าเขาเป็นคนพิการที่ด้อยโอกาสกว่าคนพิการประเภทอื่นๆ เพราะเวลาสังคมภายนอก มองเขาจะมองว่าเป็นคนปกติ จึงไม่ค่อยได้สิทธิ์ใดๆ คนหูหนวกบางคนต้อง ไปทำงานในโกดังเก็บของบางคนไม่มีงานทำ” ธรรมธิดา ธรรมยาสิริ นิสิตชั้นปีที่ ๓ จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวหน้าทีม “จุดแสงเทียนในโลก...ไร้เสียง” หนึ่งในทีมที่ได้เข้าร่วมโครงการ “กรุงไทยต้นกล้าสีขาว ประจำปี ๒๕๕๕” เอ่ยถึงจุดบกพร่องในสังคม จนเป็นที่ มาของการรวมกลุ่มเพื่อน ๕ คน ประกอบด้วย นางสาววริษฐา อุยยามะพันธุ์ นางสาวชนิกานต์ วงศ์ธาดา นางสาวชนัญญา รัตนอำพล และนายธนาธร อมรสิริวิทย์ เพื่อเข้าไปเพิ่มทักษะด้านอาชีพให้กับน้องๆ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ในโรงเรียน สอนคนหูหนวก เศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์ กรุงเทพ

น้องๆ จากทีมจุดแสงเทียนในโลก... ไร้เสียง ได้เข้าไปส่งเสริมโครงการส่งเสริมทักษะอาชีพให้กับนักเรียนหูหนวก เศรษฐเสถียรฯ ให้กับนักเรียนทั้งหมด ๒๐ คนที่ตั้งกลุ่มทำเบเกอรี่อยู่แล้วด้วยการไปออกแบบแพ็กเกจจิ้งให้ หาช่องทางการจัดจำหน่าย ใหม่ผ่านเฟซบุ๊ก โดยตั้งชื่อเบเกอรี่ แบรนด์ ใหม่ว่า De Afe “ดี อาเฟ่” ซึ่งมาจากคำว่า deaf ที่แปลว่าหูหนวก และคำว่า caf' ที่แปลว่าร้านกาแฟ ร้านขายอาหารและขนมเล็กๆ เมื่อรวมกันจึงกลายเป็น ดีอาเฟ่ ที่ให้ความหมายรวมๆ ว่าขนมเบเกอรี่จากคนหูหนวก รวมทั้งการสอนวิชาทำบัญชีรายรับรายจ่าย

วริษฐา เล่าว่า ต้องการให้เบเกอรี่ของน้องๆ กลุ่มคนหูหนวกน่าสนใจมากขึ้นจึงมองไปที่แพ็กเกจจิ้งและการรีแบรน ดิ้งใหม่เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบรับประทานเบเกอรี่อยู่แล้ว ส่วนเรื่องรสชาตินั้นพบว่าฝีมือของน้องในโรงเรียนดีมาก แทบไม่ต้องปรับปรุงอะไรเลย แต่ที่ผ่านมาแพ็กเกจไม่ชวนซื้อไม่น่ากิน นอกจากนี้ทางทีมยังหาบริษัทที่ผลิตกล่องเบเกอรี่ที่สนใจทำซีเอสอาร์หรือการทำธุรกิจตอบแทนเพื่อสังคมมาร่วมด้วย โดยอธิบายถึงตัวโครงการซึ่งมีหลายรายมากปฏิเสธจนในที่สุดมาได้ผู้ผลิตกล่องเบเกอรี่ บริษัท ดับเบิ้ลบีบ็อกซ์ ที่มีจิตใจเพื่อสังคม ผลิตกล่องให้ในราคาต้นทุนพร้อมส่งให้กับ โรงเรียนโดยไม่คิดค่าขนส่ง โดยการออกแบบโลโก้และแบรนด์ใช้วิธีขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่อยู่คณะสถาปัตย์ฯ จุฬาฯ มาช่วยกันออกแบบ โดยข้างกล่องบรรจุเรื่อง ราวความรู้สึกนึกคิดของคนหูหนวกเขียนไว้ ข้างกล่องด้วย

