ตำรวจ CIB รวบหนุ่มใหญ่กระทำอนาจารสาวพิการโดยใช้กำลัง
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (บก.ปพ.)ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรชาติ ธีรชาติธำรง ผบก.ปพ., พ.ต.อ.สุรพันธ์ มั่นคงดี, พ.ต.อ.วรศักดิ์ บัณฑิต, พ.ต.อ.ศราณุ โสมทัต รอง ผบก.ปพ., พ.ต.อ.เจษฎา โสมนัส ผกก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.ปพ., พ.ต.ท.วิศิษฏ์ ศรียาภัย, พ.ต.ท.สุริยา นาคประนม รอง ผกก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.ปพ.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.หญิง ภัสสราภรณ์ ไชยแก้ว สว.กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.ปพ., จ.ส.ต.ชลธิศ พุฒแตง, จ.ส.ต.อภิวัฒน์ เนตรคำยวง, ส.ต.ท.สกล ศรีสุรักษ์, ส.ต.ท.เจตน์สฤษฏิ์
อุทัยรัตน์, ส.ต.ต.นรินศักดิ์ สันติพงศ์ภักดี ผบ.หมู่ กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.ปพ.ร่วมกันจับกุม นายธีระวัฒน์ฯ หรือโอ๋ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 738/2568 ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2568 กระทำความผิดฐาน “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น”สถานที่จับกุม บริเวณริมถนน ซอยรังสิต-นครนายก ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อเดือนกรกฎาคม 2568 ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้พิการต้องใช้รถเข็น ทำงานอยู่ที่สมาคมคนพิการจังหวัดปทุมธานี ขณะนั้นได้มีนายธีระวัฒน์ฯ (ผู้ต้องหา) ซึ่งเป็นบุตรชายของแม่บ้านในสมาคมดังกล่าว โดยขณะผู้เสียหายนั่งทำงานบนรถเข็น นายธีระวัฒน์ฯ มีอาการมึนเมาสุราได้เดินเข้ามาหาผู้เสียหาย จากนั้นใช้มือโอบแล้วกระชากแขนของผู้เสียหายเพื่อจะหอม ทั้งยังพูดกับผู้เสียหายว่า “ขอหอมหน่อย” แต่ผู้เสียหายตกใจจึงได้สะบัดแขนหลุด และโวยวาย นายธีระวัฒน์ฯ ยังได้เข้ามาใช้มือจะเปิดกระโปรงของผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายได้ปัดป้องเอาไว้ทัน จนเพื่อนร่วมงานของผู้เสียเข้ามาช่วยเหลือ ผู้เสียหายจึงได้แจ้งเหตุดังกล่าวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 และได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าผู้ต้องหาพักอยู่ในพื้นที่ ซอยรังสิต-นครนายก ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงเข้าตรวจสอบ และจับกุมผู้ต้องหา ในการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้แจ้งสิทธิ ข้อกล่าวหา ให้ผู้ต้องหาทราบ และควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชนให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”
ขอบคุณ... https://thaitabloid.com/archives/239286