สัปเหร่อใจบุญรับเลี้ยง แม่เฒ่าวัย 73 ตาบอดเก็บขยะ
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2556 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.กำแพงเพชรได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าที่บริเวณชุมชนหลังวัดคลองลาน หมู่ที่ 1 ต.คลองลานพัฒนา อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร มีหญิงร่างกายพิการหลังงองุ้ม ตาขวาบอดหาเก็บขยะตามข้างถนนขายแลกเงินเลี้ยงชีวิต มีลูก 4 คน แต่แยกย้ายกันออกไป จึงอยู่เพียงคนเดียว
เมื่อไปถึงพบว่าที่กระต๊อบไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 1 ต.คลองลานพัฒนา เป็นที่อาศัยของหญิงชราทราบชื่อนางทองดี ศรีตะวัน อายุ 73 ปี สภาพร่างกายพิการหลังงองุ้ม ตาขวาบอด นั่งอยู่หน้ากระต๊อบยกพื้น มีพื้นที่ใช้สอยไม่ถึง 4 ตารางเมตร หลังคาและฝากั้นเป็นห้องพักอาศัยมีเศษกระดาษ พลาสติก ฯลฯวางอยู่ด้านใน และใช้สังกะสีเก่าสภาพพอคุ้มแดดได้แต่ไม่คุ้มฝน
นางทองดีเล่าให้ฟังว่าตนเองมีลูก 4 คน เป็นชาย 2 คน ปัจจุบันทั้ง 2 คนบวชเป็นพระ ส่วนหญิง 2 คนมีครอบครัวแล้ว ก่อนหน้านี้อาศัยอยู่กับลูกสาวและลูกเขยที่บ้านเลขที่ 15 หมู่ที่ 2 ต.ท่าพุทรา อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร อ.คลองขลุง แต่เนื่องจากลูกสาวก็มีฐานะยากจน ตนเองไม่อยากทำตัวเป็นภาระจึง ได้แยกมาอยู่ที่ อ.คลองลาน มาหาเก็บขยะ เก็บของเก่าขายเลี้ยงชีวิต กระทั่งนายกั้ง สัปเหร่อใจบุญและมีอาชีพรับซื้อของเก่ามาพบและเวทนาจึงชวนให้ไปอยู่ด้วยกัน โดยปลูกกระต๊อบให้อยู่และเป็นธุระคอยดูแลทั้งพาไปขายของเก่าที่ร้านรับซื้อของเก่าและพาไปหาหมอเวลาไม่สบายชีวิตไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
นางทองดีเล่าต่อว่าตอนเช้าเมื่อกินข้าวแล้วก็จะคัดแยกขยะที่หาเก็บมาได้ เพราะแต่ละชนิดราคาไม่เท่ากัน หลังจากนั้นจะรวบรวมไว้เมื่อมากพอก็นำไป ขาย ซึ่งก็ได้นายกั้งเป็นคนพาไป ได้เงินพอประทังชีวิต ส่วนช่วงเย็นๆของทุกวันตนพร้อมรถเข็นคู่ใจจะตระเวนเก็บเศษ กระดาษ กระป๋อง ขวดพลาสติก ขวดแก้ว บางครั้งเจ้าของร้านค้าเขาสงสารก็เก็บกระดาษกระป๋องไว้ให้ บ่อยครั้งที่เหนื่อยล้าต้องนอนพักริมทางข้างถนน เพราะตระเวนเดินหาวันละหลายกิโล ซึ่งกว่าจะกลับถึงที่พักอาบน้ำกินข้าวก็เข้าสู่วันใหม่ วันไหนไม่สบายก็ไม่ได้ออกไปเก็บขยะ อาหารหลักมีเพียงข้าวกับปลาร้าประทังชีวิต ส่วนเบี้ยยังชีพที่ได้รับ 500 บาทต่อเดือนนั้นไม่พอเลี้ยงปากเลี้ยงทอง ต้องกล้ำกลืนฝืนกินปลาร้ากับน้ำพริก ไม่เคยได้ลิ้มรสเนื้อหมู เนื้อไก่
ด้านนายกั้ง แอสูงเนิน สัปเหร่อใจบุญและยังมีอาชีพรับซื้อของเก่า เปิดเผยว่า พบนางทองดีสภาพหลังงอ งุ้มแบกถุงปุ๋ยตระเวนเก็บขยะไปตามถนน เห็นสภาพรู้สึกเวทนา จึงได้ชวนให้มาอยู่ด้วยกันโดยปลูกกระต๊อบให้อยู่ข้างบ้านของตน มีภรรยาของตนคอยดูแล นางทองดีจะออกไปเก็บขยะช่วงบ่าย ๆ กว่าจะกลับเข้ามาก็ค่อนคืนเป็นอย่างนี้ทุกวัน เวลาเจ็บป่วยไม่สบายก็ช่วยพา ไปหาหมอก็รู้สึกเป็นห่วงเสมือนญาติคนหนึ่ง
ขอบคุณ… http://www.dailynews.co.th/thailand/203764 (ขนาดไฟล์: 167)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
