“อัครา” ประกาศมอบของขวัญปีใหม่ ปรับเงื่อนไข เตรียมเพิ่มเบี้ยคนพิการถ้วนหน้าคนละ 1 พันบาท
“ไทยรัฐกรุ๊ป”ได้รับรางวัลสื่อมวลชนสร้างสรรค์ส่งเสริมคนพิการปี 2568 ด้าน “อัครา” ประกาศมอบของขวัญปีใหม่ให้คนพิการทั่วประเทศด้วยการปรับเงื่อนไข เพิ่มเบี้ยคนพิการถ้วนหน้าคนละ 1 พันบาท
วันที่ 3 ธ.ค.ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี นายอัครา พรหมเผ่า รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานเปิดงานวันคนพิการสากล ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด “การส่งเสริมสังคมที่ครอบคลุมและเอื้อต่อคนพิการ เพื่อขับเคลื่อนความก้าวหน้าและการพัฒนาทางสังคมอย่างยั่งยืน”
ภายในงานนายอัครา ได้เป็นประธานมอบโล่ประกาศเกียรติคุณยกย่องเชิดชูเกียรติแก่คนพิการต้นแบบ และสื่อมวลชนสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมคนพิการ ประจำปี 2568 โดยในปีนี้ “ไทยรัฐกรุ๊ป”ได้รับเลือกให้เป็นสื่อมวลชนสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมคนพิการด้วย โดยมี นางสมฤดี ยี่ทอง บรรณาธิการข่าวไทยรัฐทีวี เป็นตัวแทนร่วมรับรางวัล
นอกจากนี้นายอัครายังเป็นสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ (MOU) 2 ฉบับ ได้แก่ MOU ว่าด้วยการส่งเสริมระบบขนส่ง เพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้า รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพ เพื่อขยายโอกาสในการสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้สำหรับคนพิการและผู้ดูแลคนพิการ ระหว่าง พก.กับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และ MOU ว่าด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศเพื่อการส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการด้วยนวัตกรรมภูมิสารสนเทศ ระหว่าง พก.กับ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA
นายวิทยุต บุนนาค นายกสมาคมคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในฐานะคนหูหนวกคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตมา 50 กว่าปีโดยไม่ได้ยินเสียงพูด รอดมาได้ในทุกวันนี้ไม่ใช่เพราะว่าเก่งกว่าคนอื่น แต่ตนโชคดีที่มีโอกาสได้เรียนรู้มีคนสนับสนุนอยู่รอบข้างและมีความมุ่งมั่นที่จะสู้ด้วยตนเอง แต่ยังมีผู้พิการอีกหลายล้านคน ที่ยังไม่มีโอกาสในปีนี้ทีมขององค์การสหประชาชาติส่งเสริมสังคมที่รวมคนพิการเพื่อความก้าวหน้าทางสังคม ทีมนี้มาเพื่อทำให้หลายเรื่องมีความสอดคล้องกัน แต่ที่สำคัญคือการที่เราต้องปฏิบัติจริงไม่ใช่เพียงแค่พูดลอย ๆ ว่าต้องรวมคนพิการซึ่งในตอนนี้เรายังถูกทิ้ง
ขอมีล่ามภาษามือหากเกิดข่าวด่วน
โดยขอยกตัวอย่าง
1. วันถวายพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตนและพี่น้องคนพิการทางร่างกายทางการเคลื่อนไหวหลายคนปรารถนาที่จะเข้าถวายความอาลัยและกราบพระบรมศพอย่างใกล้ชิดที่สุด แต่ในวันนั้นเราก็ไม่สามารถเข้าไปร่วมได้เต็มที่ เนื่องจากสถานที่นั้นยังไม่สามารถเข้าถึงได้อย่างแท้จริง ในฐานะคนพิการ จึงอยากจะแก้ไขปัญหาในจุดนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในระดับชาติเช่นนั้นอีก จึงใคร่ขอความร่วมมือให้สถานที่ราชการ สถานที่สาธารณะ และกิจกรรมระดับชาติทุกรูปแบบ ออกแบบตามหลัก Universal design เพื่อให้ผู้พิการทุกประเภทสามารถเข้าถึง และมีส่วนร่วมได้อย่างมีศักดิ์ศรีและเท่าเทียม
