มือ-ตีนด้วนหนุ่มสู้ชีวิตบนห้างดังพิการไม่ท้อแท้กุด2แขนกับ1ขาซ่อมคอมฯปร๋อขับรถส่งคนงาน
พบช่างซ่อมคอมพิวเตอร์พิการแขนขาดทั้ง 2 ข้าง กลางห้างดังย่านบางแค เผยก่อนหน้าปกติเหมือนคนอื่น แต่เกิดอุบัติเหตุไฟช็อตแขนขาไหม้เกรียม แพทย์ต้องตัดทิ้งรักษาชีวิต พอรักษาตัวหาย สำนักงานประกันสังคมส่งไปฝึกวิชาชีพ โดยเลือกเรียนด้านซ่อมคอมพิวเตอร์ หวังมาใช้ประกอบอาชีพที่บ้านเกิดกาฬสินธุ์ แต่มีเจ้าของร้านมารับไปทำงานเมื่อหลังสงกรานต์ที่ผ่านมาลั่นชีวิตนี้ไม่มีท้อ
เรื่องของคนพิการสู้ชีวิตครั้งนี้เปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 8 พ.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ชื่อคอม แลบ บนชั้น 3 ภายในห้างเดอะมอลล์ บางแค ถนนเพชรเกษม แขวงและเขตบางแค เพื่อตรวจสอบข่าวที่มีผู้คนร่ำลือว่าภายในร้านแห่งนี้ มีช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ฝีมือดีแต่พิการแขนทั้ง 2 ข้าง ซ้ำขายังขาดอีก 1 ข้างด้วย เมื่อไปถึงร้านดังกล่าว พบชายหนุ่มพิการแขนขาดทั้ง 2 ข้าง ตั้งแต่ข้อศอกลงมา ส่วนขาซ้ายขาดตั้งแต่หัวเข่าลงมาต้องใส่ขาเทียม กำลังง่วนอยู่กับการซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ ด้วยการใช้ปากคาบไขควงเปิดฝาหลังโน้ตบุ๊กอย่างคล่องแคล่ว ท่ามกลางสายตาลูกค้าและผู้ที่เดินผ่านไปมายืนหยุดดูด้วยความชื่นชมปนทึ่ง
จนกระทั่งช่วงพักเที่ยง ช่างซ่อมคอมพิวเตอร์พิการหนุ่มผู้นี้ได้เปิดเผยเบื้องหลังชีวิตให้ฟังว่า ชื่อนายเอกนรินทร์ สารรัตน์ ชื่อเล่นต้น อายุ 26 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน เลขที่ 26 หมู่ 4 ต.กุดค้าว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เพิ่งมาทำงานที่ร้านแห่งนี้ได้ไม่นาน โดยก่อนหน้ามีอวัยวะครบถ้วน ทำงานเป็น รปภ.อยู่ที่โรงงานน้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ ใกล้ๆบ้าน จนกระทั่งวันที่ 15 พ.ค.53 หลังแต่งงานแค่ 3 วัน ได้ออกไปรับเหมาขุดบ่อน้ำบาดาลกับพ่อตาที่บ้านหนองบัวทอน อยู่ห่างจากบ้านประมาณ 20 กม. ขณะที่กำลังยกตัวขุดดินเพื่อนำดินออกมาวางไว้นอกบ่อ เกิดอุบัติเหตุไฟช็อตตนกับพ่อตาจนหมดสติ บาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ มารู้ตัวอีกครั้งที่โรงพยาบาล เห็นแขน 2 ข้าง และขาข้างซ้ายของตนไหม้เกรียม แพทย์บอกว่าถ้าไม่ตัดทิ้งต้องเสียชีวิตเพราะจะติดเชื้อในกระแสเลือด ตอนนั้นคิดว่าเป็นเวรกรรมเก่า ชีวิตกำลังเริ่มต้นด้วยดีกลับมาเกิดเรื่องร้าย สุดท้ายยินยอมให้หมอตัดแขนตัดขาทิ้ง เมื่อฟื้นขึ้นมาเห็นแขนทั้ง 2 ข้าง และขาข้างซ้ายหายไป รู้สึกบอกไม่ถูกแต่คิดว่าต้องสู้ จะไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อชะตาชีวิต โดยรักษาตัวอยู่ 1 ปีเศษ มีภรรยาคอยดูแลจนกระทั่งมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน จากนั้นภรรยาได้หนีออกจากบ้านไม่ติดต่อกลับมาอีก จนต้องพาลูกสาววัยขวบเศษไปฝากให้แม่ตนดูแล
