"มติชนเฮลท์แคร์" แจก “ยอ” มี วิตามินเอ ป้องกันตาบอดในเด็ก
ใกล้จะถึงวันเปิดงาน "มติชน เฮลท์แคร์ 2013" แล้วในสัปดาห์นี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. ถึง 2 มิ.ย. 2556 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ปีนี้มาในชื่องานว่า "สู้โรคไร้พรมแดน" บ่งบอกถึงการเตรียมรับมือกับโรคภัยไข้เจ็บ ที่จะมาพร้อมกับการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558 บางโรคบ้านเราไม่มีมานานแล้ว แต่ก็อาจ ข้ามแดนมาอีกครั้ง เมื่ออนาคตชาติอาเซียนจะเชื่อมเข้าหากันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น วัณโรค โรคเอดส์ มาลาเรีย โรคเท้าช้าง โรคไข้เลือดออก โรคคอตีบ โรคหัด โรคไข้หวัดนก โรคมือเท้าปาก และโรคอุจจาระร่วง
แทน ที่จะตื่นตระหนก กลัวการเปลี่ยนแปลง สิ่งสำคัญที่ควรทำคือแนวทางการป้องกัน การรู้จักสังเกต รวมทั้งหากเป็นแล้วทำอย่างไร จึงจะรักษาและควบคุมการติดต่อได้อย่างทันท่วงที
ในงานมติชน เฮลท์แคร์ ครั้งที่ 5 จะมีคำตอบนี้ ไฮไลต์หนึ่งในงานที่ขาดไม่ได้คือการแจกต้นไม้สมุนไพรโดย โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร วันละ 200 ต้น นอกจากการแจกให้ผู้ร่วมงานนำต้นไม้ไปปลูกกันแล้ว สิ่งที่ได้จากกิจกรรมนี้ในทุกปีก็คือความรู้เกี่ยวกับการใช้อาหารเป็นยา อันเป็นวิทยาการด้านภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยซึ่งจะมีส่วนตอบโจทย์การรับมือ โรคไร้พรมแดนได้เป็นอย่างดี
ในงานปีนี้ "ยาอายุวัฒนะ" 4 ชนิด ได้แก่ ยอ มะขามป้อม เครือเขาแกลบ และเท้ายายม่อม แต่ละชนิดล้วนน่ารู้จักเป็นอย่างยิ่งเริ่มจาก "ยอ" อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ใบ ยอ 100 มิลลิกรัม มีวิตามินซี 76 มิลลิกรัม มากกว่ามะนาวถึงสองเท่า กินแล้วเพิ่มภูมิคุ้มกัน ต้านมะเร็ง นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม 350 มิลลิกรัม มากกว่านมสามเท่า นอกจากนั้น ยอยังมี วิตามินเอ ป้องกันการตาบอดในเด็ก พร้อมด้วยเหล็กและฟอสฟอรัสในปริมาณสูง ประโยชน์ทางยา คือช่วยย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องอืดเฟ้อ อาหารไม่ย่อย มีบางท่านนำใบยอที่ไม่แก่ไม่อ่อนจนเกินไป หั่นตากแดด บดเป็นผงละลายน้ำร้อน ดื่มครั้งละสองช้อนกาแฟหรือผสมน้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอนกินครั้งละ 1-2 เม็ด ส่วนผลยอมีวิตามินซีสูงเช่นกัน ใกล้เคียงกับมะขามป้อมคือ 208 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนัก 100 กรัม ใช้แกงส้ม แกงเลียง หรือตำส้มตำแทนมะละกอ ผลของยอมีรสเผ็ดร้อนช่วยขับลมในลำไส้ มีสรรพคุณที่แรงกว่าใช้ใบกินแล้วผายลมสบายท้องดีจริงๆ นอก จากนี้ยังแก้คลื่นเหียนอาเจียนช่วย ย่อยอาหาร บำรุงธาตุไฟได้ดีนัก จึงนิยมใช้ทำยารักษาโรคท้องอืดท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ทั้งยังช่วยขับประจำเดือนฟอกเลือดสตรีให้งาม ผิวพรรณเปล่งปลั่ง รักษาอาการประจำเดือนไม่ปกติได้อีกด้วย
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