2. สถานีโทรทัศน์และสถานีข่าวของรัฐ ทั้งข่าวปกติและข่าวด่วน โดยเฉพาะช่วงน้ำท่วมใหญ่ภาคใต้เมื่อไม่นานมานี้ ยังไม่มีล่ามภาษามือ เลยสักครั้ง “ผมและคนหูหนวกที่จดทะเบียนกว่า 400,000 คนและมีอีกหลายแสนคนที่ยังไม่จดทะเบียน ไม่รู้เลยว่า รัฐบาลแจ้งข่าวสารอะไรอยู่ ไม่รู้ว่าต้องอพยพไปที่ไหนและศูนย์ช่วยเหลืออยู่ตรงไหน นี่ไม่ใช่เรื่องของเทคโนโลยี แต่นี่คือเรื่องของศักดิ์ศรีและความปลอดภัยในชีวิต ผมขอวิงวอนจากใจจริง ขอให้ทุกสื่อของรัฐ ทุกการเรียนการสอน ทุกการแถลงข่าวไม่ว่าจะปกติหรือฉุกเฉิน ขอให้มีคำบรรยายแทนเสียงและมีล่ามภาษามือให้ครบทุกครั้ง
ทั้งนี้ขอฝากอีก 3 เรื่องสำคัญ คือ
1. การศึกษา โรงเรียนสอนคนหูหนวกที่เปิดมากกว่า 60 ปี ต้องมีครูที่ใช้ภาษามือไทยได้คล่องและผ่านการประเมินสมรรถนะมาอย่างชัดเจน เพราะภาษามือไทยคือภาษาแรกของคนหูหนวกที่เข้าถึงได้อย่างเต็มที่ เมื่อเด็กเข้าถึงภาษาแรกได้อย่างสมบูรณ์จึงจะสามารถพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนภาษาไทยให้เก่งอย่างมีคุณภาพ พร้อมทั้งทุกสื่อการเรียนการสอน จะต้องมีล่ามภาษามือไทยและคำบรรยายแทนเสียงให้ครบทุกครั้ง
2. จัดตั้งศูนย์การจ้างงานคนพิการแห่งชาติที่เป็นรูปธรรมชัดเจนเพื่อให้เงินกองทุนนั้นถูกใช้และเกิดประโยชน์สูงสุด
3.ขอให้ปรับเบี้ยคนพิการให้เท่าเทียมกัน 1,000 บาท เพื่อเป็นสวัสดิการพื้นฐานที่มั่นคง
ประกาศมอบของขวัญปีใหม่
ขณะที่นายอัครา พรหมเผ่า รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ระบุว่า องค์การสหประชาชาติ ประกาศให้วันที่ 3 ธ.ค.ของทุกปี เป็นวันคนพิการสากล พม.กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) จึงได้ร่วมกับองค์กรคนพิการทุกประเภทจัดงานวันคนพิการสากลมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ พม. กำหนดเป็น 1 ในนโยบายในการขับเคลื่อนการดำเนินงานดูแลคนพิการให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ เข้าถึงสิทธิสวัสดิการอย่างทั่วถึง และมีโอกาสสร้างรายได้ที่มากขึ้น ซึ่งคนพิการทั่วประเทศมีกว่า 4 ล้านคน ในจำนวนนี้ขึ้นทะเบียนมีบัตรคนพิการเพียง 2.27 ล้านคน ตนจึงได้ปรับเกณฑ์ประเมินความพิการด้วยการเพิ่มการประเมินด้านสังคมนอกเหนือจากประเมินกายภาพ เพื่อให้คนพิการได้ขึ้นทะเบียนมีบัตรคนพิการในการเข้าถึงสิทธิสวัสดิการมากขึ้น ซึ่งตนได้ลงนามในร่างประกาศเกณฑ์ฉบับใหม่แล้ว อยู่ระหว่างเสนอประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อมีผลบังคับใช้ จะทำให้คนพิการมาขึ้นทะเบียนเพื่อเข้าถึงสิทธิมากขึ้น ขณะเดียวกันได้เสนอปรับเบี้ยคนพิการเป็น 1,000 บาทต่อเดือนถ้วนหน้า รวมถึงการเสนอจัดสรรเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดเดือนละ 600 บาทเป็นแบบถ้วนหน้า ซึ่งได้เสนอเรื่องเข้าสู่วาระการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว โดยตนจะประสาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้เร่งผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของครม.เพื่อเป็นควิกวินของขวัญปีใหม่ให้กับกลุ่มคนพิการและเด็กแรกเกิด
มี 3 ภารกิจเร่งด่วน
นายอัครา กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีภารกิจสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ 3 ประเด็น คือ 1.บูรณาการขับเคลื่อนมาตรการและแนวทางลดรายจ่าย สร้างรายได้ โดยส่งเสริมศักยภาพและพัฒนาอาชีพคนพิการ 2.ส่งเสริมการจ้างงานคนพิการในหน่วยงานของรัฐและสถานประกอบการ และ 3.พลิกโฉม One Stop Service : จุดเดียวจบครบถึงเบี้ย ด้วยการพัฒนาระบบการให้บริการคนพิการแบบเบ็ดเสร็จ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง



