ร้อง ตร.เมาชน-เงียบ หญิงโดนตัดขาพิการ ชายกระดูกหักทั่วตัว วอนปวีณาเร่งรัดคดี
2 เหยื่อ ด.ต.รอง สวป.สภ.วังน้อย เมาขับรถชนไร้เยียวยาร้อง “ปวีณา” ช่วยเหลือ หลังประสบเหตุ ด.ต.มอบเงินให้บางส่วนแล้วหายไป ชีวิตอยู่อย่างลำบากครอบครัวยากจน ต้องหาเงินรักษาตัวอย่างต่อเนื่อง วอนเร่งรัดคดีเพื่อช่วยเหลือ ขณะที่ “ปวีณา” เผยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเงินเยียวยา พร้อมเร่งรัดคดีให้ความเป็นธรรมกับผู้ประสบเหตุ
เหยื่อตำรวจเมาขับรถชน ร้องมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือ เปิดเผยเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 ส.ค.ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ญาติพาเหยื่อจากเหตุ ร.ต.ต.อัฑฒกร วังสะนา รอง สวป.สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เมาขับรถชนได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี มี น.ส.วารุณี ม่วงละออ อายุ 22 ปี สภาพกระดูกแขนขวาหัก กระดูกน่องขวาหัก ต้องดามเหล็กเอาไว้ ส่วนหน้าแข้งขาขวาจนถึงเท้ากระดูกแตกเป็นแผลเหวอะมีอาการติดเชื้อ แพทย์ต้องตัดขาทิ้งตั้งแต่ใต้หัวเข่าลงไปกลายเป็นคนพิการ และนายณัฐวุฒิ อยู่ปราง อายุ 33 ปี สภาพกระดูกต้นคอหัก กระดูกแขนขวาหัก กระดูกขาขวาหักต้องผ่าตัดใส่เหล็ก กรามหัก ซี่โครงหัก ยังต้องใส่เกราะพยุงตัว ปลอกดามคอยังนั่งนานไม่ได้จะปวดหลัง และยังต้องทานแต่อาหารเหลว ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนชีวิตอยู่อย่างลำบาก เพราะฐานะยากจน กู้หนี้ยืมสินเพื่อมาเป็นค่าเดินทางไปโรงพยาบาลตามที่แพทย์นัด และค่าใช้จ่ายในการรักษาตัว ส่วนคู่กรณียังตกลงกันไม่ได้
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 4 ก.ค.66 เกิดอุบัติเหตุรถกระบะชนรถ จยย. 3 คัน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 2 ราย บนถนนเลียบคลองระพีพัฒน์ ต.พยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา รถ จยย.คันแรกเป็นรถของ น.ส.วารุณี ได้รับบาดเจ็บสาหัส คันที่ 2 เป็นของนายภูษิต งาตา อายุ 19 ปี แฟนของ น.ส.วารุณี ได้รับบาดเจ็บสาหัสต่อมาเสียชีวิต และคันที่ 3 เป็นของนายณัฐวุฒิ อยู่ปราง อายุ 33 ปี และ น.ส.วันเพ็ญ แจ้งสว่าง อายุ 35 ปี สองผัวเมีย นายณัฐวุฒิได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วน น.ส.วันเพ็ญเสียชีวิตคาที่ หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ร.ต.ต.อัฑฒกร วังสะนา อายุ 53 ปี รอง สวป.สภ.วังน้อย คนขับรถกระบะเป็นคู่กรณีสูงถึง 130 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
น.ส.วารุณีเปิดเผยว่า ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คน เป็นพนักงานแพ็กของที่คลังขนส่งพัสดุแห่งหนึ่ง หลังเลิกงานขี่รถ จยย. 3 คันตามกันมาเห็นรถกระบะขับส่ายไปมาก่อนจะพุ่งชนอย่างจัง มีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย เสียชีวิต 2 ศพ ตนต้องนอนโรงพยาบาลกว่า 1 เดือนสูญเสียขาเป็นคนพิการ ส่วนแฟนหนุ่มเสียชีวิต ที่ผ่านมาใช้สิทธิบัตรทองรักษาตัว แต่ยังมีเงินส่วนเกินที่ต้องจ่ายเอง และมีค่าเดินทางที่ต้องวิ่งเข้าออกโรงพยาบาลตามที่แพทย์นัด พี่สาวต้องไปกู้ยืมเงินมาเพื่อช่วยเหลือ ครอบครัวยากจนลำบากมาก หลังเกิดเหตุคู่กรณีนำเงินมาให้ 3 หมื่นบาท บอกว่าเป็นค่าเยียวยาเบื้องต้น จากนั้นไม่มาหาเลยจึงมาร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ
ด้านนายณัฐวุฒิเปิดเผยว่า ตนอยู่อย่างลำบากยังช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ ต้องมาสูญเสียภรรยาและอยู่ในสภาพแบบนี้เพราะคนที่เมาแล้วขับ ส่วนลูกสาว 9 ขวบต้องมากำพร้าแม่ ยังไม่รู้ชีวิตจะเดินต่อไปยังไง หลังเกิดเหตุคู่กรณีนำเงินมาให้ที่โรงพยาบาล 2 หมื่นบาทแล้วหายไป ไม่มีการติดต่อมาอีกเลย
ขณะที่นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวว่า เห็นใจ 2 ครอบครัวอย่างยิ่งที่ต้องสูญเสียคนในครอบครัวที่เป็นเสาหลัก และคนเจ็บยังอยู่ในอาการสาหัสต้องรักษาตัว ไม่สามารถ ทำงานหาเลี้ยงชีพได้ ทั้งนี้จะติดตามเงินเยียวยาผู้เสียหายทางคดีกับกรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม คาดว่าผู้เสียชีวิตจะได้เงินเยียวยา 110,000 บาท และผู้บาดเจ็บจะได้เงินเยียวยา 50,000 บาท และจะประสานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.สุพรรณบุรี ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านทั้ง 2 ครอบครัวเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความทุกข์ร้อน และวันนี้มูลนิธิปวีณาฯ มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวละ 5,000 บาท สำหรับด้านคดี ประสาน พ.ต.อ.สมเจษฐ์ แม้นบุตร ผกก.สภ.วังน้อย ทราบว่า คดีคืบหน้าไปมาก และจะเร่งส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องโดยเร็ว
ขอบคุณ... https://www.thairath.co.th/news/local/central/2719010