ร้องสื่อน้องพิการถูกสวมชื่อ
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม นางสกาวรัตน์ ชาบัวน้อย อายุ 33 ปี พา น.ส.เกื้อกูล ยังนุสสะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 3 ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เข้าร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่า น้องสาวพิการด้วยโรคออทิสติก และป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว แต่มีบุคคลใช้ข้อมูลบัตรประชาชน ณ สำนักทะเบียนอำเภอเมือง จ.ลพบุรี และต่อมาย้ายไปบ้านเลขที่ 134/426 หมู่ 1 ต.ต้นเปา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ แต่รายละเอียด ชื่อ-นามสกุลของบุคคลในข้อมูลทะเบียนราษฎรถูกเปลี่ยนเป็นชื่อของ น.ส.สุจรรย์จิรา ทิพย์โสมย์ เป็นที่น่าสังเกตว่า น.ส.เกื้อกูล อาจถูกสวมสิทธิในบัตรประจำตัวประชาชน โดยบุคคลอื่น เพราะรายละเอียดหลักฐานเลขที่บัตรประชาชนชื่อบิดา ชื่อมารดา และหลักฐานอื่นๆ เหมือนกันทุกประการ แต่ไม่ใช่ใบหน้าของน้องสาว ทั้งที่น้องสาวไม่เคยทำบัตรประชาชน
นางสกาวรัตน์กล่าวว่า ที่ตนไม่ได้พาน้องไปทำบัตรประชาชน เนื่องจากคิดว่าน้องสาวพิการและเจ้าหน้าที่ทำบัตรประจำตัวผู้พิการให้แล้ว จึงไม่ได้ไปติดต่อทำบัตรประชาชนให้น้องสาว และรับเงินช่วยเหลือผู้พิการเป็นประจำทุกๆเดือน ละ 500 บาท กระทั้งมาทราบว่า น้องสาวถูกคนอื่นสวมสิทธิใช้ชื่อ เมื่อครั้งช่วงน้ำท่วมปี 2554 เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสมาชิกในครอบครัว และมีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์มาติดต่อ เพื่อยืนยันข้อมูลว่าน้องสาวตนย้ายออกไปจากทะเบียนบ้านแล้ว จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือน้ำท่วม จึงทำให้เอะใจว่าทำไมชื่อน้องสาวถูกตัดออกจากทะเบียนบ้าน ทั้งที่ไม่เคยทำเรื่องย้ายออก จึงติดต่อกับทางอำเภอ เพื่อเข้าแจ้งเรื่องให้ดำเนินการ และไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน
“แต่เรื่องก็เงียบไป เกรงว่าจะมีการกู้หนี้ยืมสิน หรือบุคคลในภาพจะเกี่ยวข้อเรื่องหนีคดีหรือเป็นบุคคลต่างด้าว จะนำความเดือดร้อนให้กับครอบครัว จึงขอความช่วยเหลือผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบเร่งด่วน” นางสกาวรัตน์กล่าว
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม นางสกาวรัตน์ ชาบัวน้อย อายุ 33 ปี พา น.ส.เกื้อกูล ยังนุสสะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 3 ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เข้าร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่า น้องสาวพิการด้วยโรคออทิสติก และป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว แต่มีบุคคลใช้ข้อมูลบัตรประชาชน ณ สำนักทะเบียนอำเภอเมือง จ.ลพบุรี และต่อมาย้ายไปบ้านเลขที่ 134/426 หมู่ 1 ต.ต้นเปา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ แต่รายละเอียด ชื่อ-นามสกุลของบุคคลในข้อมูลทะเบียนราษฎรถูกเปลี่ยนเป็นชื่อของ น.ส.สุจรรย์จิรา ทิพย์โสมย์ เป็นที่น่าสังเกตว่า น.ส.เกื้อกูล อาจถูกสวมสิทธิในบัตรประจำตัวประชาชน โดยบุคคลอื่น เพราะรายละเอียดหลักฐานเลขที่บัตรประชาชนชื่อบิดา ชื่อมารดา และหลักฐานอื่นๆ เหมือนกันทุกประการ แต่ไม่ใช่ใบหน้าของน้องสาว ทั้งที่น้องสาวไม่เคยทำบัตรประชาชน นางสกาวรัตน์กล่าวว่า ที่ตนไม่ได้พาน้องไปทำบัตรประชาชน เนื่องจากคิดว่าน้องสาวพิการและเจ้าหน้าที่ทำบัตรประจำตัวผู้พิการให้แล้ว จึงไม่ได้ไปติดต่อทำบัตรประชาชนให้น้องสาว และรับเงินช่วยเหลือผู้พิการเป็นประจำทุกๆเดือน ละ 500 บาท กระทั้งมาทราบว่า น้องสาวถูกคนอื่นสวมสิทธิใช้ชื่อ เมื่อครั้งช่วงน้ำท่วมปี 2554 เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสมาชิกในครอบครัว และมีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์มาติดต่อ เพื่อยืนยันข้อมูลว่าน้องสาวตนย้ายออกไปจากทะเบียนบ้านแล้ว จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือน้ำท่วม จึงทำให้เอะใจว่าทำไมชื่อน้องสาวถูกตัดออกจากทะเบียนบ้าน ทั้งที่ไม่เคยทำเรื่องย้ายออก จึงติดต่อกับทางอำเภอ เพื่อเข้าแจ้งเรื่องให้ดำเนินการ และไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน “แต่เรื่องก็เงียบไป เกรงว่าจะมีการกู้หนี้ยืมสิน หรือบุคคลในภาพจะเกี่ยวข้อเรื่องหนีคดีหรือเป็นบุคคลต่างด้าว จะนำความเดือดร้อนให้กับครอบครัว จึงขอความช่วยเหลือผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบเร่งด่วน” นางสกาวรัตน์กล่าว
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)