นายเอกนรินทร์กล่าวต่อว่า ต่อมาสำนักงานประกันสังคมส่งตนไปฝึกความถนัดด้านวิชาชีพที่ศูนย์ฟื้นฟู สมรรถภาพคนงาน จ.ปทุมธานี โดยตนเลือกเรียนด้านการซ่อมคอมพิวเตอร์ เพราะน่าจะหาเงินง่าย เนื่องจากสมัยนี้เกือบทุกคนต้องมีคอมพิวเตอร์ใช้ ตั้งใจจะเอาไปทำมาหากินที่บ้านต่างจังหวัด เพราะมีร้านซ่อมคอมพิวเตอร์น้อยมาก ฝึกวิชาชีพเกือบ 2 ปี จนกระทั่งช่วงหลังสงกรานต์ที่ผ่านมา เฮียเจ้าของร้านคอม แลบ คือนายพรเทพ มั่นชูพงศ์ ไปรับตนมาทำงานที่ร้าน โดยเช่าบ้านย่านท่าพระให้อยู่กับลูกจ้างรุ่นพี่อีกคนที่พิการขาซ้ายขาดเช่นกัน ทุกวันนี้ นอกจากซ่อมคอมพิวเตอร์แล้ว ยังต้องขับรถกระบะของเฮียไปรับของส่งของ รวมทั้งส่งเพื่อนร่วมงานด้วย ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ เคยถูกตำรวจเรียกตรวจใบอนุญาตขับขี่ แต่เมื่อตำรวจเห็นสภาพตนก็ไม่ว่าอะไร
“ทุกวันนี้ มีหน้าที่ลงโปรแกรม รื้อเครื่อง ซ่อมเครื่อง ทำได้เกือบทุกอย่าง ยกเว้นถ้านอตตัวเล็ก หรืองานชิ้นเล็กจริงๆต้องให้เพื่อนช่วยทำ แต่ไม่เคยท้อแท้ จะสู้ให้ถึงที่สุด ตอนนี้ก็มีสาวๆที่ดูใจกันอยู่บ้าง เขาบอกว่ารับเราได้ แต่เอาเข้าจริงๆไม่รู้จะเป็นยังไงแล้วแต่อนาคต”นายเอกนรินทร์กล่าว
ขณะที่นายพรเทพ มั่นชูพงศ์ เจ้าของร้านคอมแลบ กล่าวว่า ตนส่งเสริมให้คนพิการมีงานทำ ทั้งร้านมีแต่คนพิการทั้งนั้น มีทั้งหมด 5 คน ส่วนใหญ่พิการตั้งแต่กำเนิด มีนายเอกนรินทร์ที่พิการเพราะอุบัติเหตุ และเพิ่งรับมาทำงานช่วงหลังวันสงกรานต์ เขามีความสามารถพิเศษ ทำอะไรได้ค่อนข้างเหมือนคนปกติ แต่จะช้ากว่า แถมยังขับรถกระบะรับส่งของ และขับระยะทางไกลได้ ในสัปดาห์นี้ก็จะให้ขับไปรับส่งญาติคนงานที่ 3 จังหวัดในภาคอีสานด้วย
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
พบช่างซ่อมคอมพิวเตอร์พิการแขนขาดทั้ง 2 ข้าง กลางห้างดังย่านบางแค เผยก่อนหน้าปกติเหมือนคนอื่น แต่เกิดอุบัติเหตุไฟช็อตแขนขาไหม้เกรียม แพทย์ต้องตัดทิ้งรักษาชีวิต พอรักษาตัวหาย สำนักงานประกันสังคมส่งไปฝึกวิชาชีพ โดยเลือกเรียนด้านซ่อมคอมพิวเตอร์ หวังมาใช้ประกอบอาชีพที่บ้านเกิดกาฬสินธุ์ แต่มีเจ้าของร้านมารับไปทำงานเมื่อหลังสงกรานต์ที่ผ่านมาลั่นชีวิตนี้ไม่มีท้อ เรื่องของคนพิการสู้ชีวิตครั้งนี้เปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 8 พ.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ชื่อคอม แลบ บนชั้น 3 ภายในห้างเดอะมอลล์ บางแค ถนนเพชรเกษม แขวงและเขตบางแค เพื่อตรวจสอบข่าวที่มีผู้คนร่ำลือว่าภายในร้านแห่งนี้ มีช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ฝีมือดีแต่พิการแขนทั้ง 2 ข้าง ซ้ำขายังขาดอีก 1 ข้างด้วย เมื่อไปถึงร้านดังกล่าว พบชายหนุ่มพิการแขนขาดทั้ง 2 ข้าง ตั้งแต่ข้อศอกลงมา ส่วนขาซ้ายขาดตั้งแต่หัวเข่าลงมาต้องใส่ขาเทียม กำลังง่วนอยู่กับการซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ ด้วยการใช้ปากคาบไขควงเปิดฝาหลังโน้ตบุ๊กอย่างคล่องแคล่ว ท่ามกลางสายตาลูกค้าและผู้ที่เดินผ่านไปมายืนหยุดดูด้วยความชื่นชมปนทึ่ง จนกระทั่งช่วงพักเที่ยง ช่างซ่อมคอมพิวเตอร์พิการหนุ่มผู้นี้ได้เปิดเผยเบื้องหลังชีวิตให้ฟังว่า ชื่อนายเอกนรินทร์ สารรัตน์ ชื่อเล่นต้น อายุ 26 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน เลขที่ 26 หมู่ 4 ต.