“พอเราทำแพ็กเกจใหม่ปรากฏว่าเบเกอรี่โรงเรียนสอนคนหูหนวกมียอดขาย เพิ่มขึ้นถึง ๕๐,๐๐๐ บาท” สมาชิกในทีมจุด แสงเทียนโลก...ไร้เสียง บอกถึงความสำเร็จ ของโครงการที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปลาย ปีที่ผ่านมา หลังจากจัดจำหน่ายทางเฟซบุ๊ก และใส่เรื่องราวของคนหูหนวกไว้ ทำให้คน สนใจสั่งซื้อมาทางนี้จำนวนมาก ซึ่งราคาขาย สินค้าเบเกอรี่ไม่ต่างจากร้านค้าทั่วไป เช่น คุกกี้ในปริมาณ ๕๐๐ กรัม ขายในราคา ๑๕๐ บาท ๒๘๐ กรัม ราคา ๘๐ บาท แต่เธอบอก ว่ามากกว่าความอร่อยแล้วคือการให้คุณค่า ทางจิตใจกับผู้ซื้อไปบริโภคด้วย ถือเป็นส่วน หนึ่งที่ช่วยให้สังคมน่าอยู่ขึ้นมาผ่านการช่วย เหลือให้โอกาสกับผู้ด้อยโอกาสซึ่งขาดโอกาส อยู่แล้ว

ธรรมธิดา ธรรมยาสิริ บอกอีกว่าจะทำโครงการเพิ่มทักษะด้านการตลาดให้กับเบเกอรี่ของคนหูหนวกด้วยการเพิ่มมูลค่าเบเกอรี่ให้กับโรงเรียนด้วยการประสานกับองค์กรภาครัฐ เอกชนที่จัดประชุมสัมมนา แล้วต้องใช้คอฟฟี่เบรกโดยพยายามจะผลักดันให้เบเกอรี่เป็นอาหารว่าง ทั้งคนพิการ และคนปกติ การผลิตให้มียอดขายลำพังสินค้ามีคุณภาพอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีการ ตลาดที่ดีด้วย น้องๆ จากทีมจุดแสงเทียนในโลก...ไร้เสียง บอกว่าพวกเธอใช้ความรู้จากการเรียนมาถ่ายทอด ติดปีกทางการทำธุรกิจให้เด็กๆ ในโรงเรียนคนหูหนวก สามารถสร้างโอกาสทางอาชีพได้ เพื่อให้ เป็นความรู้ติดตัวเมื่อจบการศึกษาไป ทั้งเป็นธุรกิจต้นแบบที่มีการดำเนินงานอย่าง มีประสิทธิภาพ และสามารถสร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพให้กับผู้พิการทั่วประเทศไทย สำหรับผู้ที่สนใจเบเกอรี่โรงเรียนสอนคนหูหนวก หรืออยากสนับสนุนกิจกรรมดีๆ ของน้องๆ สามารถสอบถาม รายละเอียดได้โทร. ๐-๒๒๔๑-๕๑๖๙, ๐- ๒๒๔๓-๖๖๙๕ หรือwww.facebook.com/ deafe.bakery ....(กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ฉบับที่ ๑๓๗๖ ประจำวันที่ ๙-๒-๒๐๑๓ ถึง ๑๒-๒-๒๐๑๓/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๑๓ ก.พ.๕๖)

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ฉบับที่ ๑๓๗๖ ประจำวันที่ ๙-๒-๒๐๑๓ ถึง ๑๒-๒-๒๐๑๓/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๑๓ ก.พ.๕๖
วันที่โพสต์: 13/02/2556 เวลา 03:27:08