สมุนไพร 4 ประเภท ประกอบด้วย ยอ, มะขามป้อม, เครือเขาแกลบ และเท้ายายม่อม ใกล้จะถึงวันเปิดงาน "มติชน เฮลท์แคร์ 2013" แล้วในสัปดาห์นี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. ถึง 2 มิ.ย. 2556 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ปีนี้มาในชื่องานว่า "สู้โรคไร้พรมแดน" บ่งบอกถึงการเตรียมรับมือกับโรคภัยไข้เจ็บ ที่จะมาพร้อมกับการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558 บางโรคบ้านเราไม่มีมานานแล้ว แต่ก็อาจ ข้ามแดนมาอีกครั้ง เมื่ออนาคตชาติอาเซียนจะเชื่อมเข้าหากันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น วัณโรค โรคเอดส์ มาลาเรีย โรคเท้าช้าง โรคไข้เลือดออก โรคคอตีบ โรคหัด โรคไข้หวัดนก โรคมือเท้าปาก และโรคอุจจาระร่วง แทน ที่จะตื่นตระหนก กลัวการเปลี่ยนแปลง สิ่งสำคัญที่ควรทำคือแนวทางการป้องกัน การรู้จักสังเกต รวมทั้งหากเป็นแล้วทำอย่างไร จึงจะรักษาและควบคุมการติดต่อได้อย่างทันท่วงที ในงานมติชน เฮลท์แคร์ ครั้งที่ 5 จะมีคำตอบนี้ ไฮไลต์หนึ่งในงานที่ขาดไม่ได้คือการแจกต้นไม้สมุนไพรโดย โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร วันละ 200 ต้น นอกจากการแจกให้ผู้ร่วมงานนำต้นไม้ไปปลูกกันแล้ว สิ่งที่ได้จากกิจกรรมนี้ในทุกปีก็คือความรู้เกี่ยวกับการใช้อาหารเป็นยา อันเป็นวิทยาการด้านภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยซึ่งจะมีส่วนตอบโจทย์การรับมือ โรคไร้พรมแดนได้เป็นอย่างดี ในงานปีนี้ "ยาอายุวัฒนะ" 4 ชนิด ได้แก่ ยอ มะขามป้อม เครือเขาแกลบ และเท้ายายม่อม แต่ละชนิดล้วนน่ารู้จักเป็นอย่างยิ่งเริ่มจาก "ยอ" อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ใบ ยอ 100 มิลลิกรัม มีวิตามินซี 76 มิลลิกรัม มากกว่ามะนาวถึงสองเท่า กินแล้วเพิ่มภูมิคุ้มกัน ต้านมะเร็ง นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม 350 มิลลิกรัม มากกว่านมสามเท่า นอกจากนั้น ยอยังมี วิตามินเอ ป้องกันการตาบอดในเด็ก พร้อมด้วยเหล็กและฟอสฟอรัสในปริมาณสูง ประโยชน์ทางยา คือช่วยย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องอืดเฟ้อ อาหารไม่ย่อย มีบางท่านนำใบยอที่ไม่แก่ไม่อ่อนจนเกินไป หั่นตากแดด บดเป็นผงละลายน้ำร้อน ดื่มครั้งละสองช้อนกาแฟหรือผสมน้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอนกินครั้งละ 1-2 เม็ด ส่วนผลยอมีวิตามินซีสูงเช่นกัน ใกล้เคียงกับมะขามป้อมคือ 208 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนัก 100 กรัม ใช้แกงส้ม แกงเลียง หรือตำส้มตำแทนมะละกอ ผลของยอมีรสเผ็ดร้อนช่วยขับลมในลำไส้ มีสรรพคุณที่แรงกว่าใช้ใบกินแล้วผายลมสบายท้องดีจริงๆ นอก จากนี้ยังแก้คลื่นเหียนอาเจียนช่วย ย่อยอาหาร บำรุงธาตุไฟได้ดีนัก จึงนิยมใช้ทำยารักษาโรคท้องอืดท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ทั้งยังช่วยขับประจำเดือนฟอกเลือดสตรีให้งาม ผิวพรรณเปล่งปลั่ง รักษาอาการประจำเดือนไม่ปกติได้อีกด้วย ขอบคุณ... http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNVEk0TURVMU5nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE15MHdOUzB5T0E9PQ==
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)