กุดค้าว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เพิ่งมาทำงานที่ร้านแห่งนี้ได้ไม่นาน โดยก่อนหน้ามีอวัยวะครบถ้วน ทำงานเป็น รปภ.อยู่ที่โรงงานน้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ ใกล้ๆบ้าน จนกระทั่งวันที่ 15 พ.ค.53 หลังแต่งงานแค่ 3 วัน ได้ออกไปรับเหมาขุดบ่อน้ำบาดาลกับพ่อตาที่บ้านหนองบัวทอน อยู่ห่างจากบ้านประมาณ 20 กม. ขณะที่กำลังยกตัวขุดดินเพื่อนำดินออกมาวางไว้นอกบ่อ เกิดอุบัติเหตุไฟช็อตตนกับพ่อตาจนหมดสติ บาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ มารู้ตัวอีกครั้งที่โรงพยาบาล เห็นแขน 2 ข้าง และขาข้างซ้ายของตนไหม้เกรียม แพทย์บอกว่าถ้าไม่ตัดทิ้งต้องเสียชีวิตเพราะจะติดเชื้อในกระแสเลือด ตอนนั้นคิดว่าเป็นเวรกรรมเก่า ชีวิตกำลังเริ่มต้นด้วยดีกลับมาเกิดเรื่องร้าย สุดท้ายยินยอมให้หมอตัดแขนตัดขาทิ้ง เมื่อฟื้นขึ้นมาเห็นแขนทั้ง 2 ข้าง และขาข้างซ้ายหายไป รู้สึกบอกไม่ถูกแต่คิดว่าต้องสู้ จะไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อชะตาชีวิต โดยรักษาตัวอยู่ 1 ปีเศษ มีภรรยาคอยดูแลจนกระทั่งมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน จากนั้นภรรยาได้หนีออกจากบ้านไม่ติดต่อกลับมาอีก จนต้องพาลูกสาววัยขวบเศษไปฝากให้แม่ตนดูแล นายเอกนรินทร์กล่าวต่อว่า ต่อมาสำนักงานประกันสังคมส่งตนไปฝึกความถนัดด้านวิชาชีพที่ศูนย์ฟื้นฟู สมรรถภาพคนงาน จ.ปทุมธานี โดยตนเลือกเรียนด้านการซ่อมคอมพิวเตอร์ เพราะน่าจะหาเงินง่าย เนื่องจากสมัยนี้เกือบทุกคนต้องมีคอมพิวเตอร์ใช้ ตั้งใจจะเอาไปทำมาหากินที่บ้านต่างจังหวัด เพราะมีร้านซ่อมคอมพิวเตอร์น้อยมาก ฝึกวิชาชีพเกือบ 2 ปี จนกระทั่งช่วงหลังสงกรานต์ที่ผ่านมา เฮียเจ้าของร้านคอม แลบ คือนายพรเทพ มั่นชูพงศ์ ไปรับตนมาทำงานที่ร้าน โดยเช่าบ้านย่านท่าพระให้อยู่กับลูกจ้างรุ่นพี่อีกคนที่พิการขาซ้ายขาดเช่นกัน ทุกวันนี้ นอกจากซ่อมคอมพิวเตอร์แล้ว ยังต้องขับรถกระบะของเฮียไปรับของส่งของ รวมทั้งส่งเพื่อนร่วมงานด้วย ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ เคยถูกตำรวจเรียกตรวจใบอนุญาตขับขี่ แต่เมื่อตำรวจเห็นสภาพตนก็ไม่ว่าอะไร “ทุกวันนี้ มีหน้าที่ลงโปรแกรม รื้อเครื่อง ซ่อมเครื่อง ทำได้เกือบทุกอย่าง ยกเว้นถ้านอตตัวเล็ก หรืองานชิ้นเล็กจริงๆต้องให้เพื่อนช่วยทำ แต่ไม่เคยท้อแท้ จะสู้ให้ถึงที่สุด ตอนนี้ก็มีสาวๆที่ดูใจกันอยู่บ้าง เขาบอกว่ารับเราได้ แต่เอาเข้าจริงๆไม่รู้จะเป็นยังไงแล้วแต่อนาคต”นายเอกนรินทร์กล่าว ขณะที่นายพรเทพ มั่นชูพงศ์ เจ้าของร้านคอมแลบ กล่าวว่า ตนส่งเสริมให้คนพิการมีงานทำ ทั้งร้านมีแต่คนพิการทั้งนั้น มีทั้งหมด 5 คน ส่วนใหญ่พิการตั้งแต่กำเนิด มีนายเอกนรินทร์ที่พิการเพราะอุบัติเหตุ และเพิ่งรับมาทำงานช่วงหลังวันสงกรานต์ เขามีความสามารถพิเศษ ทำอะไรได้ค่อนข้างเหมือนคนปกติ แต่จะช้ากว่า แถมยังขับรถกระบะรับส่งของ และขับระยะทางไกลได้ ในสัปดาห์นี้ก็จะให้ขับไปรับส่งญาติคนงานที่ 3 จังหวัดในภาคอีสานด้วย ขอบคุณ... http://m.thairath.co.th/content/newspaper/343697
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)