'มูลนิธิเส้นด้าย' ร่วมจัดรถรับ-ส่ง 'ผู้ทุพพลภาพ' หาหมอตามนัด ไม่มีค่าใช้จ่าย
'มูลนิธิเส้นด้าย' ร่วมจัดบริการรถรับ-ส่งผู้ทุพพลภาพ ผู้สูงอายุที่มีภาวะติดเตียง และคนพิการ หาหมอตามนัด ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมติดสติกเกอร์ประชาสัมพันธ์บนรถแท็กซี่ร่วมโครงการ นำร่องในพื้นที่กรุงเทพฯ เผยหลังเริ่มให้บริการตั้งแต่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมาได้ผลตอบรับที่ดี พร้อมแนะช่องทางติดต่อรับบริการได้ที่ มูลนิธิเส้นด้าย รพ.สังกัด กทม. และสายด่วน สปสช. 1330 แจ้งรายละเอียดใบนัดหมาย อาการ วัน เวลา สถานที่
วันที่ 4 ก.พ. 2568 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ ดร.อังสณา เนียมวณิชกุล กรรมการบริหารมูลนิธิเส้นด้าย พร้อมด้วย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สปสช. เขต 13 กรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่มูลนิธิเส้นด้าย ร่วมเปิดโครงการ "รับ - ส่งปลอดภัย ได้ (ใจ) ผู้ใช้บริการ Patient Transportation Initaitive 2025" ที่บองมาร์เช่ มาร์เก็ตพาร์ค (ตลาดบองมาร์เช่) แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร พร้อมกันนี้ คณะผู้บริหารทั้งหมดยังได้ร่วมกันติดสติกเกอร์โครงการให้กับกลุ่มผู้ขับรถโดยสารแท็กซี่สาธารณะเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการอีกด้วย
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว เป็นชุดสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ที่สนับสนุนและส่งเสริมการจัดบริการพาหนะรับส่งผู้ทุพพลภาพ เพื่อเข้ารับบริการสาธารณสุข ปีงบประมาณ 2568 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยใช้งบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันมีหน่วยบริการและเครือข่ายหน่วยบริการ จาก 3 สังกัดร่วมให้บริการ ประกอบด้วย สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร (กทม.) กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และมูลนิธิเส้นด้าย
พร้อมกันนี้ ภายในงานยังมีการอบรมและให้คำแนะนำ รวมถึงการฝึกปฏิบัติการปฐมพยาบาล และช่วยชีวิตเบื้องต้นจากบุคลากรสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ให้กับกลุ่มผู้ขับรถโดยสารแท็กซี่สาธารณะที่จะมาให้บริการรับ - ส่งผู้ป่วยในโครงการ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น รวมถึงการฝึกอบรมการทำ CPR หรือ การปฐมพยาบาลเพื่อช่วยเหลือผู้ที่หยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้นให้กลับมาหายใจอย่างถูกวิธี เพื่อจะได้ช่วยเหลือผู้ป่วยที่มาใช้บริการขณะเดินทาง รวมถึงเป็นองค์ความรู้ในการช่วยชีวิตผู้อื่นได้ในที่สาธารณะ
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อช่วยผู้ทุพพลภาพสิทธิบัตรทอง 30 บาท ได้เข้าถึงบริการสุขภาพ รวมถึงผู้ป่วยผู้สูงอายุที่ติดเตียง และกลุ่มคนพิการ ซึ่งต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรับบริการยังโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลเพื่อไปพบแพทย์ตามนัดหมาย โดยโครงการดังกล่าวจะช่วยให้ได้ใช้บริการรถรับ - ส่งจากเครือข่ายที่เข้าร่วม โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ลดภาระค่าใช้จ่ายทางด้านสุขภาพอีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ดี เบื้องต้นเป็นการนำร่องในพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อน เพราะ สปสช. ต้องการดูแนวทางการให้บริการ เพื่อจะได้พัฒนาระบบบริการ ก่อนจะมีการขยายการให้บริการไปยังต่างจังหวัดให้ครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป โดยโครงการนี้ได้เริ่มต้นให้บริการไปตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา และพบว่าประชาชนให้การตอบรับอย่างดี โดยเข้าใจเกี่ยวกับการใช้บริการ และประสานติดต่อเพื่อนัดหมายรับบริการอย่างเข้าใจ ซึ่งช่วยให้โครงการเดินหน้าได้อย่างดี
"สปสช. ต้องขอขอบคุณทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่สนับสนุนการเข้าถึงบริการสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ในโครงการดังกล่าว ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นผู้ทุพพลภาพ ผู้สูงอายุ และคนพิการที่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ตามนัดหมาย หรือไปรับบริการตามนัด หากมีปัญหาค่าใช้จ่ายบริการรถรับ – ส่ง สามารถติดต่อที่มูลนิธิเส้นด้าย รวมถึงโรงพยาบาลในสังกัด กทม. และที่สายด่วน สปสช. 1330 โดยขอให้แจ้งรายละเอียดการนัดหมายพบแพทย์ รวมถึงโรคและอาการเจ็บป่วยที่จะไปรับบริการ พร้อมกับแจ้งวัน เวลา และสถานที่ที่จะไปรับ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้บันทึกข้อมูลและบริหารจัดการรถรับ - ส่งไปบริการต่อไป" รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว
ด้าน ดร.อังสณา กล่าวว่า โครงการรับ - ส่งปลอดภัย ได้ (ใจ) ผู้ใช้บริการฯ มูลนิธิเส้นด้าย เป็นอีกหนึ่งเครือข่ายที่เข้าร่วมให้บริการกับผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย และขับเคลื่อนร่วมกับ สปสช. และกทม. ซึ่งดำเนินการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2568 และให้บริการไปแล้วนับร้อยเที่ยว ซึ่งปัจจุบันผู้ป่วย 1 ราย จะมีสิทธิใช้บริการรับ - ส่ง ไปรับบริการสุขภาพไม่เกิน 3 ครั้งต่อเดือน อย่างไรก็ตามในอนาคต คาดว่าจะมีการขยายบริการออกไปยังต่างจังหวัด เพราะมีผู้ป่วยที่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ตามนัดหมายเป็นประจำ ซึ่งอาจขยายบริการรับ - ส่ง ผู้ป่วยที่จำเป็นได้ไม่จำกัดครั้ง
"ที่ผ่านมามูลนิธิเส้นด้ายจัดรถรับ - ส่งผู้ป่วยในพื้นที่กรุงเทพฯ สำหรับผู้ป่วยโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ผ่านการบริหารจัดการกองทุนของมูลนิธิ แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมายังให้บริการผู้ป่วยได้ไม่ครอบคลุม ซึ่งการได้มาเป็นเครือข่ายและร่วมให้บริการกับ สปสช. จะช่วยให้ขยายบริการให้มากยิ่งขึ้นตามกลุ่มเป้าหมาย คือผู้ทุพพลภาพ ผู้สูงอายุที่มีภาวะติดเตียง และคนพิการ ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนที่ต่อเนื่อง ก็จะช่วยให้ระบบมีความยั่งยืน และช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างมาก" กรรมการบริหารมูลนิธิเส้นด้าย กล่าว