แม่เฒ่าวัย 73 ตาบอด อาศัยภายในเพิงไม้ เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2556 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.กำแพงเพชรได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าที่บริเวณชุมชนหลังวัดคลองลาน หมู่ที่ 1 ต.คลองลานพัฒนา อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร มีหญิงร่างกายพิการหลังงองุ้ม ตาขวาบอดหาเก็บขยะตามข้างถนนขายแลกเงินเลี้ยงชีวิต มีลูก 4 คน แต่แยกย้ายกันออกไป จึงอยู่เพียงคนเดียว เมื่อไปถึงพบว่าที่กระต๊อบไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 1 ต.คลองลานพัฒนา เป็นที่อาศัยของหญิงชราทราบชื่อนางทองดี ศรีตะวัน อายุ 73 ปี สภาพร่างกายพิการหลังงองุ้ม ตาขวาบอด นั่งอยู่หน้ากระต๊อบยกพื้น มีพื้นที่ใช้สอยไม่ถึง 4 ตารางเมตร หลังคาและฝากั้นเป็นห้องพักอาศัยมีเศษกระดาษ พลาสติก ฯลฯวางอยู่ด้านใน และใช้สังกะสีเก่าสภาพพอคุ้มแดดได้แต่ไม่คุ้มฝน แม่เฒ่าวัย กำลังหาเก็บขยะขาย นางทองดีเล่าให้ฟังว่าตนเองมีลูก 4 คน เป็นชาย 2 คน ปัจจุบันทั้ง 2 คนบวชเป็นพระ ส่วนหญิง 2 คนมีครอบครัวแล้ว ก่อนหน้านี้อาศัยอยู่กับลูกสาวและลูกเขยที่บ้านเลขที่ 15 หมู่ที่ 2 ต.ท่าพุทรา อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร อ.คลองขลุง แต่เนื่องจากลูกสาวก็มีฐานะยากจน ตนเองไม่อยากทำตัวเป็นภาระจึง ได้แยกมาอยู่ที่ อ.คลองลาน มาหาเก็บขยะ เก็บของเก่าขายเลี้ยงชีวิต กระทั่งนายกั้ง สัปเหร่อใจบุญและมีอาชีพรับซื้อของเก่ามาพบและเวทนาจึงชวนให้ไปอยู่ด้วยกัน โดยปลูกกระต๊อบให้อยู่และเป็นธุระคอยดูแลทั้งพาไปขายของเก่าที่ร้านรับซื้อของเก่าและพาไปหาหมอเวลาไม่สบายชีวิตไม่รู้สึกโดดเดี่ยว นางทองดีเล่าต่อว่าตอนเช้าเมื่อกินข้าวแล้วก็จะคัดแยกขยะที่หาเก็บมาได้ เพราะแต่ละชนิดราคาไม่เท่ากัน หลังจากนั้นจะรวบรวมไว้เมื่อมากพอก็นำไป ขาย ซึ่งก็ได้นายกั้งเป็นคนพาไป ได้เงินพอประทังชีวิต ส่วนช่วงเย็นๆของทุกวันตนพร้อมรถเข็นคู่ใจจะตระเวนเก็บเศษ กระดาษ กระป๋อง ขวดพลาสติก ขวดแก้ว บางครั้งเจ้าของร้านค้าเขาสงสารก็เก็บกระดาษกระป๋องไว้ให้ บ่อยครั้งที่เหนื่อยล้าต้องนอนพักริมทางข้างถนน เพราะตระเวนเดินหาวันละหลายกิโล ซึ่งกว่าจะกลับถึงที่พักอาบน้ำกินข้าวก็เข้าสู่วันใหม่ วันไหนไม่สบายก็ไม่ได้ออกไปเก็บขยะ อาหารหลักมีเพียงข้าวกับปลาร้าประทังชีวิต ส่วนเบี้ยยังชีพที่ได้รับ 500 บาทต่อเดือนนั้นไม่พอเลี้ยงปากเลี้ยงทอง ต้องกล้ำกลืนฝืนกินปลาร้ากับน้ำพริก ไม่เคยได้ลิ้มรสเนื้อหมู เนื้อไก่ แม่เฒ่านั่งอยู่กับรถเข็นขยะ ด้านนายกั้ง แอสูงเนิน สัปเหร่อใจบุญและยังมีอาชีพรับซื้อของเก่า เปิดเผยว่า พบนางทองดีสภาพหลังงอ งุ้มแบกถุงปุ๋ยตระเวนเก็บขยะไปตามถนน เห็นสภาพรู้สึกเวทนา จึงได้ชวนให้มาอยู่ด้วยกันโดยปลูกกระต๊อบให้อยู่ข้างบ้านของตน มีภรรยาของตนคอยดูแล นางทองดีจะออกไปเก็บขยะช่วงบ่าย ๆ กว่าจะกลับเข้ามาก็ค่อนคืนเป็นอย่างนี้ทุกวัน เวลาเจ็บป่วยไม่สบายก็ช่วยพา ไปหาหมอก็รู้สึกเป็นห่วงเสมือนญาติคนหนึ่ง ขอบคุณ… http://www.dailynews.co.th/thailand/203764
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)